ใครจะรู้ว่า วันหนึ่งของใช้ใกล้ตัวที่เรามองข้ามอย่าง “ยาดมสมุนไพร” กลับมาเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้คนเรามีอาชีพเสริมขึ้นมา และจากอาชีพเสริม ที่ทำเล่นๆ วันหนึ่งกลับกลายมาเป็นอาชีพหลัก สร้างรายได้หลายหมื่นบาทต่อเดือนเลี้ยงครอบครัวได้เป็นอย่างดี เพียงแค่หันมาศึกษา มุ่งมั่นค้นคว้าสิ่ง ๆ นั้นแบบเป็นเรื่องเป็นราว วันหนึ่งเราอาจพบอาชีพใหม่ซึ่งเป็นอาชีพที่สร้างทั้งความสุข สร้างรายได้เสริม จนทำให้กลายเป็นเถ้าแก้น้อย ๆ โดยไม่รู้ตัว
นายพฤทธิ์ พิมพบุตร หรือ “หมู” เป็นอีกคนหนึ่งที่ชื่นชอบกลิ่นของสมุนไพรในรูปแบบต่าง ๆ มานานกว่าสิบปี ไม่ว่าจะเป็นยาหม่อง ยาดม พิมเสนน้ำ หรือสมุนไพรหอม เมื่อเจอยี่ห้อใหม่ ๆ ที่วางขายตามท้องตลาด คุณหมูเป็นต้องซื้อหามาลองดมเสมอ และความชอบนี่เองทำให้คุณหมูลุกขึ้นมาศึกษาวิธีการทำสมุนไพรหอมจากชมรมอนุรักษ์สมุนไพรไทย จนปัจจุบันได้ผลิตสมุนไพรหอม “บุษย์น้ำทอง” เป็นของตัวเองในที่สุด
“ความที่ผมเป็นคนชอบดมยาดมประเภทสมุนไพรหอม ดมมาหลายชนิด หลายสูตร แต่รู้สึกว่ากลิ่นมันยังไม่ใช่กลิ่นที่ตัวเองชอบเสียทีเดียว วันหนึ่งก็เลยไปเรียนทำสมุนไพรหอมซึ่งอาจารย์ที่สอนก็ได้ให้ความรู้และสอนขั้นตอนการทำอย่างละเอียด ส่วนกลิ่นของสมุนไพรจะเป็นกลิ่นแบบไหนก็อยู่ที่เราจะประยุกต์ การลดหรือเพิ่มเติมปริมาณของสมุนไพรบางชนิดเข้าไปจะทำให้สมุนไพรหอมของเรามีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะแตกต่างจากคนอื่น”
สำหรับสมุนไพรที่นำมาใช้เป็นส่วนประกอบนั้น 80 เปอร์เซ็นต์เป็นสมุนไพรไทย อีก 20 เปอร์เซ็นต์เป็นสมุนไพรที่นำเข้าจากจีน ซึ่งส่วนใหญ่จะมีน้ำมันหอมระเหย สรรพคุณส่วนใหญ่คือ กลิ่นหอมสดชื่น ช่วยบำรุงธาตุ สมุนไพรที่นำมาใช้เป็นส่วนผสมได้แก่ กานพลู กระวาน ดอกจันทร์ พริกไทยดำ เมลทอล พิมเสน การบูร ฯลฯ สำหรับยาดมสมุนไพรบุษย์น้ำทอง เลือกกลิ่นของดอกกานพลูแห้ง และเมนทอล มาเป็นตัวเด่น เพราะให้กลิ่นที่หอมชื่นใจ และกลิ่นไม่แรงมาก ทำให้สามารถสูดดมได้บ่อยเท่าที่ต้องการ โดยขวดใหญ่มีอายุการใช้งานนานถึง 1 ปี ส่วนขวดเล็กมีอายุการใช้งาน 3-4 เดือน ใช้ระยะเวลาในการหมักสมุนไพรประมาณ 3ถึง 7 วัน
ปัจจุบันสมุนไพรทุกอย่างสามารถหาซื้อได้จากร้านขายสมุนไพรทั่วไป ส่วนราคามีการปรับขึ้นมาในช่วงหลัง เพราะมีคนหันมาทำยาดมสมุนไพรกันมาก สินค้ามีน้อยลง ราคาเพิ่มขึ้น โดยสมุนไพรแต่ละตัวราคาขึ้นลงแต่ละวันไม่เท่ากัน เหมือนกับราคาทองคำ ที่มีราคาขึ้นลงในแต่ละวันไม่เท่ากัน
