ก.พาณิชย์ เผยสถานการณ์การส่งออกยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ไทย มีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นอย่างชัดเจน คาดปีนี้ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 12 ระบุผลมาจากตลาดหลักทั้งในแถบเอเชีย ออสเตรเลียและตะวันออกกลาง ปรับตัวดีขึ้น
นางณัฎฐา รัตนเลิศ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ ในฐานะ Chief of Products ดูแลกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนตร์อุปกรณ์และส่วนประกอบ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาทางกรมส่งเสริมการส่งออกได้ติดตามความคืบหน้าและประเมินสถานการณ์ส่งออกในกลุ่มสินค้าดังกล่าวเป็นประจำทุกเดือน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ AFTA Action 2010
“ในปี 2552 ประเทศไทยมีมูลค่าการส่งออกสินค้ายานยนตร์ 8,161 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 28.12 และส่งออกสินค้าชิ้นส่วนยานยนตร์มีมูลค่า 6,004 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง 27.21 ซึ่งทางกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรม แจ้งว่าอุตสาหกรรมการส่งออกรถยนต์ในปี 2552 ได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษญกิจโลกและภายในประเทศตั้งแต่ปลายปี 2551 ทำให้การส่งออกรถยนต์ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีแรกก่อนจะมาปรับตัวดีขึ้นไตรมาสที่ 3 ทั้งนี้การส่งออกรถยนต์มีสัญญาณที่ดีขึ้น โดยฉพาะเดือนธันวาคมที่ผ่านมาการส่งออกรถยนต์ขยายตัวร้อยละ 24.1 เนื่องจากตลาดเป้าหมายได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจโลก แต่คาดว่าในปี 2553 สถานการณ์มีแนวโน้มที่ดีขึ้นจากการที่ตลาดในแถบเอเชีย ออสเตรเลียและตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นตลาดหลักที่มีศักยภาพและเป็นตลาดขนาดใหญ่ปรับตัวดีขึ้น ส่วนการส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์มีแนวโน้มการส่งออกดีขึ้นเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับการส่งออกรถยนต์ โดยคาดว่าการส่งออกสินค้ายานยนต์ อุปกรณ์และชิ้นส่วนโดยรวมจะมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 12 สำหรับรถยนต์มีเป้าหมายการส่งออกประมาณ 800,000 คัน และในช่วงไตรมาสแรก คาดว่าจะมีการส่งออกประมาณ 230,000 คัน ขยายตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 65.78” นางณัฎฐา กล่าวเพิ่มเติม
แต่อย่างไรก็ตาม ปัญหาหลักที่ยังคงเป็นอุปสรรคในการส่งออกชิ้นส่วนยานยนตร์ของไทย ได้แก่ ปัญหาค่าขนส่งสินค้าทางเรือที่มีอัตราสูงขึ้นและเรือมีไม่เพียงพอ ปัญหาค่าเงินบาทที่แข็งกว่าคู่แข่งขัน ต้นทุนวัตถุดิบราคาสูง เป็นต้น