มูลนิธิยุทธสาร ณ นคร จับมือองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก จัดประกวดแผนธุรกิจ เปิดโอกาสนักศึกษามีฝันเป็นเถ้าแก่รักษ์โลกคว้าชัยเงินครึ่งล้าน พ่วงเปิดโลกกว้างลัดฟ้าสู่เกาหลีใต้ เผยทีม Green Life Society นิสิตจุฬาฯ เข้าวิน จากธุรกิจร้านขายเครื่องเขียนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
นายวิชัย เบญจรงคกุล ประธานโครงการมอบทุนการศึกษาฯ มูลนิธิยุทธสาร ณ นครเพื่อสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทยเปิดเผยถึงโครงการ “การจัดทำแผนธุรกิจร้านค้าผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” ประจำปี 2554 ว่า ในปี 2554ที่ผ่านมามีนิสิต นักศึกษาจากทั่วประเทศ ที่เข้าร่วมโครงการฯ กว่า 30 ทีม และได้คัดเลือกให้เหลือ 13 ทีม และ 6 ทีมสุดท้ายตามลำดับ เพื่อตัดสินและประกาศผล โดยผลการตัดสินปรากฏว่าทีมชนะเลิศได้แก่ ทีม Green Life Society นักศึกษาจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จากผลงานร้านค้าปลีกอุปกรณ์เครื่องเขียน ที่มีคุณภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยได้รับทุนการศึกษาเดินทางไปทัศนศึกษาดูงานที่ Low Carbon City ณ ประเทศเกาหลีใต้ มูลค่า 500,000 บาท รองชนะเลิศอันดับหนึ่งได้แก่ ทีม Green Heart นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร ผลงานบริษัท Natural Hijabจำกัดผลิตภัณฑ์ผ้าคลุมศีรษะมุสลิม (Hijab) ที่ผลิตด้วยผ้าฝ้ายทอมือย้อมสีธรรมชาติ 100 เปอร์เซ็นต์ ได้รับทุนการศึกษาจำนวน 100,000 บาท และรองชนะเลิศลำดับที่สอง จำนวน 4 รางวัล ได้รับทุนการศึกษาจำนวน 40,000 บาท ประกอบด้วย 1ทีม GenVi นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผลงานร้านค้า GenViศูนย์รวมสินค้าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่คัดสรรเฉพาะสินค้าดีไซน์แปลกใหม่ 2. ทีม HU Teamนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยหาดใหญ่ ผลงานแผนงานธุรกิจ “โครงการจัดตั้งร้านกรีนช้อป” 3. ทีม iGreenนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ จังหวัดนครศรีธรรมราช ผลงาน นาการะ (NAKARA) ร้านค้าผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และ 4.ทีมร้านม่านฝ้าย นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยพายัพ จังหวัดเชียงใหม่ผลงานร้านม่านฝ้าย ผลิตภัณฑ์จากผ้าฝ้ายทอมือที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
“นักศึกษาในแต่ละทีมนำเสนอโครงการได้น่าสนใจและยังตอบโจทย์ในเรื่องของแผนงานร้านค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมรวมถึงนำเสนอเรื่องของผลกำไรและต้นทุนในการบริหารงานที่เหมาะสมเป็นธุรกิจที่สร้างความก้าวหน้าให้กับร้านค้า สำหรับทีมที่ชนะเลิศในปี 2554 ในปีนี้มีจุดเด่นในเรื่องของการนำเสนอความเป็นไปได้ในการจัดทำแผนธุรกิจที่สร้างความยั่งยืนรวมทั้งยังเตรียมทีมที่ดี มีขั้นตอนการนำเสนอและการเขียนโครงการที่นำกลยุทธ์รูปแบบการบริหารงานด้านการตลาดและเชิงธุรกิจมาใช้อย่างครบถ้วน ซึ่งเชื่อว่าแผนงานร้านค้านั้นเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อีกทั้งแผนธุรกิจนี้ยังเป็นประโยชน์กับสาธารณชนทั่วไป รวมถึงภาครัฐและภาคเอกชน บริษัทเอกชน ห้างร้านต่าง ๆ และกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี สามารถนำไปประยุกต์และนำไปใช้ประโยชน์ให้เหมาะสมกับองค์กรของตนได้” นายวิชัยกล่าว
ทั้งนี้โครงการดังกล่าวจะเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ Value Added Service และMarketing Communication ของผลิตภัณฑ์หรือสินค้า ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแก่ผู้บริโภคในประเทศพร้อมกำหนดกลยุทธ์การสื่อสารทางการตลาดในมุมมองใหม่ ๆ ของเยาวชนต่อสังคม และการตลาดธุรกิจที่เพิ่มมากขึ้นซึ่งแผนธุรกิจของร้านค้าผลิตภัณฑ์ หรือสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่นำเสนอจะเป็นทางเลือกใหม่ในการลงทุนของผู้ประกอบการที่ต้องการดำเนินธุรกิจที่สามารถประสบความสำเร็จและยังคืนกำไรให้แก่สังคมและผู้บริโภค
ด้านนักศึกษาทีม Green Life Society จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยความรู้สึกหลังจากได้รับรางวัลชนะเลิศว่า สมาชิกในทีมทุกคนดีใจ และภูมิใจที่ความพยายามและตั้งใจกับการทำแผนธุรกิจดังกล่าวมา 1 ปีเต็ม โดยทุกขั้นตอนการทำแผนธุรกิจนั้น ไม่เพียงคิดเพื่อส่งเข้าประกวดเท่านั้น แต่คิดไปถึงการนำไปประกอบธุรกิจได้จริง โดยเฉพาะแผนการเงินและการตลาด ซึ่งในเบื้องต้นสมาชิกยังไม่มีแผนที่จะลงทุนเพื่อทำให้แผนธุรกิจดังกล่าวเป็นจริง โดยหลังจากเรียนจบขอเป็นพนักงานประจำเพื่อหาประสบการณ์ แต่ในอนาคตอาจจะนำประสบการณ์บางส่วนจากการเขียนแผนธุรกิจในครั้งนี้มาปรับใช้กับธุรกิจของตนเองก็เป็นได้ นอกจากนี้สมาชิกทุกคนในทีม Green Life Society ยังยินดีหากภาคเอกชนหรือนายทุน ต้องการนำแผนธุรกิจของตนไปสร้างให้เป็นจริงก็พร้อมที่จะให้ให้ข้อมูล เนื่องจากเชื่อว่าการทำธุรกิจที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องช่วยกัน
อย่างไรก็ตามโครงการมอบทุนการศึกษาแก่นิสิต นักศึกษา โดยมูลนิธิยุทธสาร ณ นครเพื่อสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทยนี้ จัดขึ้นเป็นปีที่ 7 ติดต่อกันมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้การสนับสนุนด้านการศึกษา ค้นคว้าและการวิจัยทางวิชาการการจัดการเพื่อสาธารณประโยชน์ ในการที่จะมุ่งพัฒนาและสร้างสรรค์สิ่งที่เป็นประโยชน์สู่สังคมผ่านการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งมูลนิธิฯ จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี
