ร้านขนมปังขนาดกะทัดรัด “Bread room” ในซอยลาดพร้าว 101 โดดเด่นด้วยไส้แปลกใหม่ หลากหลาย มีให้เลือกถึง 20 กว่าชนิด ขนาดชิ้นอิ่มจุใจ ขายในราคา 20 บาท สร้างจุดขายรสชาติถูกปาก และราคาถูกใจ ตอบความต้องการในชีวิตประจำวันของคนเมืองได้เป็นอย่างดี
อมรเชษฐ์ กาญจน์ธีรโชติ เจ้าของร้านนี้มีฝีมือระดับมืออาชีพ เก็บเกี่ยวประสบการณ์แวดวงทำขนมปังมากว่า 10 ปี เริ่มต้นตั้งแต่เป็นพนักงานฝ่ายครัวเบเกอรี่ที่โรงแรมโอเรียลเต็ลกว่า 7 ปี ก่อนจะย้ายมาอยู่บริษัท Puratos ผู้นำเข้าวัตถุดิบทำขนมปังจากเบลเยียม อีกประมาณ 2 ปี ด้วยฝีมืออันโดดเด่น ทางบริษัทเห็นแววส่งไปอบรมหลักสูตรทำขนมปังสไตล์ยุโรปอย่างจริงจังถึงเบลเยียม กระทั่งอิ่มตัวจากงานประจำ ตัดสินใจเปิดร้านขนมปังของตัวเอง ตั้งแต่กลางปี พ.ศ.2552
“เมื่อก่อนเวลาผมกินขนมปังของร้านต่างๆ ก็จะรู้สึกว่า มันยังไม่ถูกใจเรามากนัก บางร้านแป้งอร่อยก็ไส้น้อย บางร้านไส้อร่อยแป้งก็แข็ง หรือบางร้านดีทุกอย่าง แต่ราคาสูงเกินไป ทำให้ผมมักคิดในใจว่า ถ้าเราทำเอง น่าจะทำได้ดีกว่านี้ ดังนั้น การคิดทำขนมปัง ผมจะเริ่มที่ ต้องตอบความต้องการของตัวเองให้ได้เสียก่อน จนคุณภาพพอใจแล้ว ถึงจะขายให้ลูกค้าได้” เขาระบุหลักคิดในการทำขนมปัง
ด้วยเงินประมาณ 3 แสนบาท ใช้ลงทุนเบื้องต้นซื้อหาอุปกรณ์ใหม่ทั้งหมด เช่น เตาอบ เครื่องนวดแป้ง ฯลฯ รวมถึง เช่าพื้นที่และตกแต่งเปิดร้านใน ซ.ลาดพร้าว 101 โดยเลือกทำเลนี้ เพราะเห็นว่าเป็นย่านชุมชน มีบริษัทต่างๆ เปิดอยู่หลายแห่ง และยังเป็นถนนทางลัดมีรถขับผ่านจำนวนมาก ตรงกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่วางไว้เป็นคนเมือง สามารถแวะซื้อขนมปังไปกินเป็นอาหารหลักหรือขนมกินเล่น พกพาสะดวก กินได้ทุกที เหมาะกับชีวิตประจำวันคนเมืองที่ต้องแข่งกับเวลา
ขนมปังของร้าน“Bread room” เน้นตอบความต้องการของคนเมืองให้ตรงใจ ตั้งแต่ขนาดชิ้นค่อนข้างใหญ่ มาพร้อมเครื่องที่ใส่แบบเต็มๆ ไม่หวงของ เพื่อให้กินแล้วอิ่มประทับใจ เช่น ขนมปังไส้ช็อคโกแลต จะอัดใส่ช็อกโกแลตมาจนเต็มแน่น หรือไส้กุ้งอบเนย แหวกเนื้อในจะเจอกุ้งสดเป็นตัวๆ เป็นต้น ที่สำคัญตั้งราคาไม่สูงเกินไป ทุกหน้าชิ้นละ 20 บาท ง่ายต่อการตัดสินใจซื้อ
“ผมจะให้ความสำคัญเรื่องคุณภาพเป็นอันดับแรก ยอมกำไรน้อยหน่อย เพื่อให้ลูกค้าซื้อไปกินแล้วประทับใจ โดยเฉลี่ยต่อชิ้นหักเฉพาะค่าวัตถุดิบ ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายๆ อื่น ทั้งค่าแรงพนักงาน ค่าเช่า ค่าพลังงาน ฯลฯ จะมีกำไรประมาณ 5-10 บาทต่อชิ้น แตกต่างกันไปแล้วแต่ไส้ เมื่อเทียบกับขนมปังคุณภาพเดียวกันที่ขายในท้องตลาดแล้ว ร้านเรากำไรค่อนข้างน้อย แต่ผมไม่สนใจเรื่องนี้มากนัก เพราะอยากให้ลูกค้าได้กินขนมปังที่อร่อย และราคาเหมาะสมมากกว่า” อมรเชษฐ์ ย้ำจุดยืน
