กรมส่งออก ดันส่งออกสิ่งทอไทยปั้นแบรนด์บุกตลาดมะกัน สานต่อโครงการยกระดับสินค้า จากปีที่แล้ว ปั้นแล้ว 5 ราย ระบุปั้นเอสเอ็มอีเพิ่มอีก 4 ราย ทั้งด้านการตลาด ดีไซนเนอร์ และจับคู่โรงงานผลิต
นาง สมจินต์ เปล่งขำ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐฯ กรมส่งเสริมการส่งออก เปิดเผยว่า ในช่วง 2 เดือนแรก(มกราคม-กุมภาพันธ์ 2554) การส่งออกของไทยไปยังสหรัฐฯเริ่มฟื้นตัว มีมูลค่า 3,355 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกัน 20% โดยในส่วนตลาดส่งออกสินค้าเครื่องนุ่งห่มของไทย ปีนี้ (2554) จะเน้นผลักดันสินค้าแบรนด์ของตนเอง นอกเหนือจากแค่รับจ้างผลิตโออีเอ็มให้แบรนด์ดัง โดยในปี 2553 สินค้าเครื่องนุ่งห่มไทยมีมูลค่าส่งออก สูง 1,263 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 7.26% โดย 2 เดือนแรกปีนี้ไทยส่งออก 194 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ ขยายตัวเพิ่มขึ้น 2.8%
ทั้งนี้ สคร.นิวยอร์กร่วมกับสำนักส่งเสริมมูลค่าเพิ่ม กรมส่งเสริมการส่งออก ว่าจ้างบริษัท นิวยอร์ก ไทย ดีไซน์ กรุ๊ป ซึ่งประกอบด้วยดีไซน์เนอร์คนไทยที่ทำงานให้กับแบรนด์ดังๆในนิวยอร์ก ในการผลักดันแบรนด์ของบริษัทไทย โดยปีที่ผ่านมา (2553) ได้ดำเนินการสร้างขึ้นมา 5 บริษัท และคัดเลือกบริษัทเอสเอ็มอีไทยรายใหม่เพิ่มขึ้นอีก 4 บริษัท ภายใต้โครงการสร้างเครือข่ายแฟชั่น ( Fashion Network) เพื่อผลักดันอุตสาหกรรมนี้ได้พัฒนาแบรนด์ขั้นสูง โดยผู้เชี่ยวชาญจะทำการตลาดแบรนด์ (Brand Marketing) โดยมีการจับคู่ระหว่างแต่ละโรงงานกับดีไซเนอร์ไทยที่ทำงานกับแบรนด์ชั้นนำในสหรัฐฯ ร่วมกันผลักดันโครงการนี้ให้เป็นผลสำเร็จ
“การจับคู่สร้างตัวแทนการขาย เพื่อผลักดันเสื้อผ้าสำเร็จรูปไทยสร้างแบรนด์ของตัวเองในตลาดสหรัฐได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งสคร. นครนิวยอร์กได้ศึกษาตลาดสินค้านี้มา 3 ปีแล้ว และพบว่า วิธีนี้ได้ผลสำเร็จ ทั้ง 3 ส่วนจะทำงานร่วมกัน ผู้ประกอบการ ผู้เชี่ยวชาญทำตลาดแบรนด์และดีไซเนอร์ไทยที่ไม่ธรรมดา เพราะทำงานกับในวงการเสื้อผ้าแบรนด์ดังๆ ของสหรัฐฯ อาทิ โปโล , แอนด์ เทเลอร์, แก็ป, โจนส์ นิวยอร์ก, เซ่ , ทีโอรี่, เดอะลิมิเต็ด, ลิซ แคลบอร์น, เออร์เบิน เอ้าท์ฟิตเตอร์, แฮกก้าร์, เคนเนท โคล, ไมเคิล คอร์ส , ดีเร็ค แลมเป็นต้น” นางสมจินต์ กล่าว
