ประธานกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร เผย ผลการติดตามงบประมาณ 1,320 ล้านบาทโครงการร้านถูกใจ พบว่ายังมีประเด็นน่าสงสัยหลายประเด็น เช่น การจัดซื้อจัดจ้าง การจัดงบประชาสัมพันธ์ 500 ล้านบาทที่ยังมองไม่เห็นผลสำเร็จ และยังมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการจ้างบริษัทขนส่งสินค้า ไปรษณีย์ไทย การเลือกผู้สมัครที่ใช้เส้นสาย เป็นต้น
นายชนินทร์ รุ่งแสง ประธานกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยถึงการติดตามการใช้งบประมาณจำนวน 1,320 ล้านบาท การดำเนินมาตรการลดค่าครองชีพภายใต้โครงการร้านถูกใจว่า ที่ผ่านมาข้อมูลที่กระทรวงพาณิชย์ชี้แจงเกี่ยวกับการใช้งบประมาณดังกล่าวยังมีประเด็นที่น่าสงสัยหลายประเด็น เช่น โครงการเน้นการใช้งบประมาณเพื่อจัดซื้อจัดจ้าง และจัดทำประชาสัมพันธ์โครงการมากถึง 400-500 ล้านบาท ถือว่าเป็นสัดส่วนการใช้งบประมาณที่สูงมาก แต่กลับไม่สามารถชี้แจงได้ว่าโครงการดังกล่าวมีการกระจายสินค้าได้ทั่วถึงหรือไม่ ช่วยลดภาระค่าครองชีพประชาชนได้แล้วเท่าไร
ทั้งนี้ ยังมีการร้องเรียนเกี่ยวกับอุปสรรคในการดำเนินงาน เช่น การขนส่งสินค้าที่จัดจ้างบริษัท ไปรษณีย์ไทย ดำเนินงาน และการคัดเลือกผู้สมัครที่มีการใช้ระบบเส้นสาย ซึ่งได้ขอให้กรมการค้าภายในนำข้อมูลเหล่านี้มาชี้แจง กมธ.เพิ่มเติมอีกครั้ง
ในส่วนการดูแลราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ได้สอบถามถึงการแก้ไขปัญหาราคาอาหารปรุงสำเร็จที่มีการจำหน่ายเกินกว่าราคาแนะนำที่กรมการค้าภายในกำหนดไว้เมนูละ 25-35 บาท ซึ่งทางกรมฯ ได้ชี้แจงว่ามีปัจจัยเรื่องค่าเช่าซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการจำหน่ายอาหารปรุงสำเร็จ โดยได้ขอให้กระทรวงพาณิชย์จัดทำการวิเคราะห์ราคาอาหารปรุงสำเร็จที่จำหน่ายในแต่ละสถานที่ว่าควรมีระดับราคาเท่าไร เช่น ร้านอาหาร ห้องแถว
สำหรับต้นทุนวัตถุดิบในการประกอบอาหาร เช่น เนื้อหมู หรือไข่ไก่ ที่ขอปรับราคาขึ้นนั้น กรมการค้าภายในยืนยันว่ายังไม่มีการพิจารณาอนุมัติให้ปรับราคาอาหารสัตว์ จึงไม่น่าจะกระทบต่อราคาเนื้อสัตว์ปลายทาง