xs
xsm
sm
md
lg

พาสต้า-เส้นหมี่ ข้าวกล้อง สร้างมูลค่าเกษตรอินทรีย์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พาสต้าได้จากข้าวกล้อง และข้าวจ้าวหอมนิล
ข้าวอาหารหลักของคนไทย และอีกในหลายประเทศ ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศที่มีการส่งออกข้าวเปลือกเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ในขณะที่ เรามีวัตถุดิบอยู่เป็นจำนวนมาก แต่กลับไม่เคยนำมาแปรรูป เพิ่มมูลค่า แต่อย่างไร ทั้งนี้ เพื่อให้สร้างมูลค่าและเป็นทางเลือกในการเพิ่มช่องทางการขายใหม่ จึงมีผู้ประกอบการหลายรายสนใจ นำข้าวมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง อาทิ ผลิตภัณฑ์ข้าวเจ้าภายใต้แบรนด์ family tree
ออกแบบกล่องให้ดูแบบเด็กๆ เพื่อให้รู้สึกดีต่อผลิตภัณฑ์
สำหรับ Family Tree แฟมิลี่ ทรี เป็นผลิตภัณฑ์ที่นำผลผลิตจากการเพาะปลูกแบบเกษตรอินทรีย์หรือออร์แกนิค (Organic Agriculture) มาสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยผลิตภัณฑ์หลัก คือ ข้าวจ้าว ทั้งที่จำหน่ายเป็นข้าวเพื่อนำไปหุงต้ม และผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปจากข้าวเจ้าของFamily Farm

นางสาวนภาวรรณ ทรงประเสริฐกุล เจ้าของFamily Tree เล่าว่า ที่ผ่านมา เปิดตัวด้วยข้าว เส้นหมี่ พาสต้า และเครื่องดื่มข้าวหอมนิลสกัด ซึ่งสินค้าข้าวประกอบไปด้วย ข้าวขาว ข้าวกล้อง ข้าวหอมมะลิชมพู และข้าวหอมนิล ส่วน พาสต้า มีพาสต้าข้าวกล้อง พาสต้าข้าวกล้องงอก พาสต้าผัก และพาสต้ารวม 3 in 1 สินค้าเส้นหมี่ มี เส้นหมี่ข้าวกล้อง เส้นหมี่ข้าวกล้องงอก เส้นหมี่ผัก และเส้นเล็กข้าวกล้อง รวมถึงผลิตภัณฑ์แป้งทำขนมจากข้าวกล้องชนิดต่าง ๆ ซึ่งทั้งหมดเป็นเกษตรอินทรีย์
ข้าวกล้องในแบบต่างๆ
ในส่วนของการผลิต มีโรงงานผลิตเป็นของตนเอง ตั้งอยู่ในแหล่งผลิตข้าวหอมมะลิที่ดีที่สุดของโลก คือ จังหวัดสุรินทร์ และเนื่องจากในตลาดของคนรักสุขภาพยังมีความต้องการผลิตภัณฑ์แปรรูป โดยใช้ข้าวเจ้าเกษตรอินทรีย์ของเราอยู่ ดังนั้น ในอีกไม่นาน มีโครงการเพิ่มไลน์สินค้าให้มากขึ้น เช่น ธัญพืชอาหารเช้าสำเร็จรูปครบคุณค่าสารอาหาร

