“บริติช ช็อตแฮร์” แมวการ์ฟิลด์ ปรากฏตัวในไทย ดูดเงินเศรษฐีกระเป๋าหนัก (ชมคลิป)

ถ้าเอ่ยถึงแมวสายพันธุ์ “บริติช ช็อตแฮร์” ภาพที่ปรากฏต่อหน้าคือ แมวหน้าใหญ่ ตัวอ้วนกลม หางหนากลมๆ นิสัยที่เป็นมิตร ซึ่งคนทั่วไปจะรู้จักในภาพของการ์ตูนเจ้าแมวอ้วน “การ์ฟิลด์” และเมื่อเจ้าแมวอ้วนในจินตนาการของเด็กๆ ได้มาปรากฏตัวแบบตัวเป็นๆ อย่าง “บริติช ช็อตแฮร์” ทำให้เศรษฐีกระเป๋าหนักอดใจไม่ไหว ชอปเจ้าแมวอ้วนน่ารักๆ ไปนอนกอดกันคนละตัว สองตัว

ประเด็นไม่ได้อยู่ที่เศรษฐีกระเป๋าหนัก แต่อยู่ที่ผู้ประกอบการนำเข้าแมวเหล่านี้ร่ำรวยเป็นเศรษฐีตามไปด้วย และหนึ่งในไม่กี่รายที่นำเข้าแมวบริติช ช็อตแฮร์ที่เรากล่าวถึงในครั้งนี้ก็คือ “อิสริยะ รัตนะวีระวงศ์” เจ้าของผู้นำเข้า

“อิสริยะ” เล่าว่า ตนได้นำเข้า “บริติช ช็อตแฮร์” โดยการคัดเลือกสายพันธุ์แชมป์จากทั่วโลก เช่น ประเทศอังกฤษ รัสเซีย เอสโตเนีย เนเธอร์แลนด์ และเยอรมนี โดยเริ่มนำเข้ามา และเพาะพันธุ์จำหน่ายได้ประมาณ 3 ปี ซึ่งผลตอบรับออกมาค่อนข้างดีเลยทีเดียว เพราะด้วยนิสัยของแมวที่ขี้อ้อนทำให้หลายคนที่ได้สัมผัสก็จะหลงรัก และซื้อกลับไปเลี้ยง แม้ว่าราคาค่อนข้างสูงก็ตาม

ทั้งนี้ เริ่มจำหน่ายลูกแมวตั้งแต่อายุ 4 เดือนขึ้นไป แต่ลูกค้าสามารถมาเลือกและจองได้ตั้งแต่สัปดาห์แรกที่ออกมา แต่จะยังไม่อนุญาตให้นำไปเลี้ยงจนกว่าจะอายุ 4 เดือน ซึ่งแมวที่จำหน่ายออกไปจะต้องผ่านการดูแลตามขั้นต้นจากทางผู้เลี้ยงก่อน ไม่ว่าจะเป็นการฉีดวัคซีนป้องกันโรคตามที่สัตวแพทย์กำหนด และแมวทุกตัวก่อนส่งมอบให้ลูกค้าจะต้องผ่านการทำหมันเพื่อป้องกันการผสมข้ามสายพันธุ์

“ลูกแมวเราขึ้นทะเบียนและมีใบเพ็ดดีกรีระดับสากลคือ TICA หรือ CFA จะให้ลูกแมวฝังไมโครชิปตรวจสอบความเป็นตัวตนของแมวได้แน่นอนไม่มีมั่ว รับประกันสุขภาพและโรคทางพันธุกรรมและ FIP เปลี่ยนแมวใหม่ให้ทันที ลูกแมวได้รับวัคซีนครบชุด ปลอดเชื้อรา ตรวจสุขภาพโดยสัตวแพทย์ก่อนส่งมอบทุกตัวพร้อมกับเจ้าของใหม่ในวันที่มารับแมว”

