ถ้าพูดถึงความสวย ความงามแล้วไม่ว่าจะเกิดเหตุภัยธรรมชาติไม่ว่าจะฝนตก หรือน้ำท่วม สำหรับสาวๆ เมืองหลวง อย่างไรเสีย ขอสวยและอินเทรนด์ไว้ก่อน และแฟชั่นที่ทำให้สาวๆ ได้อินเทรนด์แบบไม่ตกยุคกันในช่วงนี้ ต้องยกให้รองเท้าบูทดีไซน์เก๋ๆ ของ “ร้าน Kidzykids”
สำหรับในเมืองไทย ถ้าน้ำไม่ท่วมหนักขนาดนี้ คงจะไม่ได้เห็นแฟชั่นรองเท้าบูทยางในประเทศไทยอย่างแน่นอน เพราะด้วยอากาศที่ร้อนอบอ้าว ไม่เหมาะกับการสวมรองเท้าบูทยาง เหมือนอย่างประเทศที่มีอากาศเย็นหนาว และมีหิมะตกสม่ำเสมอ
อย่างไรก็ตาม วันนี้แฟชั่นรองเท้าบูทเก๋ๆ ที่สาวไทยอยากทดลองสวมใส่ เพื่อออกไปลุยน้ำอวดโฉมกันก็เป็นจริง โดยเป็นสินค้านำเข้ามาของ “ธนพร ภิรมย์วงศ์” เจ้าของร้าน “Kidzykids” เล่าว่า ร้านของตนเองเป็นร้านขายเสื้อผ้า รองเท้า และเครื่องแต่งกายสำหรับเด็กๆ วัยตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึง 9 ปี โดยนำเข้าสินค้ามาจากประเทศเกาหลี ฮ่องกง และญี่ปุ่น โดยจะเดินทางไปเลือกสินค้าที่จะมาขายด้วยตัวเอง
สำหรับรองเท้าบูทยางเป็นหนึ่งในสินค้าที่นำเข้ามาจำหน่ายเช่นเดียวกับสินค้าอื่นๆ โดยขายมาตั้งแต่เริ่มเปิดร้านแห่งนี้ ราว 1.5 ปีมาแล้ว ซึ่งถือเป็นสินค้าเด่นของทางร้าน เช่นเดียวกับเสื้อผ้า เพราะหลังจากที่ได้เดินทางไปดูสินค้าต่างๆ ดังกล่าวมาข้างต้น พบว่ารองเท้าบูทของเด็กๆ เป็นแฟชั่นที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศเหล่านั้น โดยเฉพาะประเทศเกาหลี ซึ่งมีแบบให้เลือกเป็นจำนวนมาก จึงได้ทดลองนำเข้ามาขายในเมืองไทย ไม่ได้คาดหวังยอดขายมากนัก เพราะเมืองไทยเป็นเมืองร้อนไม่เหมาะกับการสวมรองเท้าบูท
ทว่า ด้วยรูปแบบของรองเท้าที่แตกต่างจากรองเท้าบูทที่ขายทั่วไปในเมืองไทย เพราะสามารถใส่ได้ทุกโอกาสไม่ได้เฉพาะช่วงฤดูฝน หรือลุยน้ำท่วม และสีสันลวดลายที่สวยงามสะดุดตา ประกอบกับการออกแบบที่เน้นการสวมใส่ที่สะดวกสบายโดยการบุผ้าไว้ภายใน รวมถึง บางแบบมีการเพิ่มหูหิ้ว เพื่อให้สะดวกแก่การเดินทาง เลือกพลาสติกคุณภาพดี ช่วยให้กลายเป็นรองเท้าบูทที่นอกจากจะใช้ป้องกันน้ำแล้ว เด็กวัยรุ่นยังสามารถสวมใส่เป็นรองเท้าแฟชั่นได้ด้วย
เจ้าของ เล่าต่อว่า สำหรับกลุ่มลูกค้าหลัก เป็นคุณแม่ชอบแต่งตัวให้ลูก อีกทั้ง ยังขายได้ดีในช่วงเด็กเปิดเทอม เพราะบางโรงเรียนที่มีกิจกรรมให้เด็กๆ ได้ทำแปลงเกษตร คุณครูมักให้เด็กสวมใส่รองเท้าบูท คุณแม่จึงเลือกมาซื้อรองเท้าบูทของร้านไปให้ลูก เพราะมีรูปแบบให้เลือกหลากหลาย ทำให้ร้านขายสินค้าได้ดีมาตลอด และนอกจากรองเท้าบูทของเด็กๆ แล้ว ทางร้านยังมีรองเท้าบูทผู้ใหญ่ด้วย โดยที่มาของรองเท้าบูทผู้ใหญ่ ก็มาจากคุณแม่ชื่นชอบรูปแบบรองเท้าเด็ก จึงต้องการให้นำรองเท้าผู้ใหญ่มาขายด้วย จึงได้เป็นที่มาของการนำเข้ารองเท้าผู้ใหญ่ในปัจจุบัน
“สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในขณะนี้ กลายเป็นว่าทุกคนต้องการรองเท้าบูทมากขึ้น กลุ่มลูกค้าเดิมที่เคยซื้อจากเราก็เกิดการบอกกันแบบปากต่อปาก ประกอบกับเรามีช่องทางการขายทางเว็บไซต์ (www.kidzykids.com) คนทั่วไปที่ประสบปัญหาน้ำท่วมต้องการรองเท้าบูท ก็บังเอิญเจอเราจากทางอินเตอร์เน็ต และชื่นชอบในรูปแบบที่เป็นแฟชั่นไม่เหมือนใคร จึงสั่งซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมาก จนเราเองก็ยังไม่ได้เตรียมตัวมาก่อน” ธนพร เล่าเสริม
ทั้งนี้ มียอดขายต่อวัน ทั้งทางหน้าร้านที่ขายได้มากกว่า 100 คู่ และทางอินเตอร์เน็ตมียอดสั่งซื้อเข้ามาวันหนึ่งเกือบ 100 ราย ซึ่งขณะนี้รองเท้าที่ร้านสั่งเข้ามาสต็อกไว้ก่อนหน้านี้ ที่ขายไม่ได้ ก็ขายไปเกือบหมดแล้ว สัดส่วนการขายรองเท้าบูทเด็ก และผู้ใหญ่ใกล้เคียงกัน โดยผู้ใหญ่ขายมากกว่าเล็กน้อย ในขณะที่รูปแบบที่นิยมตอนนี้ มี 3 ลาย ได้แก่ ลายเสือ ลายจุด และลายทั่วๆไป อีกทั้ง ยังมีแบบพิเศษ ซึ่งมีหูหิ้วด้วย โดยมีแบบให้เลือกจำนวนมากกว่า 20 แบบขึ้นไป สำหรับของเด็ก ขณะที่สำหรับของผู้ใหญ่จะมีแบบประมาณ 10 แบบ
ธนพร บอกกับเราว่า สำหรับราคามีเริ่มต้นตั้งแต่ 290 บาท ไปจนถึง 690 บาท สำหรับรองเท้าเด็ก แต่ถ้าเป็นของผู้ใหญ่ตอนนี้มีราคาเดียว คือ ราคา 450 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ขายปกติตั้งแต่แรกไม่ได้มีการฉวยโอกาสปรับราคาในช่วงนี้แต่อย่างใด ถ้าราคาจะเปลี่ยนแปลง ก็ต่อเมื่อมีการนำเข้ารูปแบบใหม่ ราคาจะขึ้นอยู่กับคุณภาพของรองเท้า ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความต้องการของตลาด
ในส่วนของยอดขายรองเท้าในช่วงนี้ เพิ่มขึ้นกว่าการขายปกติมากกว่าเท่าตัว ดังนั้น มีแผนที่จะนำเข้ารองเท้าบูทผู้ใหญ่ในแบบใหม่เข้ามาอีก เพราะจากเดิมลูกค้าจะมีเฉพาะกลุ่มเด็ก และคุณแม่ แต่ตอนนี้ ซึ่งประเทศไทยกำลังประสบภัยน้ำท่วมอย่างหนัก ทำให้มีลูกค้าเพิ่มทุกเพศ ทุกวัย โดยเฉพาะวัยรุ่น และวัยทำงานชอบแต่งตัวตามแฟชั่น ต่างก็หันมาให้ความสนใจและเลือกซื้อรองเท้าบูทจากร้านมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบการแต่งตัวตามแฟชั่น มักซื้อหาครั้งละหลายๆคู่ หลายแบบ เอาไว้ใส่แบบไม่ซ้ำกันในแต่ละวัน
ธนพร เล่าว่า เริ่มทำธุรกิจร้าน Kidzykids มาได้ประมาณ 1 ปีครึ่ง โดยได้ลาออกจากการทำงานประจำ มาเปิดร้านขายเสื้อผ้าเด็ก ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล พลาซ่า พระราม 3 ที่เลือกขายเสื้อผ้าเด็ก เพราะเห็นว่าไม่ต้องตามแฟชั่นมากนัก แต่จะให้ความสำคัญกับการเลือกสินค้าที่มีคุณภาพ อย่างไรก็ตาม เสื้อผ้า หรือรองเท้าเด็กของที่ร้าน จะพยายามให้อิงรูปแบบใกล้เคียงกับแฟชั่นของผู้ใหญ่ โดยจะเดินทางไปเลือกสินค้าด้วยตัวเองที่ประเทศ เกาหลี ฮ่องกงและญี่ปุ่น เพราะเป็นประเทศที่ค่อนข้างจะนำแฟชั่น ทำให้มีแบบให้เลือกเป็นจำนวนมาก และเมื่อนำขายในประเทศไทย ก็จะไม่ซ้ำกับใคร ในขณะที่ราคาไม่ได้แพงกว่าสินค้าคุณภาพเดียวกันกับที่ขายอยู่ในประเทศ
@@@@@@@@@@@@@@@@
โทร. 08-1939-3393, www.kidzykids.com
