xs
xsm
sm
md
lg

กลยุทธ์ SMEs ไทยสู่อาเซียนหลักการซุนวู เข้าใจโจทย์ รู้วิธี มีเครือข่าย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย จัดงานสัมมนาBusiness Mentoring หัวข้อ "กลยุทธ์SMEsไทยสู่อาเซียนหลักการซุนวู“เข้าใจโจทย์ รู้วิธี มีเครือข่าย” เพื่อให้ความรู้เชิงลึกในการลงทุน เจาะกลุ่ม 4 ประเทศหลัก CLMV เวียดนาม กัมพูชา เมียนมาร์ และอินโดนีเซีย - ฟิลิปปินส์ มอบเคล็บลับการลงทุนจากกูรู วิทยากรตัวจริง

นางอัมพวัน พิชาลัย รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า “การจัดงานสัมมนาครั้งนี้ ได้เชิญวิทยากรตัวจริงผู้ทำธุรกิจในต่างแดนมาเปิดตำรากลยุทธ์การค้าเพื่อให้ SMEs ผู้ส่งออก และนักพัฒนาธุรกิจ ได้เห็นภาพของสนามธุรกิจ สถานการณ์การแข่งขัน ปัญหา อุปสรรค และโอกาส ก่อนเริ่มดำเนินธุรกิจในตลาดเพื่อนบ้าน CLMV และอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เพื่อให้นักธุรกิจ ผู้ประกอบการ ลดความเสี่ยงจากการลงทุนผิดพลาด และกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศยินดีเป็นที่ปรึกษาและทำหน้าที่ Business Matching ให้กับนักธุรกิจเพื่อสร้างเครือข่าย SMEs ที่เข้มแข็งมากขึ้น

โดยมีการเสวนาเรื่องตีโจทย์ตลาดอาเซียน แบบกลยุทธ์ ซุนวู โดยคุณมนัส มนูญชัย senior Vice President of international Business division บริษัทเบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า จากประสบการณ์การทำธุรกิจกับประเทศในอาเซียน ที่ผ่านมาจะเห็นว่าประเทศเวียดนาม มีความตื่นตัวมากขึ้น เด็กรุ่นใหม่สนใจที่เรียนรู้ภาษาอังกฤษเเละเรียนเพิ่มเติมเรื่องไอที เพราะเห็นช่องทางที่จะขยายธุรกิจด้วยกระแสโลกโลกาภิวัฒน์ นักธุรกิจที่ต้องการจะไปลงทุนที่นั่นจะต้องหา Distributor เก่งและ มีเครือข่ายเพื่อจะทำการค้าได้อย่างสะดวก และควรจะต้องศึกษาความชอบของคนใช้เเละหาสินค้าที่คนประเทศนั้นๆ ใช้อยู่เเล้วเพื่อหาโอกาสสร้างความแตกต่างจากผลิตภัณฑ์เดิม ไม่ควรไปเปลี่ยนเเปลงพฤติกรรมการใช้ของคนเวียดนาม กลยุทธ์นี้จะเพิ่มโอกาสการทำการค้าได้มากกว่าและต้องมีความรัดกุมศึกษากฎหมายให้ดีก่อนทำการค้าเซ็นต์สัญญา เเต่หากมองถึงโอกาสที่เข้าไปลงทุนในขณะนี้ประเทศพม่าจะน่าเข้าไปลงทุนมากที่สุด ถึงเเม้ว่าตอนนี้จะยังมีปัญหาเรื่องระบบสาธารณูปโภคแต่คาดว่าอีก 2 ปีจะมีความพร้อมมากขึ้นเเน่นนอน

