จากสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ในขณะนี้ ส่งผลให้สินค้าหลายตัว เป็นที่ต้องการของตลาด โดยเฉพาะเรือ ประเภทของเรือมีหลากหลาย แต่ที่ดูเหมือนจะได้รับความนิยม และหาซื้อได้ง่าย สะดวกแก่การใช้งาน ก็ต้องยกให้กับเรือพลาสติก และเรือหล่อจากไฟเบอร์กลาส
และถ้าเป็นเรือพลาสติกแหล่งผลิตก็มาจากโรงงานพลาสติก สามารถผลิตออกมาได้ครั้งละจำนวนมาก น้ำหนักเบา ดูแลรักษาง่าย แต่สำหรับผู้ประกอบการรายย่อยแล้ว เรือที่ทำได้เรือไม้ เรือเหล็กและ เรือไฟเบอร์กลาส ซึ่งถ้าใครผ่านไปผ่านมาในย่านถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี แถวๆ สนามบินน้ำ ก็จะได้เห็นว่า มีการหล่อเรือไฟเบอร์กลาสกันริมถนนให้เห็นกันจะจะ เรียกได้ว่าจอดรถข้างทางไม่ต้องลงจากรถก็สั่งซื้อเรือกลับบ้านไปใช้กันได้เลย
สำหรับเรือที่หล่อขึ้นมาจากไฟเบอร์กลาส เป็นทางเลือกหนึ่งที่คนให้ความนิยม เพราะแข็งแรง ทนทาน และน้ำหนักไม่มาก แต่สำหรับผู้ประกอบการแล้ว การทำเรือออกขายในช่วงนี้ ไม่เป็นเรือเหล็ก หรือไม่ก็ต้อง เรือไฟเบอร์กลาส เพราะ ไม่ต้องใช้เครื่องไม้ เครื่องมือ หรือ เครื่องจักร เพียงแค่มีพื้นที่โล่งๆ และวัตถุดิบ อุปกรณ์ ก็สามารถทำเรือออกมาขายได้แล้ว และ “นายอนุชา หงษ์ทอง” อดีตเจ้าของอู่แต่งรถ เอ.เอช. หงษ์ทอง ไฟเบอร์พาส ผลิตอุปกรณ์แต่งรถจากไฟเบอร์ และพลาสติก เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการรายย่อยที่อาศัยวิกฤตช่วงนี้หันมาผลิตเรือไฟเบอร์กลาส
นายอนุชา เล่าว่า จากวิกฤตน้ำท่วมครั้งนี้ ทำให้ธุรกิจอุปกรณ์แต่งรถหยุดชะงักลงทันที รถที่เคยเข้ามาใช้บริการต่อวันไม่ต่ำกว่า 10 คันหายไปพร้อมกับน้ำ และด้วยเหตุนี้ วิกฤต กลายเป็นโอกาส เมื่อลูกค้าที่เคยมาทำรถกับเราเกิดปัญหาน้ำท่วม และหาซื้อเรือไม่ได้ และเห็นว่าเราหล่อไฟเบอร์กลาสได้ จึงได้ขอให้เราช่วยทำเรือไฟเบอร์ให้ แรกๆ ตั้งใจจะทำเพื่อบริการลูกค้าที่เคยมาทำรถกับเราเท่านั้น แต่ด้วยความบังเอิญเราออกมาทำริมถนน คนผ่านไปผ่านมาในย่านนั้น ได้เห็นบางคนก็เป็นผู้เดือดร้อนที่น้ำท่วมแล้ว บางคนก็เตรียมไว้เพื่อรองรับสถานการณ์น้ำท่วม ต่างก็ต้องการเรือ และมาขอให้ทำให้บ้าง เพราะเราก็พยายามจะทำออกมาและขายในราคาที่ไม่แพงมาก เพื่อช่วยเหลือคนที่เขาเดือดร้อน โดยตั้งราคาขายไว้ที่ลำละ 6,500 บาท