สำหรับบริติช ข็อตแฮร์ ที่ได้รับความนิยมจะมีสีมาตรฐาน คือ Blue, Black และสี Silver&Golden Shade, Chilchila สนนราคาเริ่มที่ 50,000 บาท ไปจนถึง 100,000 บาท ขึ้นอยู่กับความสวยงาม และสี โดยสีได้รับความนิยม เช่นสี Silver&Golden ราคาเริ่มต้นที่ 80,000 บาท จนถึง 120,000 บาท ในขณะที่ Blue, Black เริ่มต้นที่ 50,000 บาท ราคาค่อนข้างสูงเพราะคัดเลือกสายพันธุ์แท้ และเป็นแมวประกวด ซึ่งลักษณะเด่นที่เป็นสายพันธุ์แท้ไม่มีผิดเพี้ยนคือ เมื่อลูกแมวโตขึ้นมาคือหน้าใหญ่ ลำตัวอวบอ้วน หางหนาและกลม นิสัยเป็นมิตร สุภาพเรียบร้อย ขี้อ้อน

ทั้งนี้ ในส่วนของการเลี้ยงดูแมวสายพันธุ์นี้จะไม่ยุ่งยาก การเลี้ยงเหมือนกับแมวทั่วไป สืบเนื่องมาจากแมวที่ได้นำมาจำหน่ายเป็นลูกแมวจากบ้านเรา เกิดในประเทศไทย สามารถปรับตัวให้เขากับลักษณะภูมิอากาศของเมืองไทยได้มากกว่าแมวที่นำเข้ามา และปัญหาเรื่องขนร่วงจะน้อยกว่าแมวที่นำเข้า

อิสริยะเล่าว่า สำหรับบริติช ช็อตแฮร์ เป็นแมวที่มีจุดเด่นคือ เอาใจคนเก่ง นิสัยน่ารัก เป็นมิตรกับทุกคน ทำให้เหล่าเศรษฐีทั้งหลายยอมควักกระเป๋าเพื่อซื้อบริติช ช็อตแฮร์ กลุ่มลูกค้ามีทุกช่วงอายุ ซึ่งกลุ่มลูกค้าของเราจะเป็นพวกนักแสดง นักการเมือง เศรษฐีทั้งหลาย ลูกค้า มาจากการบอกกันแบบปากต่อปาก และส่วนหนึ่งมาจากการแนะนำแมวผ่านเฟซบุ๊ก

ปัจจุบันตลาดสัตว์เลี้ยงค่อนข้างเติบโตเร็วมาก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะสังคมครอบครัวคนไทยเป็นครอบครัวขนาดเล็ก มีลูกน้อย ดังนั้นคนเหล่านี้จึงนิยมที่จะซื้อสัตว์เลี้ยงไว้เป็นเพื่อน ซึ่งส่งผลให้ตลาดสัตว์เลี้ยงค่อนข้างโตมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา



อิสริยะเล่าถึงจุดเริ่มต้นของการทำฟาร์มแมวในครั้งนี้ว่า เริ่มมาจากเดิมจำหน่ายแมวสายพันธุ์โคราช และมีชื่อเสียงจากแมวสายพันธุ์นี้มาก่อน ซึ่งเน้นแมวประกวดเป็นหลัก กลุ่มลูกค้าจะเป็นชาวต่างชาติ ทำให้ได้มีโอกาสเดินทางไปต่างประเทศบ่อย และได้พบกับ “บริติช ช็อตแฮร์” เห็นถึงความน่ารัก ขี้อ้อน ขนนุ่ม ทำให้ตัดสินใจศึกษาแมวสายพันธุ์นี้ ก่อนคัดเลือกพ่อ-แม่แมวสายพันธุ์ดีมาเพาะจำหน่าย เพราะส่วนตัวเป็นคนรักแมวอยู่แล้วจึงไม่ใช่เรื่องยาก แต่การเลี้ยงแมวต้นทุนค่อนข้างสูง โดยเฉพาะการเลือกซื้อพ่อ แม่พันธุ์ ราคาหลักล้านบาททุกตัว และอาหารที่ใช้เลี้ยงต้องเป็นเกรดพรีเมียมเท่านั้น ทำให้แมวจากฟาร์มของเราราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับฟาร์มอื่นๆ

โทร. 08-9164-1444 , www.facebook.com/British Cat Club Thailand

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SME ผู้จัดการออนไลน์” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *