โรงแรม 7 วัน 7 สี ขายความเชื่อ ชูจุดขายเอกลักษณ์ไทย

ถ้าเอ่ยถึง โรงแรม หลายคนก็คงจะนึกถึงสถานที่ที่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการพักผ่อน ที่สะดวกสบาย ร่มรื่น และสวยงาม และด้วยเหตุนี้ “เซเว่น” โรงแรมสุดแนว คอนเซ็ปต์ “ 7 วัน 7 สี แห่งเดียวในโลก” ไอเดียเก๋ของผู้ประกอบการคนไทย เพื่อฟื้นธุรกิจ “บูติคโฮเต็ล” ย่านสุขุมวิท 31

“เซเว่น โฮเต็ล” หรือ ชื่อที่หลายคนคุ้นเคยกันในชื่อของ โรงแรม 7 สี เพราะทางเจ้าของ “ไพลิน เจนท์ สงวนปิยะพันธ์” ทายาทตัวแทนจำหน่ายสี “เชอร์วิน-วิลเลี่ยม” เธอได้หันมาพัฒนาบุกเบิกโรงแรมแนวบูติคโฮเต็ล โดยได้นำคอนเซ็ปต์ความเชื่อของคนไทยในเรื่องของสีตามวันทั้ง 7 ของคนไทย จึงได้เป็นที่มาของโรงแรม 7 สี
ห้องน้ำตกแต่งด้วยสีเขียว

ไพลิน เจนท์ เล่าว่า ที่มาของคอนเซ็ปต์ โรงแรม 7 สี เกิดขึ้นมาจากไอเดียที่ต้องการจะนำเสนอความเป็นไทย ตั้งแต่ขนบธรรมเนียมประเพณี จนถึงลายเส้นของไทยมาเป็นจุดเด่น โดยผ่านงานออกแบบในทุกๆ ส่วนของโรงแรม ตั้งแต่โลโก้ ยูนิฟอร์ม ไปจนถึงศิลปะบนฝาผนัง และที่เลือก 7 วัน 7 สี เพราะจำได้ว่า ในสมัยเด็กๆ คุณครูมักจะให้พวกเราท่อง สีประจำวัน วันจันทร์ สีเหลือง วันอังคาร สีชมพู วันพุธ สีเขียว วันพฤหัส สีส้ม วันศุกร์สีฟ้า วันเสาร์ สีม่วง และวันอาทิตย์ สีแดง และวันทั้ง 7 สีมีเฉพาะในเมืองไทยเท่านั้น

ประกอบกับเราต้องการทำโรงแรมมีความเป็น Unique ความเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นเป็นของตัวเองไม่เหมือนใคร Personal Background มีเบื้องหลังความเป็นมาที่มาจากรากเหง้าส่วนตัว เพราะ ที่มีบ้านมีกิจการธุรกิจสี จึงเติบโตมากับเฉดสีต่างๆ รอบๆ ตัว
ห้องแต่งด้วยสีแดง วันอาทิตย์

ดังนั้น จึงได้ออกแบบห้องพัก แต่ละห้องให้สอดรับกับคอนเซปต์ โดยแต่ละห้องจะมีสีสันที่แตกต่างกันออกไปตามวัน และพื้นที่ใช้สอย รวมถึงวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ยังต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน เพราะการที่โรงแรมหรือที่พักใดในช่วงนี้ ให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อม จะเป็นสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกได้เป็นอย่างดี

สำหรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย มองไปที่กลุ่มลูกค้าที่มีความเชื่อในเรื่องของโชคลาง เพราะความเชื่อเหล่านี้ เป็นสิ่งที่อยู่คู่กับคนไทยมาตลอด โดยทั่วไปคนไทยจะมีความเชื่อส่วนตัวว่า การที่เราได้สวมใส่ หรือใช้ของ ให้ตรงกับสีของวันแต่ละวัน จะช่วยเสริมพลังในด้านดีให้แก่ตัวเอง ทำให้เรามั่นใจว่า เมื่อเราได้ออกแบบโรงแรมในคอนเซ็ปต์ดังกล่าวน่าจะได้ลูกค้ากลุ่มคนไทย
ห้องสีฟ้า สำหรับคนเกิดวันศุกร์