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญจะทำงานอย่างใกล้ชิดกับโรงงาน ตั้งแต่เลือกหาแนวคิด ดูกระแสตลาด ช่วยจัดหาวัตถุดิบ ออกแบบ ติดต่อประชาสัมพันธ์ หาโชว์รูม ออกงานแสดงสินค้าในสหรัฐฯ และนัดหมายลูกค้าให้มาชมสินค้าที่งานแสดงสินค้าและที่โชว์รูม
ในปี 2553 มีบริษัทไทยที่เข้าร่วม 5 บริษัท และในปีนี้ยังจะเข้าร่วมโครงการต่อเนื่อง คือ บริษัท ฮาร์ต แอนด์ ไมด์ แอพพาแรล ทำเสื้อผ้าแบรนด์มิลเลอร์ ออฟ คัลเลอร์ , บริษัทเทพฤกษ์ แบรนด์ มาลี คิดส์, บริษัทไพโอเนีย แบรนด์ แอนดรูส์ & ออเดร, บริษัท ทองไทย แบรนด์-อินฟอร์มและ บริษัท บูติคนิวซิตี้ แบรนด์สวิทช์ ซึ่งเป็นการเจาะตลาดมีการสั่งซื้อสินค้าผ่านโชว์รูมและงานแสดงสินค้าแล้ว ถึงแม้ยอดการสั่งซื้อจะยังไม่มากนัก
“สินค้าแบรนด์ทั้ง 5 แบรนด์เริ่มเป็นที่รู้จักในวงการ มีการลงพิมพ์ในวารสารด้านแฟชั่นหลายฉบับ โดยล่าสุด แบรนด์ มิลเลอร์ ออฟ คัลเลอร์ ซึ่งเป็นเสื้อผ้าเด็ก เป็นเสื้อผ้าที่ดาราดังเจนนิเฟอร์ เกอร์เนอร์(Jennifer Garner) และ เบน แอฟเฟล็ก (Ben Afflect) เลือกซื้อให้กับลูกสาวสวมใส่และถ่ายรูปในนิตยสาร ซึ่งเป็นการเพิ่มชื่อเสียงให้กับแบรนด์มากยิ่งขึ้น” นางสมจินต์ กล่าว
นาง สมจินต์ เปล่งขำ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐฯ กรมส่งเสริมการส่งออก เปิดเผยว่า ในช่วง 2 เดือนแรก(มกราคม-กุมภาพันธ์ 2554) การส่งออกของไทยไปยังสหรัฐฯเริ่มฟื้นตัว มีมูลค่า 3,355 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกัน 20% โดยในส่วนตลาดส่งออกสินค้าเครื่องนุ่งห่มของไทย ปีนี้ (2554) จะเน้นผลักดันสินค้าแบรนด์ของตนเอง นอกเหนือจากแค่รับจ้างผลิตโออีเอ็มให้แบรนด์ดัง โดยในปี 2553 สินค้าเครื่องนุ่งห่มไทยมีมูลค่าส่งออก สูง 1,263 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 7.26% โดย 2 เดือนแรกปีนี้ไทยส่งออก 194 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ ขยายตัวเพิ่มขึ้น 2.8%
