เอสเอ็มอีแบงก์ โชว์ผลงานปล่อยสินเชื่อ smePOWER เพื่อผู้ประสบอุทกภัยทั่วประเทศ วงเงิน 5,000 ล้านบาท เสร็จเร็วกว่ากำหนด คาดผู้ประกอบการยังมีความต้องการใช้สินเชื่ออีก เตรียมยื่นสรุปรายงานต่อกระทรวงการคลังเพื่อพิจารณาหาแนวทางต่อไป พร้อมต่อยอดลูกค้าใช้บริการของธนาคารเพิ่มไม่ต่ำกว่า 20 % ของยอดใช้บริการ
นายโสฬส สาครวิศว กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) เปิดเผยว่า สินเชื่อ smePOWER เพื่อผู้ประสบอุทกภัยทั่วประเทศ วงเงิน 5,000 ล้านบาท โดยธนาคารได้ให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการผ่านสินเชื่อโครงการฯนี้ไปแล้วกว่า 15,415 ราย และในสัปดาห์นี้จะดำเนินการเบิกจ่ายครบตามวงเงินดังกล่าว ซึ่งเร็วกว่าที่กำหนดไว้ที่จะสิ้นสุดรับคำขอสินเชื่อภายในวันที่ 30 เมษายน 2554 และความต้องการขอสินเชื่อยังหลั่งไหลไม่หยุด โดยขณะนี้ยังมียอดยื่นกู้อีกกว่า 6,700 ราย เป็นจำนวนเงินกว่า 3,000 ล้านบาท ที่ธนาคารรับคำขอกู้ไว้แล้วแต่ไม่สามารถอนุมัติได้เนื่องจากวงเงินเต็มจำนวนรวมของโครงการฯแล้ว ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นความต้องการความช่วยเหลือของผู้ประกอบการ SMEs จากนโยบายนี้ ดังนั้น ธนาคารจึงเตรียมยื่นสรุปรายงานภาพรวมโครงการฯ นำเสนอต่อกระทรวงการคลัง เพื่อพิจารณาในรายละเอียดต่อไป
“สำหรับการสนับสนุนสินเชื่อในโครงการนี้ พบว่า ธนาคารให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยในโครงการฯดังกล่าวนี้ โดยแบ่งเป็นวงเงินดังนี้คือ วงเงินไม่เกิน 1 แสนบาท เป็นจำนวนประมาณ 5,868 รายหรือคิดเป็น 38 % วงเงินตั้งแต่ 1 แสนขึ้นไปแต่ไม่เกิน 3 แสนบาท เป็นจำนวน 4,320 รายหรือคิดเป็น 28 % วงเงินตั้งแต่ 3 แสนขึ้นไปแต่ไม่เกิน 5 แสนบาท เป็นจำนวน 2,784 รายหรือคิดเป็น 18 % และวงเงินตั้งแต่ 5 แสนขึ้นไปแต่ไม่เกิน 1 ล้านบาท เป็นจำนวน 2,443 รายหรือคิดเป็น 16 % โดยพื้นที่ที่ให้ความช่วยเหลือมากที่สุดเป็นผู้ประกอบการในภาคใต้โดยเฉพาะที่หาดใหญ่ จ.สงขลา รวมจำนวนกว่า 7,869 รายหรือคิดเป็น 51 % จ.นครราชสีมา จำนวน 2,265 รายหรือคิดเป็น 15% จ.ชัยภูมิ จำนวน 1,195 รายหรือคิดเป็น 8 % จ.พระนครศรีอยุธยา จำนวน 923 รายหรือคิดเป็น 6 % ที่เหลือเป็นจังหวัดอื่นๆทั่วประเทศอีกประมาณ 3,163 รายหรือคิดเป็น 20 % เป็นต้น”
นายโสฬส กล่าวอีกว่า จากการให้บริการสินเชื่อพบว่า ลูกค้าเกือบทั้งหมดไม่เคยเป็นลูกค้าธนาคารมาก่อน เมื่อมาใช้บริการเกิดความประทับใจและพึงพอใจในการให้บริการ โดยได้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่สาขาจะใช้บริการที่ธนาคารในสินเชื่ออื่นๆเพิ่มเติม คาดว่าในเบื้องต้นไม่น้อยกว่า 20 % ของยอดใช้บริการ