“อย่างไรก็ตาม พอเราได้เปิดตัวโรงแรม ไม่ได้แค่ลูกค้าคนไทย แต่กลับได้ลูกค้านักท่องเที่ยวจากทั่วโลก และด้วยความแปลกใหม่ และการบริการที่ทางเราให้เต็มที่กับลูกค้า ทำให้ชื่อเสียงของโรงแรมถูกบอกต่อปากต่อปากจากนักท่องเที่ยว และโชคดีที่มีนักเขียนชาวต่างชาติคนหนึ่งได้เข้ามาพักในโรงแรมของเรา และเกิดความชอบ ในความแปลกใหม่ นำเรื่องราวของโรงแรมไปเขียนบทความ ตีพิมพ์ออกไป ทำให้เป็นอีกทางหนึ่ง คนทั่วโลกได้รู้จัก เซเว่นโฮเต็ลมากขึ้น”

สำหรับลูกค้าต่างชาติที่เข้าพักส่วนใหญ่จะเป็นชาวยุโรป มีนักท่องเที่ยวเอเชียบ้าง แต่ส่วนน้อย เพราะไลฟ์สไตล์แตกต่างกัน คนเอเชียไม่ชอบอะไรที่ดูเงียบๆ ชอบอะไรที่เป็นสีสันมากกว่า และคนที่มาพักส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นกลุ่มคนที่ชอบอะไรเหมือนๆ กัน เช่น ความเงียบสงบ ต้องการความเป็นส่วนตัวสูง และเป็นคนที่มีความสันโดษ และชอบที่จะพักอยู่กับโรงแรมขนาดเล็กๆ โดยมีลูกค้าประมาณ 30% ที่ไปแล้วกับมาพักกับเราอีก กลุ่มลูกค้าอายุเฉลี่ยประมาณ 25 ปี ถึง 45 ปี
ห้องพักสีแดง ประจำวันอาทิตย์

ส่วนช่องทางการขาย เริ่มจากการบอกกันแบบปากต่อปาก จากจุดขายที่ไม่เหมือนใคร บรรยากาศที่สงบเหมาะแก่การพักผ่อน และใช้ช่องทางการตลาดแบบออนไลน์ ผ่านทางเว็บไซต์ และโซเชียลเน็ตเวิร์ค เช่น Facebook และ Twitter รวมถึงการโฆษณาใน City magazine ภาษาอังกฤษ ที่มีคุณภาพสูง และสิ่งสำคัญที่เราให้ความสำคัญ คือ การลงทุนในการเทรนนิ่ง เพราะการโฆษณาอะไรก็ไม่ผลเท่ากับการโฆษณาแบบปากต่อปาก

โรงแรมเซเว่น เปิดให้บริการมาตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2007 คุณไพลิน บอกกับเราว่า การบริหารโรงแรมให้ประสบความสำเร็จ สิ่งสำคัญคือ ต้องรู้เสมอว่า การทำธุรกิจหมดยุค “ก็อปปี้” เพราะถ้าทำธุรกิจโดยไม่คิดต่างจากคนอื่นๆ จะไม่สามารถอยู่รอดได้ เพราะคนส่วนใหญ่ที่เข้าพัก ก็ย่อมต้องการความแปลกใหม่ ถ้ายังพยายามทำเหมือนคนอื่นๆ สุดท้ายก็ไปไม่รอด ส่วนการขยายตลาดนั้น ในอนาคตยังมองการขยับขยายการลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน อย่าง ลาว และพม่า เพื่อขยายธุรกิจโรงแรมให้มีขนาดใหญ่ขึ้น ในสนามใหม่ โดยคอนเซ็ปต์จะแตกต่างกันออกไป