xs
xsm
sm
md
lg

PLAN-IT สถาบันสอนพิเศษแนวใหม่ แนวคิด“บ้านแห่งการละเล่นและเรียนรู้”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ธุรกิจด้านการศึกษาของเด็กเล็ก เป็นช่องทางหนึ่งที่หลายคนให้ความสนใจ เพราะปัจจุบันพ่อแม่ ให้ความสำคัญค่อนข้างมากกับพัฒนาการของลูก ตั้งแต่ยังเล็ก เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงไปของสังคมเมือง เด็กๆจำเป็นจะต้องมีทั้งไอคิว และอีคิว จึงก้าวหน้าในหน้าที่การงานได้ในอนาคต

ด้วยเหตุนี้เอง สถาบันการศึกษาสำหรับเด็กเล็ก ที่มีต้นแบบมาจากคนไทย หรือ การจำลองรูปแบบจากต่างประเทศ ต่างก็เข้ามาเปิดในประเทศไทยจำนวนมาก รวมถึง PLAN-IT EDUCATION CENTRE สถาบันการศึกษาแนวใหม่ ที่ช่วยดูแลเด็กตั้งแต่เด็กเล็กไปจนถึงเด็กโต สำหรับคุณพ่อ คุณแม่ยุคใหม่ที่ต้องทำงานนอกบ้านและเลิกเย็นค่ำ ไม่มีเวลาดูแลลูกหลังเลิกเรียน
ครูสอนเด็กที่ละคน เหมือนมีครูส่วนตัว
นางกุณฑิรา จุลสมัย โอคอนแนล กรรมการผู้บริหาร PLAN-IT EDUCATION CENTRE เล่าว่า ที่มาของ PLAN-IT เกิดขึ้นมาจากตนเองคว่ำหวอดอยู่กับธุรกิจด้านการศึกษามากว่า 14 ปีแล้ว โดยเปิดสถาบันให้ความรู้ แนะแนวการศึกษาต่อต่างประเทศ แต่หลังจากมีลูกเล็กๆ วัยเรียนถึง 3 คน จึงต้องการให้ลูกมาอยู่ในที่ที่เดียวกัน และไม่อยากให้เด็กเข้าใช้เวลาว่างอยู่ในห้างสรรพสินค้ามากเกินไป จึงได้มีแนวคิด เปิดศูนย์การศึกษาที่เด็กสามารถมาเรียนร่วมกันได้ ไม่ว่าจะเป็น พี่หรือ น้องก็เรียนได้ โดยจะต้องไม่เปิดอยู่ในห้างสรรพสินค้า และต้องมีพื้นที่ให้เด็กได้วิ่งเล่น ในกลางแจ้ง เด็กๆได้สัมผัสกับธรรมชาติ และที่สำคัญ ต้องมีหลักสูตรที่ดี ครูที่ดี มาให้กับลูก

จากไอเดียดังกล่าว จึงได้ร่วมมือกับเพื่อนที่เป็นคุณแม่เหมือนกัน เปิดสถาบันการศึกษาแนวใหม่ PLAN-IT EDUCATION CENTRE ขึ้น เมื่อกันยายน ที่ผ่านมา บนถนนสุขุมวิท 26 เพื่อเป็นศูนย์รวมแห่งการเรียนรู้ เป็นเหมือนบ้านหลังที่สองของเด็กๆ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “บ้านแห่งการละเล่นและเรียนรู้” โดยการเรียนการสอนของเราจะเป็นลักษณะของการเรียนรู้ และ การเพิ่มทักษะในการใช้ชีวิต ควบคู่กันไป โดยในส่วนของหลักสูตรความรู้ เหมือนกับสถาบันทั่วไป คือ มีหลักสูตร คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย ศิลปะ และภาษาจีน
นางกุณฑิรา จุลสมัย โอคอนแนล กรรมการผู้บริหาร PLAN-IT
ในส่วนของการเพิ่มทักษะ ทาง Plan-IT เราได้มีหลักสูตรของ NLP ซี่งเป็นเรื่องของการใช้จิตใต้สำนึก ซึ่งมีทั้งหลักสูตรของทั้งเด็กเล็ก และ เด็กโต NLP เป็นศาสตร์ใหม่ ในการปรับโปรแกรมการทำงานของสมองเพื่อให้ผลเลิศในด้านต่างๆ โดยการเรียนรู้ว่าการทำงานของสมอง เมื่อเรียนรู้การทำงานของสมองแล้ว ตรงนี้ เราจะมี NLP มาช่วยในเรื่องของความจำ หรือ เพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนรู้ พอเด็กเขารู้ว่าเขาถนัดอะไรช่วยให้เด็กมีเทคนิคในการกลับไปเรียนได้ดีขึ้น

