ปายเป็นเมืองเล็กๆ ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่กำลังสุกสว่างขึ้นเรื่อยๆ ในแผนที่การท่องเที่ยวไทย อาจเพราะด้วยเสน่ห์อันโดดเด่นเฉพาะตัว เมืองปายจึงได้ปรากฏตัวบ่อยครั้งในสื่อสิ่งพิมพ์ รายการโทรทัศน์ ภาพยนตร์โฆษณา ฯลฯ ทำให้เมืองเล็กในหุบเขาแห่งนี้เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว ที่ฝันว่าชีวิตนี้ต้องขอมาเยือนปายให้ได้สักครั้ง
เขามาเที่ยวปายกันทำไมหรือ?
นี่คือคำถามที่นักเดินทางหลายคนอาจยังสงสัย ชาวปายเองเล่าว่า เมืองนี้เป็นที่รู้จักในหมู่นักแบกเป้ต่างชาติ (ผู้เดินทางแสวงหาเมืองในอุดมคติที่อยู่นอกแผนที่การท่องเที่ยวกระแสหลัก) มานานกว่าสองทศวรรษแล้ว ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวไทยเพิ่งจะมาให้ความนิยมอย่างมากในช่วงห้าปีที่ผ่านมาเท่านั้น
ย้อนไปเมื่อหลายปีก่อน นิตยสาร Time เคยเขียนถึงเมืองปายในบทความท่องเที่ยวเรื่อง "Uncovering the secret of Pai" นำเสนอเรื่องราวอันเป็นเสน่ห์ของเมืองนี้ จนคนต่างชาติเริ่มขนานนามให้ปายว่า "เป็นเช่นเมืองอุบุด (บาหลี) แห่งประเทศไทย" ซึ่งจากชื่อเสียงที่โด่งดังขึ้น ทุกวันนี้เมืองปายขยายตัวออกไปเร็วมาก มีเครื่องบินเล็กของสายการบิน SGA ขึ้นลง ณ สนามบินปายอย่างน้อยวันละ 1 เที่ยวมีรีสอร์ทเปิดตัวใหม่ขึ้นมากมายในปีหนึ่งๆ (ทุกวันนี้เมืองปายมีโรงแรม รีสอร์ท และเกสท์เฮ้าส์ รวมกันเกือบสี่ร้อยแห่ง)
๐ ชุมชนเล็กๆ ของคนมากไอเดีย
นอกจากสีเขียวของขุนเขา สายน้ำปาย และความงามของภูมิทัศน์ทางธรรมชาติแล้ว วัฒนธรรมพื้นบ้านและความหลากหลายทางด้านชาติพันธ์ ก็เป็นอีกองค์ประกอบหนึ่งที่สร้างเสน่ห์น่าหลงใหลให้กับเมืองเล็กๆ เมืองนี้ ซึ่งในปัจจุบัน วิถีและวัฒนธรรมใหม่ที่โดดเด่นอย่างมากของปายก็คือ ความเป็นชุมชนของนักสร้างสรรค์ (Creative people) ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นศิลปิน จิตรกร นักออกแบบ นักคิด นักเขียน นักดนตรี ฯลฯ ที่พากันทิ้งเมืองใหญ่มาตั้งรกรากทำกินร่วมกับชาวบ้านที่นี่
ความงามของธรรมชาติ ผู้คน และวัฒนธรรมที่หลากหลายของปาย กลายเป็นวัตถุดิบสำคัญให้กับเหล่าศิลปินในการสร้างสรรค์ผลงาน ตั้งแต่ในรูปแบบของงานศิลปะ ไปจนถึงสินค้าและบริการต่างๆ เช่น ร้านอาหาร ร้านของที่ระลึก ร้านกาแฟ บูทิกรีสอร์ท ฯลฯ ซึ่งในท้ายที่สุด ทุกองค์ประกอบข้างต้นก็ได้ร่วมกันสร้างบรรยากาศความเป็น 'Creative community' ให้กับเมืองปายไปโดยปริยาย ทุกวันนี้อาจจะกล่าวได้ว่า รายได้หลักของชุมชนปายนั้นมาจากธุรกิจการท่องเที่ยว และธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยความคิดสร้างสรรค์เป็นสำคัญ
Pai = Brand Destination ควบคู่ไปกับภาวะที่การท่องเที่ยวกำลังเบ่งบาน ณ นาทีนี้ คำว่า 'ปาย' สามารถเป็นแบรนด์ที่ขายดีแบบเทน้ำเทท่า ของที่ระลึกที่ขึ้นชื่อจากเมืองปายวันนี้ไม่ใช่ผลไม้ แหนมสด หมูยอ หรือแม้แต่กระเทียมจากแหล่งปลูกพันธุ์ดี หากแต่เป็นสินค้าและบริการที่สร้างขึ้นโดยผู้ประกอบการสร้างสรรค์ (Creative entrepreneur) รายเล็กรายน้อย ที่ได้ผันไอเดียต่อยอดอัตลักษณ์ของปายให้กลายเป็นเม็ดเงินเลี้ยงชีพ
