พบ "โตเกียว" ติดอันดับค่าเช่าคลังสินค้าแพงที่สุดในโลก!!!

รายงานสรุปสถานการณ์อสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมทั่วโลกฉบับล่าสุดของคอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชันแนลระบุว่า อัตราค่าเช่าคลังสินค้าอุตสาหกรรมในโตเกียวครองอันดับแพงที่สุดในโลก ส่วนฮ่องกง และสิงคโปร์ครองตำแหน่งค่าเช่าแพงเป็นอันดับสาม และสี่ ณ สิ้นปี 2554 อีกสองตลาดที่ติด 5 อันดับแรกได้แก่ ลอนดอน ฮีทโธรว์ และซูริก

ทั้งนี้ 5 ตลาดที่มีอัตราค่าเช่าคลังสินค้าอุตสาหกรรมแพงที่สุดในโลก ณ เดือนธันวาคม 2554 พบว่า อัตราค่าเช่าคลังสินค้าในโตเกียวยังคงรั้งตำแหน่งสูงสุดในโลกแม้จะลง 3.0% ในครึ่งหลังของปี 2554 อัตราค่าเช่าคลังสินค้าในฮ่องกงเพิ่มสูงขึ้น 8.1% ในช่วงครึ่งหลังของปี 2554 ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตสูงสุดในตลาดที่ติด 10 อันดับแรก ส่วนสิงคโปร์ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งด้วยอัตรา 6.8%

ส่วนอัตราการว่างของคลังสินค้าแทบทุกตลาดในเอเชียแปซิฟิกลดลงในช่วงครึ่งหลังของปี 2554 นอกจากนั้น อัตราค่าเช่าคลังสินค้าทำเลทองกว่าครึ่งหนึ่งของตลาดเพิ่มสูงขึ้น กว่า 50% ของผู้สังเกตการณ์คาดว่าอัตราค่าเช่าคลังสินค้าจะปรับตัวสูงขึ้นอีกในช่วง 6 เดือนข้างหน้า สำหรับประเทศไทย เนื่องจากเหตุการณ์น้ำท่วม มีความเป็นไปได้สูงที่อัตราการว่างของคลังสินค้าบริเวณที่ประสบภัยน้ำท่วมจะเพิ่มขึ้น ในขณะที่บริเวณที่ไม่ได้ประสบภัยน้ำท่วมจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นสำหรับการย้ายและสร้างคลังสินค้าใหม่ ส่วนในอเมริกาเหนือ หลังจากอัตราการว่างพุ่งสู่จุดสูงสุดในปี 2553 ก็ลดลงสู่ระดับ 9.72% ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2554 ซึ่งเป็นผลจากการเติบโตของอุตสาหกรรมการผลิตและจัดจำหน่าย

ทิศทางในอนาคตของตลาดคลังสินค้าทั่วโลกมีแนวโน้มเชิงบวก การคาดการณ์ล่าสุดของกองทุนการเงินระหว่างประเทศบ่งชี้ว่า ปริมาณการค้าทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 3.8% และ 5.4% ในปี 2555 และปี 2556 ตามลำดับ แม้จะมีการปรับลดอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ดังนั้น จึงคาดว่าอุปสงค์สำหรับพื้นที่คลังสินค้าจะเพิ่มขึ้นไปพร้อมกับปริมาณการค้าทั่วโลก เนื่องจากปริมาณการเช่าคลังสินค้าในตลาดเอเชียแปซิฟิก และอเมริกาเหนือในปี 2554 ส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นจากปีก่อน คอลลิเออร์สคาดว่าตลาดส่วนใหญ่ในสองภูมิภาคนี้ยังอยู่ในช่วงแนวโน้มขาขึ้นในปีนี้