กสอ.กระตุ้น ผปก. SMEs ไทยเร่งรวมกลุ่มคลัสเตอร์เสริมความแข็งแรง แชร์อาวุธเด็ดทางการค้าระหว่างกันเพื่อลดจุดอ่อน พร้อมรับมือการแข่งขันรุนแรง เผยหนุนรวมกลุ่มคลัสเตอร์แล้วกว่า 50 กลุ่มอุตสาหกรรมทั่ว ปท. และล่าสุดได้จัดงาน “CLUSTER DAY” ระหว่างวันที่ 26-29 มิ.ย.นี้ ณ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เพิ่มช่องทางขาย และเปิดตลาดใหม่
นายพสุ โลหารชุน อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กล่าวว่า เนื่องจากผู้ประกอบการระดับเอสเอ็มอีมีจุดด้อยหลายประการ ทั้งความสามารถด้านขีดความสามารถการแข่งขัน เงินทุน และกำลังผลิต เป็นต้น ดังนั้น แนวทางที่จะช่วยให้เอสเอ็มอีมีความสามารถเพิ่มขึ้น แข่งขันกับผู้ประกอบการรายใหญ่ และคู่แข่งจากต่างประเทศได้ จำเป็นที่ต้องให้เกิดการรวมกลุ่มคลัสเตอร์ระหว่างผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทั้งในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน และอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เพื่อจะแลกเปลี่ยนข้อมูล ความรู้ ตลอดจนทรัพยากรต่างๆ ระหว่างกัน ดังนั้น ทาง กสอ.จึงได้ดำเนินโครงการพัฒนาการรวมกลุ่มและเชื่อมโยงอุตสาหกรรม หรือคลัสเตอร์มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546 จนถึงปัจจุบัน เกิดการรวมกลุ่มคลัสเตอร์แล้วมากกว่า 50 กลุ่มอุตสาหกรรมกระจายอยู่ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ เช่น กลุ่มคลัสเตอร์สิ่งทอเพชรเกษม กลุ่มเซรามิก คลัสเตอร์ จ.ลำปาง กลุ่มคลัสเตอร์เครื่องเงินบ้านวัวลาย จ.เชียงใหม่ เป็นต้น
“ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีต้องเร่งสร้างโอกาสในการรวมกลุ่มคลัสเตอร์ที่เป็นรูปธรรม เพราะจะเป็นเครื่องมือและกลไกสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน ซึ่งปัจจุบันมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะการแข่งขันในตลาดสูงขึ้นอย่างยิ่ง มีสินค้าจากประเทศจีน เวียดนามที่ราคาถูกมาตีตลาด และเร็วๆ นี้กำลังจะเกิดการเปิดเออีซี ซึ่งการแข่งขันจะสูงขึ้นไปอีก ดังนั้น เอสเอ็มอีไทยจำเป็นต้องรวมกลุ่มกันเพิ่มความสามารถด้านการแข่งขัน ซึ่งหัวใจของการพัฒนาคลัสเตอร์ให้ไปสู่ความสำเร็จได้ต้องสร้างความร่วมมือบนพื้นฐานของการแข่งขัน โดยผู้ที่อยู่ในคลัสเตอร์จะต้องมีการวางแผน กำหนดเป้าหมาย และกลยุทธ์ในการพัฒนาร่วมกัน รวมถึง แชร์ความสามารถกันในหมู่สมาชิกคลัสเตอร์” นายพสุระบุ
นอกจากนั้น เพื่อจะสนับสนุนกลุ่มคลัสเตอร์ต่างๆ ทาง กสอ.ได้ให้มีกิจกรรม “CLUSTER DAY” ระหว่างวันที่ 26-29 มิ.ย.นี้ ณ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อจัดแสดงและขายสินค้าของสมาชิกกลุ่มคลัสเตอร์ต่างๆ 19 กลุ่ม กว่า 68 ราย เพื่อช่วยเปิดช่องทางตลาดใหม่ ขยายช่องทางจำหน่าย รวมถึงเป็นโอกาสให้เกิดการเชื่อมโยงระหว่างกลุ่มคลัสเตอร์ต่างๆ นอกจากนั้นยังเป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการได้พบกับผู้บริโภคโดยตรงเพื่อจะรับทราบความคิดเห็นสำหรับนำไปปรับปรุงสินค้าและบริการต่อไป
