ด้วยพื้นฐานถนัดทำธุรกิจร้านอาหารแนวครอบครัว เมื่อตัดสินใจลงทุนซื้อกิจการผับแห่งหนึ่งที่มีฐานลูกค้าหลักเป็นนักดื่ม มาทำเป็นร้านอาหาร จำเป็นต้องพลิกโฉมรูปแบบร้าน เป็นที่มาของไอเดียธุรกิจที่เสิร์ฟบริการเสริมหลากหลาย ให้ตอบโจทย์ลูกค้าเป้าหมายใหม่ให้ตรงที่สุด
จิรภากรณ์ บุญญอัศดร หุ้นส่วนธุรกิจ เจ้าของร้าน “@home บ้านสวนดินเผา” เล่าว่า ครอบครัวทำธุรกิจร้านอาหารอยู่แล้ว ชื่อ “บ้านสวนดินเผา” อยู่ย่านศรีวรา ทาวน์ อิน ทาวน์ และอยากลงทุนเปิดร้านใหม่เพิ่มเติม จึงพยายามค้นหาทำเลต่างๆ จนพบประกาศขายกิจการร้านอาหารกึ่งผับ ชื่อ “@home” อยู่ใน ซ.แจ้งวัฒนะ 12 เกิดความสนใจและตัดสินใจซื้อกิจการทั้งหมด
“เจ้าของเดิมต้องการขายกิจการเพื่อไปทำการค้าในต่างประเทศ เมื่อเรามองปัจจัยต่างๆ เช่น ทำเลอยู่ใกล้ศูนย์ราชการ หน่วยงาน และบริษัทหลายแห่ง รวมถึง ร้านนี้ก็มีฐานลูกค้าขาประจำอยู่แล้ว ทำให้มองโอกาสว่า เราน่าจะมาสานต่อกิจการนี้ได้ โดยเอาจุดเด่นของตัวเองมาเสริม คือ เปลี่ยนรูปแบบจากผับมาเน้นร้านอาหารเพื่อครอบครัว และคนทำงาน ซึ่งเรามีความถนัดมากกว่า” จิรภากรณ์ ระบุ
เงินกว่า 3 ล้านบาท ถูกใช้ลงทุนเป็นค่าซื้อต่อกิจการ ค่าเช่าสถานที่ อายุสัญญา 3 ปี รวมถึง ค่าตกแต่งและปรับปรุงสถานที่ใหม่
ด้วยโจทย์ที่ต้องการเปลี่ยนกลุ่มลูกค้าเสียใหม่พร้อมกับรักษาฐานลูกค้าเดิม กลยุทธ์แรกคือ นำชื่อร้านมาผสมกันระหว่าง @home และ บ้านสวนดินเผา จึงเป็นที่มาของชื่อ “@home บ้านสวนดินเผา”หวังว่า ลูกค้าขาประจำของทั้งสองร้านจะมาใช้บริการร้านใหม่ด้วย
นอกจากนั้น แต่งร้านใหม่จากเดิมจะเน้นบรรยากาศมืดสลัว เปลี่ยนมาเป็นกระจกใส ใช้โต๊ะเก้าอี้สีขาว เป็นต้น อีกทั้ง จัดแต่งสวนให้ร่มรื่นสวยงาม บรรยากาศร้านเหมาะกับครอบครัวที่อยากมาพักผ่อน และรับประทานอาหารร่วมกัน
สำหรับเมนูอาหารที่แต่ก่อนจะมีเฉพาะประเภทกับแกล้มไม่กี่รายการ ได้เพิ่มเติมเมนูอาหารไทยแท้ๆ และอาหารไทยประยุกต์ รวมแล้วกว่า 50 รายการ โดยให้แม่ครัวไปเรียนรู้วิธีการทำ และสูตรอาหารจากร้านบ้านสวนดินเผา
ที่สำคัญได้หาบริการเสริมมาดึงดูดใจกลุ่มครอบครัวและคนทำงาน โดยลงทุนกว่าแสนบาท ทำบ่อ fish spa ให้ใช้บริการฟรี
“เรากำหนดกลุ่มเป้าหมายเป็นคนทำงาน และครอบครัว ดังนั้น อยากให้มีกิจกรรมที่ลูกค้าเข้าร้านมาแล้ว จะได้พักผ่อนและเป็นกิจกรรมที่ทำร่วมกันได้ทุกคน ตั้งแต่เด็กจนถึงคนแก่ จึงคิดถึงบริการ fish spa ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ลูกค้าผ่อนคลายแล้ว ยังเป็นการช่วยฆ่าเวลาระหว่างรออาหารเสิร์ฟ ซึ่งเป็นจุดดึงดูดของร้าน ได้การตอบรับจากลูกค้าดีมาก” จิรภากรณ์ ระบุ