สำหรับ PLAN-IT เปิดสอนเด็กตั้งแต่อายุ 3 ขวบครึ่ง เป็นต้นไป การเรียนการสอน จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน เด็กเล็กไปจนถึงอายุ 13-14 ปี หลักสูตรพื้นฐาน และอีกช่วงหนึ่งเด็กโต อายุ 18 ปีขึ้น จะเสริมความสมบูรณ์ให้กับเด็ก เพราะกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ชอบเดินห้างสรรพสินค้า ซึ่งเมื่อมาเรียนกับเราทำให้เขาเดินห้างน้อยลง ซึ่งการสอนของครูแต่ละคนไม่ใช่สอนเป็นคลาส แต่เป็นเหมือนครูสอนพิเศษส่วนตัว

ในส่วนของเด็กที่มาเรียน เนื่องจากสถาบันของเราตั้งอยู่ใจกลางเมือง ย่านธุรกิจอย่างสุขุมวิท ทำให้ปัจจุบันเด็กกว่า 80% เป็นเด็กมาจากโรงเรียนนานาชาติ โดยเด็กจะมาเรียนที่นี่วันจันทร์- เสาร์ เวลา 09.00-18.00น. ซึ่งตอนนี้มีนักเรียน 80-100 คน คิดอัตราค่าเรียนแต่ละคนไม่เหมือนกันโดยเฉลี่ยเบื้องต้น 300-500 บาท ต่อชั่วโมงคนหนึ่งเรียนเฉลี่ยวันละ 2 ชั่วโมง

สำหรับจุดแข็งแตกต่างจากสถาบันอื่นๆ คือ เด็กที่มาเรียนกับเรา จะไม่ได้คิดถึงแต่เรื่องวิชาการอย่างเดียว เพราะเรามองว่าการเรียนรู้เป็นเรื่องขององค์รวม เรามีพื้นที่ให้สำหรับเด็กวิ่งเล่น จัดกิจกรรมในสนาม และเด็กที่มาเรียนตอนเย็นก็มีอาหารให้รับประทาน และยังมีแผนที่จะทำหลักสูตรโยคะ นั่งสมาธิสำหรับเด็ก รวมถึงการจัดกิจกรรมนอกพื้นที่ อย่างการ จัดทริปไปต่างจังหวัด เพื่อเรียนรู้ศึกษาวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ของคนไทยในต่างจังหวัด เช่นการไปดูการทำนา เป็นต้น

ในส่วนของผลตอบรับ จากการเปิดให้บริการมากว่า 6 เดือน มีผลการตอบรับเป็นที่น่าพอใจ เพราะเป้าหมายสำคัญตอนนี้ของเรา คือ ต้องการให้หลักสูตรแต่ละหลักสูตรสามารถพัฒนาศักยภาพของเด็กได้ในหลายๆทาง คือเราไม่ได้มองว่าจะมีนักเรียนจำนวนเท่าไร แต่เราต้องการคุณภาพมากกว่า และในขณะนี้ เราเองก็ยังไม่มีคู่แข่ง เพราะส่วนใหญ่ที่สอนกันก็จะเน้นการสอนวิชาใดวิชาหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้มีการสอนแบบองค์รวมเหมือนเรา

สำหรับแนวโน้มสถาบันการศึกษาในลักษณะนี้น่าจะมีโอกาสขยายตัวได้สูง และมีคนที่สนใจที่จะทำธุรกิจในแบบนี้มากขึ้น เพราะรองรับและตอบโจทย์ความต้องการของผู้ปกครองในสังคมปัจจุบันที่ต้องการเสริมทั้งอีคิวและไอคิวให้กับเด็กๆ ซึ่งการเลือกทำเลในการเปิดจึงเป็นหัวใจสำคัญ เราเองก็มีแผนจะขยายสาขาเพิ่ม ไปตามหัวเมืองต่างๆ และมีแผนจะขยายสาขาในรูปแบบของแฟรนไชส์ด้วย แต่ก็คงต้องเตรียมความพร้อมและเซ็ทระบบให้ลงตัวมากกว่านี้

ส่วนกลยุทธ์การตลาดที่ผ่านมา ใช้วิธีการบอกกันแบบปากต่อปาก ประกอบกับครอบครัวของเราอยู่ในแวดวงการศึกษา และทำธุรกิจในแวดวงการศึกษามาตลอด ทำให้เรารู้วิธีการว่าจะเข้าถึงลูกค้าได้อย่างไร และเราเองก็เชื่อว่า สถาบันการศึกษาของเราจะเป็นตัวช่วยในการดูแลเด็กแทนพ่อ แม่ ที่ไม่มีเวลาดูแลลูก และปล่อยให้ลูกอยู่ตามลำพัง เอาเวลาไปใช้กับการดูทีวี หรือ เล่นเกม อยู่กับพี่เลี้ยง แต่น่าจะใช้เวลาว่างให้มีประโยชน์”

โทร.02-650-3339
กำลังโหลดความคิดเห็น