ตัวการ์ตูนใบหน้ากลม คางบุ๋ม ไม่มีปาก และจมูก วาดด้วยลายเส้นง่ายๆ ตั้งชื่อว่า “ครับ” คือ โลโก้ประจำแบรนด์ “oneman” (วันแมน) ที่ “วัลลภ สำแดงพันธ์” เจ้าของธุรกิจ ปลุกปั้นให้เป็นตัวแทนภาพลักษณ์ความสดใส น่ารัก ส่งผ่านไปกับสินค้าทุกชิ้น มากกว่าแค่ขายตัวสินค้าเท่านั้น ถือเป็นไอเดียของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการใช้แบรนด์เป็นตัวนำสินค้า
จากเดิมยึดอาชีพนักวาดการ์ตูนประกอบหนังสือ จนอยู่มาวันหนึ่งเจอรูปที่ตัวเองเป็นคนวาด กลับถูกใช้เป็นลายสกรีนเสื้อยืด กระตุ้นให้หนุ่มคนนี้ อยากหันทำเสื้อยืดสกรีนลายของตัวเอง แทนที่จะปล่อยให้คนอื่น นำผลงานไปหาผลประโยชน์
วัลลภ เล่าต่อว่า รูปแบบธุรกิจตอนนั้นลักษณะคล้ายคนทำเสื้อยืดขายทั่วไป ที่จะออกแบบลาย หาซื้อผ้าย่านวัดสน แล้วไปจ้างช่างสกรีน และตัดเย็บ โดยเช่าหน้าร้านขายในตลาดนัดสวนจตุจักร
ทว่า ด้วยรูปแบบธุรกิจที่ไม่แตกต่างจากท้องตลาดทั่วไป จึงมีคู่แข่งมาก ขายได้กำไรน้อย เพราะต้องแข่งตัดราคา ทำให้ผลตอบรับไม่ดีนัก ถึงขั้นอยู่ระหว่างตัดสินใจจะสู้ทำต่อ หรือล้มเลิกกิจการ กระทั่ง เกิดจุดพลิกผันสำคัญ จากไอเดียเปลี่ยนตำแหน่งการตลาด ที่เดิมคิดแค่ขายเสื้อยืดมาสู่ขายภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่เน้นความน่ารัก สดใส อบอุ่น โดยมีตัวการ์ตูนใบหน้ากลม คางบุ๋ม ไม่มีปาก และจมูก เป็นพระเอกประจำแบรนด์
“เมื่อก่อน ผมจะทำเหมือนเจ้าอื่นๆ ในจตุจักร ขายส่งทีละ 3 ตัว 5 ตัวให้ใครก็ได้มาซื้อไปขายต่อ จนผมเปลี่ยนความคิดว่า ผมจะไม่ขายแค่เสื้อยืด แต่จะขายแบรนด์ที่เป็นตัวแทนความน่ารัก สดใส อบอุ่น โดยใช้วิธีว่า สั่งสินค้า 50 ตัวขึ้นไป จะได้ป้ายโลโก้ และอุปกรณ์แต่งร้านด้วย เพื่อให้คนที่รับของๆ ผมไป สามารถใช้สร้างบรรยากาศร้านให้ออกมาตามแนวที่ผมต้องการ รวมถึง คัดเลือกตัวแทนขายส่งที่ชอบแบรนด์นี้จริงๆ และไปลงสินค้าในทำเลที่เหมาะสม นอกจากนั้น เน้นชูตัวการ์ตูนเอกให้ชัดเจน เพื่อให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ได้” วัลลภ เล่า
นอกจากนั้น พยายามย้ายตำแหน่งสินค้าไปอยู่ตรงกลางระหว่างกลุ่มเสื้อคู่รัก กับเสื้อยืดใส่เดี่ยว โดยออกแบบให้เป็นเสื้อยืดที่มีเรื่องราวเชื่อมถึงกัน แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นลวดลายที่ต่อกันหรือเหมือนกัน สามารถแยกใส่เดี่ยวได้สวยเก๋ หรือถ้าต้องการใส่เป็นคู่ หรือครอบครัว ก็จะมีจุดเชื่อมโยงถึงกัน
อีกทั้ง ไม่ยึดติดขายแค่เสื้อยืด ได้สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ออกมาต่อเนื่อง เช่น กระเป๋า หมอน พวงกุญแจ และโปสการ์ด โดยทั้งหมดยืนอยู่บนแนวคิดเดิมที่ดูน่ารัก สดใส มีหลายสี ยกเว้นสีดำที่ไม่เข้ากับจุดยืนของแบรนด์ เน้นดีไซน์ร่วมสมัย ไม่อิงกระแสแฟชั่นมากเกินไป เพื่อให้ใช้งานได้ยาวนาน
