xs
xsm
sm
md
lg

ทุ่ม 2 หมื่น ล.ปล่อยซอฟต์โลน ดันเอสเอ็มอีรายย่อยแกร่งพร้อมลุยเออีซี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสุรชัย กำพลานนท์วัฒน์
“เอสเอ็มอีแบงก์” รับหน้าเสื่อเจ้าภาพปล่อยสินเชื่อซอฟต์โลนเพิ่มผลิตภาพให้เอสเอ็มอีเฉพาะรายย่อย วงเงินรวม 2 หมื่นล้านบาท ระยะเวลา 2 ปี อัตราดอกเบี้ยพิเศษ MLR-3% นาน 2 ปี ระบุให้นำไปใช้เสริมศักยภาพเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน พร้อมรับเปิดเออีซีในปี 2558

นายสุรชัย กำพลานนท์วัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) เปิดเผยว่า ธนาคารได้รับมอบหมายจากรัฐบาลดำเนินโครงการปล่อยสินเชื่อพิเศษเพื่อเพิ่มผลิตภาพ (Productivity) แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรายย่อย วงเงินรวมทั้งสิ้น 20,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น 2 ระยะ คือ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมนี้ไปถึงสิ้นปี 2555 วงเงิน 7,500 ล้านบาท และปี 2556 วงเงิน 12,500 ล้านบาท โดยวงเงินขอกู้สูงสุด 5 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ย MLR-3% นาน 2 ปี หลังจากนั้นเป็นไปตามอัตราดอกเบี้ยของธนาคาร

สำหรับโครงการดังกล่าวเจาะจงช่วยเหลือเอสเอ็มอีเฉพาะรายย่อยเท่านั้น คือรายที่มีสินทรัพย์ถาวรมูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท และมีการจ้างงานไม่เกิน 50 คน โดยมีเงื่อนไขสำคัญว่าผู้ขอสินเชื่อต้องนำไปปรับปรุงเพิ่มผลิตภาพในการประกอบการธุรกิจให้มีศักยภาพสูงขึ้น ทั้งด้านปรับปรุงหรือซื้อเครื่องจักร เพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิต หรือผลิตให้ได้คุณภาพและปริมาณสูงขึ้น รวมถึงนำไปใช้พัฒนาระบบการทำงานในองค์กรให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น เช่น พัฒนาระบบไอที หรือระบบบัญชี เป็นต้น

นายสุรชัยเผยต่อว่า ในด้านการประเมินสิทธิผู้ขอรับสินเชื่อ ทางเอสเอ็มอีแบงก์จะร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญของกระทรวงอุตสาหกรรมให้เข้ามาช่วยพิจารณา เช่น ด้านปรับปรุงเครื่องจักร ประสานกับกรมโรงงาน ส่วนธุรกิจอาหารประสานกับสถาบันอาหาร เป็นต้น

ทั้งนี้ ด้านการดำเนินงาน ขณะนี้ได้เริ่มส่งเจ้าหน้าที่ธนาคารลงพื้นที่แนะนำสินเชื่อแก่ผู้ประกอบการตามพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ นอกจากนั้นจะจัดโรดโชว์ไปตามนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ทั่วประเทศ เริ่มจากในช่วงปลายเดือนนี้ (ก.ค.) จะเริ่มแห่งแรกที่ จ.พระนครศรีอยุธยา

“เอสเอ็มอีรายย่อย ถือเป็นผู้ประกอบการกลุ่มใหญ่ที่สุดของประเทศ ทว่า ปัจจุบันศักยภาพยังไม่พร้อมจะรับการแข่งขันหลังเปิดเสรีอาเซียน รัฐบาลจึงมอบหมายให้เอสเอ็มอีแบงก์ดำเนินโครงการสินเชื่อนี้เพื่อให้เอสเอ็มอีนำไปใช้เพิ่มศักยภาพของตัวเอง ทั้งด้านลดต้นทุน หรือเพิ่มประสิทธิภาพ ซึ่งระยะเวลาของโครงการ 2 ปีจะสอดคล้องกับการเปิดเสรีอาเซียนในปี 2558 พอดี ซึ่งถึงเวลานั้นรัฐบาลคาดหวังว่าเอสเอ็มอีจะมีศักยภาพเพิ่มขึ้นพร้อมแข่งขันในเวทีอาเซียนได้” นายสุรชัยกล่าวเสริม
กำลังโหลดความคิดเห็น