เสื้อยืดโลโก้ 'ปาย' ดีไซน์ต่างๆ น่าจะเป็นตัวอย่างที่เด่นชัดที่สุด เพียงแค่เสื้อตัวหนึ่งที่สกรีนคำว่า 'รักปาย' ก็ทำให้พ่อค้าแม่ค้าที่นี่ขายเสื้อยืดที่ระลึกกันได้มากมายชนิดบ้านเมืองอื่นต้องอิจฉา ยังไม่รวมถึงสินค้าของที่ระลึกอื่นๆ เช่น แม่เหล็กติดตู้เย็น โปสการ์ดรูปวิว และของจิปาถะต่างๆ ที่มีพะยี่ห้อ 'ปาย' ติดอยู่ ปรากฏการณ์นี้ถือเป็นเส้นทางการสร้าง Community brand ที่ประสบสำเร็จเกินความคาดหมาย
๐ สีสันที่สร้างสรรค์
ณ ร้าน 'มิตรไทย' บนถนนชัยสงครามกลางเมืองปาย เป็นบริเวณที่มักจะแน่นขนัดไปด้วยนักท่องเที่ยวหนุ่มสาว ที่บ้างก็มานั่งเขียนโปสการ์ด บ้างก็มาเลือกเสื้อยืด ซื้อของที่ระลึก ฯลฯ หลายคนคงไม่รู้ว่าร้านเก๋ในเมืองปายแห่งนี้ คือธุรกิจที่เกิดขึ้นจากน้ำพักน้ำแรงของอดีตหนุ่มสาววงการโฆษณา คือ "สกนธ์ สังขมี" และ "วันเพ็ญ พานทองแท่ง" ที่ตัดสินใจตีจากเมืองหลวงมาเป็นพลเมืองปายเต็มตัว ทั้งสองเริ่มต้นธุรกิจเล็กๆ นี้ขึ้นเมื่อสิบกว่าปีก่อน (ก่อนที่ร้านรวงอื่นๆ จะทยอยเปิดตัวตามกันมาในคอนเซ็ปท์ใกล้เคียงกัน) ถือเป็นจุดกำเนิดแห่งสีสันของถนนคนเดินเมืองปายก็ว่าได้
ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว ถนนคนเดินจะมีข้าวของวางขายมากมายตลอดสองฝากถนน นับตั้งแต่ผลิตภัณฑ์จากผ้าสีสันจัดจ้านของชาวเผ่าลีซอ แผงขนมของชาวไทยใหญ่ ไปจนถึงโปสการด์ทำมือ หรืองานประดิษฐ์จากฝีมือของหนุ่มสาวชาวปาย ที่ต่างมาเริ่มต้นเส้นทางแห่งผู้ประกอบการกัน ณ ถนนเส้นนี้
นอกจากร้านขายของน่ารักๆ แล้ว เมืองปายยังขึ้นชื่อว่ามีแหล่งอาหารอร่อยไว้คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกรูปแบบ ตั้งแต่ร้านส้มตำหน้าอำเภอ ร้านอาหารอิตาเลียนรสดี ไปจนถึงร้านขายอาหารออร์แกนิก ที่เอาใจนักเดินทางแนวรักสุขภาพ (และคนที่อยากจะ Detox ล้างพิษเมือง) โดยร้านรวงส่วนใหญ่ของที่นี่มักจะตกแต่งอย่างมีสไตล์ อันเนื่องมาจากว่ามีศิลปิน-นักออกแบบเป็นเจ้าของนั่นเอง
ยกตัวอย่างเช่น ร้าน กินดื่มอย่าง Groove Yard ที่ออกแบบและตกแต่งอย่างทันสมัยโดยศิลปินชื่อดังอย่าง ไทวิจิตร พึ่งเกษมสมบูรณ์ อันเป็นร้านที่มีเจ้าของคนเดียวกับ B-Bob ซึ่งเป็นร้านฟังดนตรีสดที่เป็นตำนานของปาย คงไม่ต้องสาธยายว่าเก๋เท่แค่ไหน นอกจากนั้นก็ยังมีร้านอื่นๆ เช่น Ting tong Bar หรือ Almost Famous ที่แต่งร้านมันส์ๆ ตอบโจทย์นักกินดื่มไสตล์บุปผาชนทั้งไทยและเทศ
ส่วนด้านกลุ่มคอกาแฟนั้น ก็จะมีร้านกาแฟผสมอาร์ตแกลเลอรี่อย่าง 'All about coffee' เป็นตัวชูโรง หลายคนแม้ไม่ได้ติดใจในรสชาติกาแฟ แต่ก็ต้องขอแวะมาถ่ายรูปกลับไปเสียหน่อย นอกจากนั้นก็มีร้านกาแฟเปิดใหม่อย่าง 'Coffee in love' ที่มีจุดขายอยู่ที่ทิวทัศน์ภูเขา และนาข้าวเขียวขจี กับอีกร้านชื่อ 'ปายหนาว' ที่ตกแต่งได้อย่างน่ารักจนกลายเป็นจุดหมายของนักถ่ายรูปไปโดยอัตโนมัติ
'เมืองไหนๆ ก็ไม่เหมือนปาย' ในด้านหนึ่งเมืองปายนั้นน่าศึกษาในฐานะตัวอย่างของชุมชนที่เกิดขึ้นอย่างไร้แบบแผน ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว พลิกผันจากเมืองเกษตรในหุบเขาห่างไกล มาเป็นเมืองที่พักตากอากาศที่ไม่เหมือนใคร ด้วยฝีมือของกลุ่มผู้อยู่อาศัยรุ่นใหม่
...ในวันนี้ที่ปายกำลังเติบโตไปข้างหน้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หลายคนกำลังเฝ้ามองความเปลี่ยนแปลงและอนาคตของเมืองมากสีสันแห่งนี้ ด้วยความหวังลึกๆ ว่า "ปาย" จะสามารถรักษาเสน่ห์ของตนเองไว้ได้ตลอดไป
@@@@@@@@@@@@@@@@@@
***ข้อมูลโดย ผู้จัดการ 360 รายสัปดาห์ ***