"ดร.ธนิต" รองประธานสภาอุตสาหกรรม เสนอแนะสร้างต้นแบบโมเดลเอสเอ็มอี เพื่อให้ง่ายต่อการพัฒนาและยกระดับเอสเอ็มอี รองรับกรอบข้อตกลงเขตการค้าเสรี อาเซียน (AEC) ชี้ ที่ผ่านมาสภาอุตฯให้ความสำคัญ AEC ค่อนข้างมาก มีการจัดอบรมทั่วประเทศแต่ไม่ค่อยได้ผล เพราะนักวิชาการขาดทักษะประสบการณ์นักวิชาการอบรมนักธุรกิจไม่ค่อยได้ผล
ดร.ธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวภายในงานสัมมนา โครงการพัฒนากลไกและการสื่อสารของนโยบายด้านแรงงานต่อกรอบความตกลงเขตการค้าเสรี (AEC) ว่า ในกรอบการตกลงเขตการค้าเสรี ผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจะเป็นกลุ่มเอสเอ็มอี เพราะขาดศักยภาพด้านการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินทุน เรื่องการผลิต ดังนั้น สิ่งสำคัญ คือ ต้องติดอาวุธให้กับคน โดยต้องมีการวางยุทธศาสตร์ทางด้านคนให้ชัดเจน
ที่ผ่านมาสภาอุตสาหกรรม ให้ความสำคัญกับการดูแลเอสเอ็มอี อยู่แล้ว โดยเปิดสถาบันพัฒนาเรื่องแรงงาน ทำงานร่วมกับกระทรวงแรงงาน โดยมุ่งเป้าไปที่เรื่องของ AEC ซึ่งได้ลงไปให้ความรู้และจัดฝึกอบรมในหลายจังหวัด แต่ก็ไม่ค่อยได้ผล เพราะเป็นการเอาราชการนักวิชาการไปสอนนักธุรกิจ สอนกันไม่ได้ เพราะบางครั้งนักวิชาการเองยังขาดทักษะและประสบการณ์ สอนไม่ได้มากนัก
อย่างไรก็ตาม ได้มีการนำเสนอแนะเรื่องของโมเดลต้นแบบของเอสเอ็มอี เพราะน่าจะเห็นผลได้ตรงจุดและรวดเร็ว โดยคัดเลือกเอสเอ็มอีที่มีคุณภาพ ในแต่ละคลัสเตอร์ เพื่อให้เง่ายต่อการนำไปเป็นต้นแบบของเอสเอ็มอีแต่ละสาขา หรือจะใช้วีธีการก็อปปี้รูปแบบการทำงานไปใช้เลย ซึ่งจะรวดเร็วและทันเวลา โดยเอสเอ็มอีที่เป็นต้นแบบได้มีโอกาสพัฒนาตัวเอง ไปด้วย เชื่อว่า เอสเอ็มอีที่มีศักยภาพ พร้อมที่จะมาเป็นต้นแบบโมเดล เพียงแค่เราก็จะใช้วีธีการลดหย่อนภาษี หรือมีใบประกาศนียบัตร โล่ห์ หรือ ถ้วย เพื่อให้เขาได้นำไปเป็นเกียรติยศ ให้กับบริษัท ห้างร้านของตนเอง เท่านี้ น่าจะมีคนให้ความสนใจ อยากจะเป็นต้นแบบ