ส่วนแหล่งที่มาของข้าวทั้งหมด จะใช้แปลงเพาะปลูกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (สุรินทร์ ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ ยโสธร) ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเกษตรอินทรีย์ จากกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ข้าวทุกชนิดของแฟมิลี่ ทรี ได้จากการทำนาเกษตรอินทรีย์ปีละ 1 ครั้ง (นาปี) ในฤดูฝนเท่านั้น ไม่มีการฝืนธรรมชาติ โดยใช้เฉพาะปุ๋ยอินทรีย์ และสารสกัดจากสมุนไพร
นางสาวนภาวรรณ ทรงประเสริฐกุล เจ้าของ
นางสาวนภาวรรณ เล่าว่า จุดเริ่มต้นในการมาทำผลิตภัณฑ์ดังกล่าว มาจากเดิมตนเอง ทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมอาหารมาก่อน และมีความสนใจอยากจะแปรรูปข้าวให้เป็นพาสต้า เนื่องจากพาสต้านั้นเป็นอาหารที่นิยมบริโภคกันโดยทั่วไปทั้งชาวไทยและตะวันตก โดยพาสต้าจะทำจากแป้งสาลีเท่านั้น ซึ่งมีคนจำนวนไม่น้อยมีอาการแพ้แป้งสาลีทั้งแบบอาการเล็กน้อยจนถึงรุนแรงมาก จึงคิดนวัตกรรมใหม่นำข้าวเจ้ามาผลิตพาสต้า ซึ่งทำยากมาก เพราะโครงสร้างแป้งไม่เหมือนกัน ใช้เวลาคิดค้นกว่า 1 ปี จนทำสำเร็จเป็นพาสต้าข้าวกล้องไม่ขัดขาวที่อุดมไปด้วยรำข้าวและจมูกข้าวที่มีประโยชน์กว่าพาสต้าจากแป้งสาลีที่มีแต่แป้งเพียงอย่างเดียว และทุกคนกินได้ไม่มีอาการแพ้ จึงเป็นทางเลือกให้ผู้บริโภคได้ และมีประโยชน์สูงต่อสุขภาพ
ข้าวกล้องงอก
ทั้งนี้ ความโดดเด่นของตัวผลิตภัณฑ์ ที่แตกต่างจากสินค้าทั่วไปในตลาด ด้วยสินค้าที่โดดเด่นเรื่องพาสต้าข้าวแล้ว ใช้วัตถุดิบเกษตรอินทรีย์ทั้งหมด รวมทั้งผักทุกชนิดที่นำมาผสมในพาสต้าและเส้นหมี่ อีกทั้งในการผลิตยังไม่มีการเติมสารเคมีเติมแต่งใดๆ ไม่แต่งสี แต่ใช้สีของข้าวกล้องแดงและผักเป็นหลัก

“ในส่วนข้าวกล้องของเรา เป็นข้าวที่มีความหอมมากและนุ่มเป็นพิเศษ ซึ่งได้จดสิทธิบัตรกับกรมทรัพย์สินทางปัญญาในเรื่องเทคนิกการเพาะปลูกจนมีความหอมมันและนุ่ม โดยไม่ต้องเพิ่มน้ำ เพิ่มเวลา และไม่ต้องแช่ข้าวค้างคืนก่อนหุงนอกจากนั้นเราตระหนักถึงความสวยงามและสบายตาของผู้บริโภค จึงได้ออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้ดูน่ารัก แบบเด็ก ๆ แตกต่างไปจากสินค้าออร์แกนิกอื่น ๆ เพื่อให้เกิดความรู้สึกที่ดีต่อผลิตภัณฑ์” เจ้าของธุรกิจ เผย
พาสต้าได้จากข้าวกล้องงอก
โดยกลุ่มลูกค้า เป็นคนทั่วๆไปที่เป็นผู้รักสุขภาพ ต้องการหาสิ่งดีๆ มาบริโภค และนำไปประกอบอาหารให้เด็ก ๆ เพราะทั้งพาสต้าและเส้นหมี่ จะมีวิตามิน แร่ธาตุ ใยอาหาร ครบถ้วนจากข้าวไม่ขัดสีและผักที่นำมาผสม และเราไม่เติมสารเคมีใด ๆ และกลุ่มลูกค้าที่เป็นโรคภูมิแพ้ (แป้งสาลี)
พาสต้าทำจากข้าวจ้าวหอมมะลิ
สำหรับช่องทางการจัดจำหน่ายเนื่องจาก เป็นผลิตภัณฑ์ที่ต้องการจะทำตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมุ่งไปที่กลุ่มลูกค้าตลาดบน เพราะด้วยราคาที่ค่อนข้างสูง ดังนั้น ช่องทางการขายที่วางไว้ คือ ในซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ ซึ่งมีแผนที่จะเข้าไปวางขายในร้านสุขภาพทั่วประเทศ และการขายผ่านทางเว็บไซต์ รวมถึงการออกงานแสดงสินค้า และ ต้องการหาตัวแทนจำหน่ายทุกจังหวัดทั่วประเทศที่เป็นร้านค้าสุขภาพ
ข้าวหอมนิล
ส่วนราคาพาสต้า กล่องละ 120 บาท (500 กรัม) กินได้ 6-8 คน เส้นหมี่ ราคากล่องละ 70 บาท (240 กรัม) มี 6 ก้อน ข้าวเกษตรอินทรีย์ ราคาตามท้องตลาด กิโลกรัมละ 100-130 บาท ผงดื่มข้าวหอมนิลสกัด ราคากล่องละ 180 บาท มี 10 ซอง โดยปัจจุบันยอดขายอยู่ในระดับที่น่าพอใจประมาณเดือนละหลายแสนบาท ตั้งเป้าไว้ว่าจะเพิ่มยอดขายให้ได้หลายล้านบาทต่อเดือน

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

โทร. 08-1648-8591, 02- 714- 4816-9,www.familyfarmorganic.com
กำลังโหลดความคิดเห็น