ครม.อนุมัติวงเงินสินเชื่อ 2 พันลบ. ให้ "เอสเอ็มอีแบงก์" ปล่อยกู้แก่ ผปก.ขนาดกลางและย่อมที่ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วม ระบุวงเงินกู้ไม่เกิน 1 ลบ.ต่อราย อัตราดอกเบี้ยคงที่ 6% ต่อปี ระยะผ่อนนาน 6 ปี ปลอดชำระเงินต้นใน 2 ปีแรก มีระยะเวลาโครงการถึงสิ้นปี 55 หรือจนกว่าวงเงินเต็มจำนวน
นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ (20 ก.ย.) เห็นชอบมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ประสบภัยพิบัติปี 2554 ผ่านธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) ที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยอนุมัติวงเงินสินเชื่อจำนวน 2,000 ล้านบาท เพื่อปล่อยกู้ให้แก่ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมหรือเอสเอ็มอี ที่ได้รับความเสียหายหรือได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม 2554 จนถึงปัจจุบัน โดยพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมตามประกาศของทางราชการ มีระยะเวลาโครงการสิ้นสุดวันรับคำขอกู้ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2555 หรือเมื่อเต็มวงเงินสินเชื่อรวมของโครงการแล้วแต่ระยะเวลาใดจะถึงก่อน
ทั้งนี้ วัตถุประสงค์การกู้เพื่อใช้ปรับปรุง ซ่อมแซม ฟื้นฟูกิจการ และ/หรือเป็นเงินทุนหมุนเวียน วงเงินสูงสุดไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อราย โดยเป็นเงินกู้ยืมแบบมีระยะเวลา (Term Loan) ระยะเวลาการกู้ยืมสูงสุดไม่เกิน 6 ปี ปลอดชำระเงินต้นใน 2 ปีแรก หลักเกณฑ์พิจารณาผ่อนปรนไม่ต้องใช้หลักประกัน หรือการค้ำประกัน และการตรวจสอบประวัติทางการเงิน (Credit Bureau) จะไม่นำมาใช้เป็นเงื่อนไขในการปฏิเสธการให้สินเชื่อ อัตราดอกเบี้ยคงที่ 8 % ต่อปีตลอดสัญญา โดยรัฐบาลช่วยชดเชยดอกเบี้ยให้ 2 % ทุกปี ส่วนผู้ประกอบการจะจ่ายเพียง 6 % ต่อปี
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่ยื่นขอกู้จะต้องมีสถานประกอบการอยู่ในพื้นที่ประสบเหตุภัยพิบัติ และกิจการได้รับผลกระทบ โดยจะต้องมีหนังสือรับรองจากหน่วยงานราชการในพื้นที่ว่าเป็นผู้ประกอบการอยู่ในพื้นที่ที่ประสบเหตุภัยพิบัติ และได้รับผลกระทบ