นอกจากนั้น สำหรับกลุ่มคนทำงานจัดบริการห้องคาราโอเกะ มีให้เลือก 3 ห้อง ทั้งห้องใหญ่จุได้กว่า 50 คน ห้องกลางจุได้ 20 คน และห้องเล็ก จุได้ 10 คน โดยคิดราคาเหมาที่ 1,000 บาท ไม่จำกัดเวลา รวมถึง ได้เสริมบริการแสดงดนตรีสดแนวโฟล์คซอง ในช่วงเย็นถึงค่ำอีกด้วย
และเพื่อให้เป็นร้านอาหารสมบูรณ์แบบ ในส่วนครัว มีพนักงาน 8 คน ส่วนเสิร์ฟ 7 คน บวกกัปตันและผู้จัดการร้าน ทั้งร้านมีพนักงานถึง 22 คน เพื่อบริการอาหารได้รวดเร็ว จานแรกเสิร์ฟได้ใน 5-10 นาที รวมถึง มีมาตรฐานบริการที่ลูกค้าประทับใจ
เจ้าของธุรกิจ ยอมรับว่า ด้วยจำนวนพนักงานที่ค่อนข้างมาก พร้อมบริการเสริมต่างๆ ทำให้ต้นทุนในร้านค่อนข้างสูงเกินค่าเฉลี่ยของร้านอาหารทั่วไป แต่จำเป็นที่จะต้องยอมลงทุน เพราะอยากให้ลูกค้าเป้าหมายประทับใจ ช่วยนำไปบอกต่อ ซึ่งเป็นการตลาดที่ดีที่สุดของธุรกิจร้านอาหาร
สำหรับราคาอาหาร เริ่มต้นที่จานละ 100-280 บาท วิธีกำหนดราคาจะพิจารณาจากต้นทุนวัตถุดิบ ประมาณ 25-30% บวกค่าบริการ ค่าบรรยากาศ และประเมินกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ซึ่งวางไว้ที่กลุ่มคนระดับกลางขึ้นไป
ร้านนี้เริ่มเปิดบริการเมื่อประมาณเดือนสิงหาคม 2552 เป็นต้นมา รองรับลูกค้าได้เต็มที่ประมาณ 200 คน วางเป้ารายได้ของร้านเฉลี่ยที่ 25,000 บาทต่อวัน ซึ่งผลตอบรับนั้น ถ้าเป็นช่วงวันศุกร์และเสาร์ หรือเทศกาล ลูกค้าให้การตอบรับที่ดี โดยเฉพาะกลุ่มคนทำงาน แต่วันธรรมดา โดยเฉพาะช่วงกลางวัน ยังน้อยกว่าเป้าที่วางไว้ เนื่องจากยังไม่สามารถสร้างฐานลูกค้ากลุ่มครอบครัวได้มากอย่างที่หวัง
อย่างไรก็ตาม จิรภากรณ์ ทิ้งท้ายว่า แม้การตัดสินใจเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายมาเป็นครอบครัวจะทำให้เสียกลุ่มลูกค้านักดื่มไปบ้าง แต่เชื่อว่า แนวโน้มธุรกิจจะมีทิศทางดีขึ้นเรื่อยๆ สังเกตได้จากขณะนี้ เริ่มมีลูกค้ากลุ่มใหม่เพิ่มขึ้นสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นลูกค้าเกรดดีขึ้น แทบทั้งหมดมาจากการบอกต่อ และค้นหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่า ในระยะยาว ด้วยลูกค้ากลุ่มใหม่นี้จะช่วยให้ธุรกิจมีความยั่งยืนมากกว่า
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@