ในการทำสมุนไพรหอมนั้น คุณพฤทธิ์บอกว่า เพื่อคุณภาพของสินค้าจึงจะผลิตในปริมาณที่ไม่มากจนเกินไปนักเพราะจะทำให้ควบคุมคุณภาพได้ และทุกขั้นตอนจะใช้คนในครอบครัวช่วยกันทำเป็นหลัก จากนั้นจึงกระจายไปสู่ขั้นตอนการจัดจำหน่าย โดยเริ่มแรกก็อาศัยการแนะนำผลิตภัณฑ์แบบบอกต่อ จนในที่สุดด้วยกลิ่นที่ถูกใจตลาดทำให้มีคนเริ่มสนใจรับไปขายเป็นรายได้เสริมจากงานประจำซึ่งมีทั้งนักเรียน คนทำงานที่ต้องการรายได้เสริม
นอกเหนือจากกลิ่นที่ถูกใจคนส่วนใหญ่ คุณหมูยังเน้นเรื่องความสวยงามของรูปลักษณ์ของสินค้าอีกด้วย โดยสมุนไพรหอมถูกบรรจุในขวดแก้วที่มีความสวยงาม สะอาดและปลอดภัย ปัจจุบันมีให้เลือกซื้อ 3 ขนาด ได้แก่ ขนาดใหญ่ 10 กรัม ราคา 45 บาท ขนาด 5 กรัม ราคา 35 บาท และขนาดเล็ก 2 กรัม ราคา 25 บาท โดยผู้ที่รับไปจำหน่ายจะจัดส่งให้อีกราคาหนึ่ง ขึ้นอยู่กับจำนวนการสั่งซื้อ ที่ผ่านมา บุษย์น้ำทอง จะใช้ช่องทางการจำหน่ายผ่านทางบริการไปรษณีย์ เพราะช่วยให้กระจายสินค้าได้ทั่วประเทศในระยะเวลาอันรวดเร็ว
สำหรับ ยอดขายต่อเดือนประมาณ 1,000 ขวด แต่ถ้าเป็นช่วงเทศกาลอย่างช่วงวันสงกรานต์ยอดขายเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว แต่เนื่องจากให้ความสำคัญกับคุณภาพ จึงไม่สามารถรับออร์เดอร์จำนวนมาก จำเป็นต้องปฏิเสธลูกค้าไปบ้างในช่วงเทศกาลที่ผ่านมา ซึ่งปีนี้ เป็นปีแรกจึงไม่ได้มีการวางแผนการผลิตไว้ก่อน คาดว่าในปีต่อไป คงจะได้วางแผนการผลิตในช่วงเทศกาลให้ดีกว่านี้ และสามารถรับออร์เดอร์ลูกค้าได้ทั้งหมด
จุดเด่นที่ทำให้ลูกค้าพอใจและมียอดขายเพิ่มขึ้นมาตลอด ในช่วงเวลาที่ผ่านมา มาจากคุณภาพของสินค้า กลิ่นที่ลูกค้าชื่นชอบ มีคุณสมบัติที่ลูกค้าพึ่งพอใจ และที่สำคัญ การเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ เพื่อให้ลูกค้าสามารถซื้อไปเป็นของฝากตามเทศกาลหรือซื้อไปใช้ได้เอง โดยเฉพาะวัยรุ่นกล้าซื้อใช้ และไม่รู้สึกว่าเป็นของโบราณ
ส่วนแผนในอนาคต มีแผนที่จะร่วมกับบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้านการตลาดมาช่วยทำตลาดให้ ในขณะนี้มีบริษัทที่มีชื่อเสียง และมีประสบการณ์ด้านการตลาด เสนอตัวเข้ามา ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจา คาดว่าน่าจะได้ข้อสรุป และร่วมงานกันในเร็วๆนี้ ซึ่งเป็นอีกทางหนึ่งช่วยขยายช่องทางการจัดจำหน่ายให้มากขึ้น
โทร.083-070-8916 / 085-058-9777