น.ส.บุษบา บุตรรัตน์ ทูตพาณิชย์ไทยประจำกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม กล่าวเสริมเรื่องกฎหมายว่า นักธุรกิจควรมองหาที่ปรึกษากกฎหมายและศึกษาให้ชัดเจนก่อน เพราะเอกสารสัญญา ทุกอย่างจะเป็นภาษาเวียดนามทั้งหมด และกฎหมายมีการเปลี่ยนเเปลงตลอดเวลา ซึ่งคนเวียดนามมีความชอบสินค้าไทยอยู่แล้วเป็นทุนเดิม เพราะมีสินค้าที่หลากหลาย มีความทันสมัย มีคุณภาพดี เเละต่อไปรัฐบาลเวียดนามจะไม่ผลิตเเต่เฉพาะ mass product เท่านั้น จะทำสินค้าเฉพาะทางที่เจาะกลุ่มลูกค้ามากขึ้นเพื่อเพิ่มมูลค่าทางการค้า นักธุรกิจควรมองหาช่องทางการลงทุนร่วมกัน ศึกษาก่อนว่าไทยเรามีศักยภาพตรงไหน เพื่อจะสร้างพันธมิตรทางการค้าที่ดีในอนาคต

นายสง่า เก่งทอง รองประธานหอการค้าจังหวัดตาก และกรรมการบริษัท แคน - หยง จำกัด ให้มุมมองของประเทศเมียนมาร์ว่า สินค้าส่งออกยอดนิยมของเมียนมาร์ ได้แก่ น้ำมันเชื้อเพลิงผงชูรส เครื่องใช้ไฟฟ้า น้ำมันพืช จากเมื่อก่อนผงชูรสห้ามนำเข้าที่เคยห้ามเดี๋ยวนี้ยกเลิกเเล้ว การจะเข้าไปลงทุนในเมียนมาร์จะต้องระมัดระวังความเสี่ยงอัตราเงินขึ้นลง หากขนส่งล่าช้าด้วยทางเรือจะทำให้สินค้าเสียมูลค่ามากขึ้น คนจึงนิยมทำการค้าชายเเดนมากขึ้น เพราะระยะทางจากเเม่สอด จังหวัดตากไป เมียนมาร์จะใช้เวลาแค่ 5-7 วันเท่านั้น เเละปัจุจบันสินค้า 165 รายการที่เคยมีข้อห้ามก็ยกเลิกแล้วไม่ต้องขออนุญาตนำเข้าเเละไม่จำกัดโควต้า ตลาดพม่ายังถือว่าเป็นตลาดที่คนไทยควรจะเข้าไปเพราะ เพิ่งเปิดประเทศและต้องการขยายโอกาสการลงทุน

นางพิมล ปงกองแก้ว อัคราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายการพาณิชย์ ประเทศไทย ประจำสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ตอกย้ำว่า ประเทศ ส.ป.ป. ลาวนั้นประเทศไทยยังรักษา ส่วนเเบ่งได้มากถึง 60% จีนยังเจาะเข้ามาไม่ได้ และกลยุทธ์ 3 ข้อคือ เศรษฐกิจ วัฒนธรรม และสังคม ที่คล้ายคลึง ทำให้ทั้ง 2 ประเทศทำธุรกิจเข้าใจกันได้ง่าย แต่ต้องระมัดระวังเรื่องความแตกต่างของภาษา ที่มีหลายความหมายในคำๆ เดียวและเป็นโอกาสที่น่าลงทุนเพราะเป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์ ในอนาคตปี 2560 สปป.ลาวจะมีเเหล่งไฟฟ้าลิกไนท์ ที่ผลิตกระเเสไฟฟ้าที่จะช่วยกำลังการผลิต มากขึ้น สิ่งที่จะต้องระมัดระวังในเรื่องการลงทุนคือการลอกเลียนแบบบรรุจภัณฑ์ นักธุรกิจที่จะเข้าไปลงทุนต้องมีการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาให้เรียบร้อยก่อน

ผศ. ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวสรุปว่า การจะไปทำธุรกิจในประเทศอาเซียนนั้น ต้องเรียนรู้วิธีการ เรียนรู้พฤติกรรมความชอบของคนแต่ละเทศ ความแตกต่างด้านวัฒนธรรม สังคม ภาษา ต้องมีเครือข่ายที่แข็งแรงและเชื่อถือได้ และที่สำคัญที่สุด คือ ต้องรอบคอบเรื่องกฏหมาย ข้อตกลงที่ชัดเจน เพื่อให้การขยายตลาดสู่อาเซียนนั้นจะเพิ่มมูลค่าการส่งออกและช่วยสร้างการเติบโตของประเทศได้ในอนาคต

********************************************

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SME ผู้จัดการออนไลน์” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *

กำลังโหลดความคิดเห็น