โดยเริ่มทำมาได้ประมาณ 2 สัปดาห์ ปรากฏว่าผลตอบรับออกมาดีมาก ทำออกมาเท่าไหร่ก็ไม่พอขาย โดยในแต่ละวันมีคนสนใจมาสั่งเรือไม่ต่ำกว่า วันละ 30-40 ลำ ในขณะที่เราสามารถผลิตเรือออกมาได้เพียงวันละ 10 ลำถึง 15 ลำเท่านั้น เรียกได้ว่าทำออกมาเท่าไหร่ก็ขายหมด ดังนั้น ในช่วงนี้ อาศัยว่า ต้องสั่งทำล่วงหน้า และมารับเรือในวันถัดไป ถ้ามาซื้อเรือหน้าร้านเลยจะไม่มี
นายอนุชา กล่าวว่า วิกฤตน้ำท่วมครั้งนี้ เป็นโอกาสให้กับผมเลยที่เดียว เพราะกำไรที่ได้เป็นกอบเป็นกำ โดยยอดขายต่อวันได้วันละ 50,000 บาท ถึง 60,000 บาท กำไรที่ได้มากกว่า 50% การลงทุนเพียงแค่ซื้อวัตถุดิบที่ต้องซื้อทุกวัน ในขณะที่ราคาวัตถุดิบในช่วงนี้ไม่ได้ปรับราคาขึ้น การลงทุนครั้งแรกประมาณ 20,000 บาท ส่วนคนงานก็เป็นคนงานที่ทำงานชุดอุปกรณ์แต่งรถ ซึ่งมีความรู้เรื่องของการหล่อไฟเบอร์อยู่แล้ว ปรับมาทำเรือแทน ถ้าเราไม่ทำตรงนี้ และในขณะที่การทำชุดอุปกรณ์แต่งรถก็ไม่มีออร์เดอร์เข้ามาสุดท้ายปัญหาที่ตามมา คือ คนงานก็จะไม่มีงานทำ ผมเองก็ไม่มีรายได้ แต่พอมาทำเรือ คนงาน 12 คนก็มีงานทำตามปกติ แถมตัวผมเองก็มีรายได้มากกว่าการทำรถเสียอีก
ทั้งนี้ จากการทำเรือไฟเบอร์ ขายครั้งนี้ ยังช่วยให้ผมได้ปลดหนี้ ที่มีอยู่หลายแสนบาท จากการลงทุนทำชุดอุปกรณ์แต่งรถอยู่ให้หมดลงไปอีกด้วย จากวิกฤต กลายเป็นโอกาสเลยก็ว่าได้ จากเดิมผมทำอยู่ที่รังสิตคลอง 9 ด้วย ซึ่งที่นั่นก็ขายดีมากเช่นกัน เพราะเป็นเขตพื้นที่น้ำท่วม แต่ตอนหลังพื้นที่ที่เราทำก็โดนน้ำท่วมด้วยทำให้ทำงานไม่ได้ จึงได้ย้ายมารวมและทำกันที่สนามบินน้ำนี้เพียงแห่งเดียว ซึ่งพื้นที่ตรงนี้น้ำยังไม่ท่วม และอยู่ในเขตพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมเช่นกัน ยอดขายจึงไม่ได้ตกลงไปเลย ประกอบกับในช่วงนี้ เรือมีราคาแพง ขายกันในท้องตลาดอยู่ที่ลำละ 9,000 บาท แต่เราขายเพียงลำละ 6,500 บาท ลูกค้าจึงหันมาซื้อจากเรามากขึ้น
ส่วนรูปแบบของเรือนั้น ตอนนี้มีแบบเดียว เพราะมีต้นแบบเพียงแบบเดียว ซึ่งเป็นแบบมาตรฐานที่ใช้กันทั่วไป และเป็นแบบที่ลูกค้านิยม เพราะเรือกว้าง บรรทุกคนได้ 4 คน และสิ่งของได้พอสมควร
โทร. 08-7259-7102