ทั้งนี้ สคร.นิวยอร์กร่วมกับสำนักส่งเสริมมูลค่าเพิ่ม กรมส่งเสริมการส่งออก ว่าจ้างบริษัท นิวยอร์ก ไทย ดีไซน์ กรุ๊ป ซึ่งประกอบด้วยดีไซน์เนอร์คนไทยที่ทำงานให้กับแบรนด์ดังๆในนิวยอร์ก ในการผลักดันแบรนด์ของบริษัทไทย โดยปีที่ผ่านมา (2553) ได้ดำเนินการสร้างขึ้นมา 5 บริษัท และคัดเลือกบริษัทเอสเอ็มอีไทยรายใหม่เพิ่มขึ้นอีก 4 บริษัท ภายใต้โครงการสร้างเครือข่ายแฟชั่น ( Fashion Network) เพื่อผลักดันอุตสาหกรรมนี้ได้พัฒนาแบรนด์ขั้นสูง โดยผู้เชี่ยวชาญจะทำการตลาดแบรนด์ (Brand Marketing) โดยมีการจับคู่ระหว่างแต่ละโรงงานกับดีไซเนอร์ไทยที่ทำงานกับแบรนด์ชั้นนำในสหรัฐฯ ร่วมกันผลักดันโครงการนี้ให้เป็นผลสำเร็จ
“การจับคู่สร้างตัวแทนการขาย เพื่อผลักดันเสื้อผ้าสำเร็จรูปไทยสร้างแบรนด์ของตัวเองในตลาดสหรัฐได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งสคร. นครนิวยอร์กได้ศึกษาตลาดสินค้านี้มา 3 ปีแล้ว และพบว่า วิธีนี้ได้ผลสำเร็จ ทั้ง 3 ส่วนจะทำงานร่วมกัน ผู้ประกอบการ ผู้เชี่ยวชาญทำตลาดแบรนด์และดีไซเนอร์ไทยที่ไม่ธรรมดา เพราะทำงานกับในวงการเสื้อผ้าแบรนด์ดังๆ ของสหรัฐฯ อาทิ โปโล , แอนด์ เทเลอร์, แก็ป, โจนส์ นิวยอร์ก, เซ่ , ทีโอรี่, เดอะลิมิเต็ด, ลิซ แคลบอร์น, เออร์เบิน เอ้าท์ฟิตเตอร์, แฮกก้าร์, เคนเนท โคล, ไมเคิล คอร์ส , ดีเร็ค แลมเป็นต้น” นางสมจินต์ กล่าว
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญจะทำงานอย่างใกล้ชิดกับโรงงาน ตั้งแต่เลือกหาแนวคิด ดูกระแสตลาด ช่วยจัดหาวัตถุดิบ ออกแบบ ติดต่อประชาสัมพันธ์ หาโชว์รูม ออกงานแสดงสินค้าในสหรัฐฯ และนัดหมายลูกค้าให้มาชมสินค้าที่งานแสดงสินค้าและที่โชว์รูม
ในปี 2553 มีบริษัทไทยที่เข้าร่วม 5 บริษัท และในปีนี้ยังจะเข้าร่วมโครงการต่อเนื่อง คือ บริษัท ฮาร์ต แอนด์ ไมด์ แอพพาแรล ทำเสื้อผ้าแบรนด์มิลเลอร์ ออฟ คัลเลอร์ , บริษัทเทพฤกษ์ แบรนด์ มาลี คิดส์, บริษัทไพโอเนีย แบรนด์ แอนดรูส์ & ออเดร, บริษัท ทองไทย แบรนด์-อินฟอร์มและ บริษัท บูติคนิวซิตี้ แบรนด์สวิทช์ ซึ่งเป็นการเจาะตลาดมีการสั่งซื้อสินค้าผ่านโชว์รูมและงานแสดงสินค้าแล้ว ถึงแม้ยอดการสั่งซื้อจะยังไม่มากนัก
“สินค้าแบรนด์ทั้ง 5 แบรนด์เริ่มเป็นที่รู้จักในวงการ มีการลงพิมพ์ในวารสารด้านแฟชั่นหลายฉบับ โดยล่าสุด แบรนด์ มิลเลอร์ ออฟ คัลเลอร์ ซึ่งเป็นเสื้อผ้าเด็ก เป็นเสื้อผ้าที่ดาราดังเจนนิเฟอร์ เกอร์เนอร์(Jennifer Garner) และ เบน แอฟเฟล็ก (Ben Afflect) เลือกซื้อให้กับลูกสาวสวมใส่และถ่ายรูปในนิตยสาร ซึ่งเป็นการเพิ่มชื่อเสียงให้กับแบรนด์มากยิ่งขึ้น” นางสมจินต์ กล่าว