อีกจุดเด่นสำคัญ ได้คิดค้นไส้แปลกๆ เป็นของตัวเอง เพื่อให้ลูกค้ามีทางเลือกหลากหลาย รวมแล้วกว่า 20 ไส้ เช่น แกงเผ็ดเป็ดย่าง ไก่อบซอส เขียวหวานไก่ แปะก๊วยมะพร้าวนมสด ผักโขมอบชีส บลูเบอรี่คัสตาร์ด ปลาทอดราดซอสมายองเนส เนยสด สังขยาใบเตย แฮมชีส กะเพราหมูสับ ไส้กรอกหมูหยอง เป็นต้น
เขา เล่าเสริมว่า การคิดค้นไส้ต่างๆ จะเริ่มจากมองหาวัตถุดิบที่น่าสนใจในท้องตลาด แล้วทดลองประยุกต์มาทำเป็นไส้ขนมปัง บางไส้รสชาติเหมือนต้นตำรับเลย แต่บางไส้ปรับเปลี่ยนรสชาติหรือวัตถุดิบเล็กน้อย ให้เหมาะกินกับขนมปัง ซึ่งในความเป็นจริง ยังมีไส้ใหม่ๆ เตรียมไว้อีกนับ 10 ไส้ แต่จะค่อยๆ ทยอยปล่อยออกมา เพื่อสร้างความแปลกใหม่ให้ลูกค้าเสมอ
ทีเด็ดของขนมปังร้านนี้ คือ แป้งนุ่มหอม ไส้กลมกล่อม เก็บไว้กินได้ 3 วัน โดยเคล็ดลับความอร่อยนั้น หนุ่มเจ้าของร้าน เผยว่า หัวใจอยู่ที่กระบวนการทำที่เป็นเทคนิคเฉพาะตัว กับวัตถุดิบที่คัดเฉพาะของดี โดยจะใช้วิธีทำไปขายไป สดใหม่ทุกวัน ไม่มีทำเก็บสต็อก ไม่ใส่สารปรุงรส และสารกันเสียใดๆ ทั้งสิ้น นอกจากนั้น นำประสบการณ์จากเคยทำงานครัวเบเกอรี่ในโรงแรมมาปรับใช้ เช่น การจัดเตรียมวัตถุดิบ ความสะอาดของทั้งสถานที่ และพนักงาน รวมถึง ขั้นตอนทำจะใช้วิธีชั่งตวงวัดให้เกิดมาตรฐานสม่ำเสมอ
อมรเชษฐ์ เผยด้วยว่า ยอดขายเฉลี่ยของร้านในส่วนขนมปัง ประมาณ 500-600 ชิ้นต่อวัน กลุ่มลูกค้ามีตั้งแต่เด็ก วัยรุ่น จนถึงผู้ใหญ่วัยทำงาน นอกจากนั้น ในร้านยังมีเมนูเค้ก บริการเสริมด้วย ซึ่งได้รับความนิยมไม่แพ้ขนมปัง
กว่าจะได้ผลตอบรับน่าชื่นใจเช่นนี้ เกิดจากความมุ่งมั่นทุ่มเทอย่างสุดตัว โดยเขาจะต้องเข้าร้านตั้งแต่ ตี 4 ทุกวัน เพื่อเตรียมวัตถุดิบทุกอย่าง เช่น นวดแป้ง ทำไส้ ฯลฯ ซึ่งในช่วงเริ่มต้นถือเป็นบททดสอบอันหนักหน่วย เพราะต้องทำทุกอย่างด้วยตัวคนเดียว ขณะที่ยอดขาย 3-4 เดือนแรกไม่ดีนัก แต่ด้วยจุดยืนที่ใช้คุณภาพนำสินค้า หลังลูกค้ามาลองกินแล้วติดใจ มักไปบอกต่อ หลายรายไปเขียนเล่าในอินเทอร์เน็ต เกิดกระแสปากต่อปาก ช่วยให้ยอดขายดีขึ้นโดยลำดับ จนปัจจุบันนี้ภาพลูกค้าอุดหนุนเต็มหน้าร้าน กลายเป็นภาพชินตาไปเสียแล้ว
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
โทร.0-2375-1115 , 08-2057-1300