การเปลี่ยนจุดยืนทางการตลาดดังกล่าว วัลลภ บอกว่า ได้ผลเกินคาด ช่วยให้ยอดขายเพิ่มจากเดิมเป็นเท่าตัว ที่สำคัญทำให้รู้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของตัวเองอย่างชัดเจน คือ สุภาพสตรี ตั้งแต่เด็กถึงผู้ใหญ่ มีบุคลิกเด่นเป็นคนอารมณ์ดี ชอบสินค้าน่ารักๆ ช่วยให้ง่ายต่อการออกแบบสินค้าใหม่ และวางแผนการตลาด
สำหรับเสื้อของ “oneman” ขณะนี้มีอยู่ประมาณ 30 ลาย ทั้งคอกลม และเสื้อกล้าม ใช้ผ้าคัดตอน 100% เบอร์ 32 มีขนาดให้เลือกตั้งแต่ S , M , L , XL ราคาปลีกที่ 220 บาท และ XXL ราคาปลีกที่ 250 บาท ส่วนราคาส่งอยู่ที่ 100-120 บาท ด้านสินค้ากระเป๋า และอื่นๆ ราคาปลีกอยู่ที่ 39-370 บาท ช่องทางตลาดที่หน้าร้านของตัวเอง ในตลาดนัดสวนจตุจักร โครงการ 20 ซ.4 กับยูเนียน มอลล์ ชั้น F2 อีกทั้ง ออกบูทตามศูนย์การค้าและชอปปิ้งมอลล์ ประมาณเดือนละครั้ง นอกจากนั้น มีตัวแทน 20 ราย รับสินค้าไปขายส่งตามจังหวัดต่างๆ โดยทั้งหมดจะแนะนำให้ตกแต่งร้าน หรือจัดวางสินค้าให้ออกมาในโทนน่ารักสดใสที่เป็นจุดยืนของแบรนด์เช่นกัน
“ผมจะพยายามให้ทุกที่ๆ มีสินค้าของ oneman ขายความน่ารัก รูปแบบการตกแต่งร้าน ทั้งร้านของผมเอง ร้านตัวแทน หรือออกบูทจะมีลักษณะใกล้เคียงกัน รวมถึง บริการของพนักงาน ก็จะเป็นเหมือนเพื่อนมากกว่าเน้นขายของ เพื่อให้เกิดความผูกพัน ซึ่งผมเชื่อว่า ทั้งหมดจะช่วยสร้างภาพลักษณ์น่ารักสดใสที่ทำให้คนทั่วไปจดจำเราได้” หนุ่มช่างคิด อธิบาย
ไม่เท่านั้น ได้ต่อยอดไอเดียสร้างความผูกพันระหว่างแบรนด์กับลูกค้า ด้วยการทำระบบสมาชิก เวลานี้มีเกือบ 700 ราย ที่จะได้รับสิทธิพิเศษต่างๆนานา เช่น ได้โปสการ์ดเมื่อถึงวันเกิด เสื้อที่ออกแบบให้เป็นการเฉพาะ และส่วนลดพิเศษเมื่อซื้อสินค้า เป็นต้น อีกทั้ง สร้างเครือข่ายผ่านทางเว็บไซต์ และสังคมออนไลน์ เพื่อจะให้ขาประจำเข้ามามีส่วนร่วมในแบรนด์ เช่น แนะนำออกแบบลายใหม่ๆ ทำกิจกรรมร่วมกัน เป็นต้น
วัลลภ เผยด้วยว่า การผลิตในส่วนเสื้อยืดยังใช้วิธีว่าจ้างกลุ่มตัดเย็บ แต่สำหรับกระเป๋ามีทีมช่างของตัวเอง 3 ราย และสกรีนลายมีทีมงานเองเช่นกัน โดยเฉลี่ยยอดผลิตเสื้อยืด ประมาณ 1,500 ตัวต่อสัปดาห์ ส่วนกระเป๋าและอื่นๆ ประมาณ 1,000 ชิ้นต่อเดือน สัดส่วนรายได้มาจากขายส่ง 40% ขายปลีกหน้าร้านและออกบูท ประมาณ 50% และอีก 10% จะรับทำตามออเดอร์พิเศษ
“ปัญหาของผมตอนนี้ คือ การผลิตยังไม่ทันกับความต้องการของตลาด ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างเพิ่มบุคลากร และในอนาคตอยากมีทีมตัดเย็บ และรวมทุกส่วนผลิตมาอยู่ในที่เดียวกัน เพื่อควบคุมการผลิตได้ง่ายขึ้น และฝันสูงสุดของผม อยากจะให้โลโก้ตัวการ์ตูน “ครับ” เป็นที่รู้จักของทุกคน สามารถไปปรากฏได้ในสินค้าทุกประเภท” วัลลภ ทิ้งท้าย
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
โทร.08-5488-2522 , 08-9444-2073 หรือ loponeman.multiply.com