“หลังคาเหล็ก”สร้างแฟรนไชส์ โอกาสโกยรายได้อีสานสู่เหนือ

จากตัวแทนจำหน่ายหลังคาเหล็กเมททอลชีทพร้อมบริการติดตั้ง เล็งเห็นช่องทางธุรกิจด้วยการเป็นผู้ผลิตหลังคาเหล็กเอง มีบริการขึ้นรูปตามที่ลูกค้าต้องการ เมื่อสั่งสมประสบการณ์มาได้ระยะหนึ่งจึงคิดขยายธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์หลังคาเหล็กรายแรกในประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ เค.ซี.เมททอลชีท

ผู้บุกเบิกสินค้าหลังคาเหล็กเมททอลชีท ในภาคอีสานเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ที่ผู้บริโภคยังไม่นิยมเลือกใช้สินค้าดังกล่าวกันมากนัก จนได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจาก ซึ่ง “นายนิพนธ์ เจริญกิจ” ผู้บริหารบริษัท เค.ซี เมททัลชีท เล่าว่า เดิมบริษัทฯ เป็นผู้จำหน่ายและติดตั้งหลังคาเหล็กเมททัลชีท ในจังหวัดขอนแก่น ตั้งแต่ปี พ.ศ.2543 ภายใต้ชื่อ หลังคาเหล็ก “ตรารถถัง” ซึ่งยังไม่ได้รับความนิยมมากนัก แต่ด้วยการทำการตลาด และความมุ่งมั่นที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ดีมีคุณภาพแก่ผู้บริโภค ทำให้สินค้าใหม่ที่เข้ามาในประเทศไทยเพียงไม่นานในช่วงนั้น ได้รับความนิยมจากภาคอุตสาหกรรมในภาคตะวันเฉียงเหนือที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมีผู้ประกอบกิจการดังกล่าวยังไม่มากนัก ทำให้ เค.ซี เมททัลชีท ก้าวเข้าสู่ตลาดในระยะเวลาอันรวดเร็ว

“ในช่วงแรกในเรื่องหลังคาเหล็กเมททัลชีท ในภาคอีสาน หากย้อนไปเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมานั้น ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก จนกระทั่งเมื่อภาคอุตสาหกรรมเติบโตขึ้น และคนเริ่มนำเอาหลังคาเหล็กเมททัลชีทไปทำเป็นหลังคาบ้าน ทำกันสาด และต่อเติมอาคาร ทำให้กิจการโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงได้ชวนญาติพี่น้องเข้ามาช่วยทำกิจการนี้ โดยแบ่งดูแลในเรื่องโรงงานและการจัดซื้อวัตถุดิบ พร้อมกับสร้างโรงงานแห่งแรกขึ้นที่ขอนแก่น และขยายโรงงานจนครบ 10 จังหวัด เป็นสาขาที่ขยายเองทั้งหมด ได้แก่ ขอนแก่น อุดรธานี สกลนคร ร้อยเอ็ด นครราชสีมา บุรีรัมย์ ชัยภูมิ มหาสารคาม นครสวรรค์ และพิษณุโลก”

จุดเด่นของหลังคาเหล็กรีดลอน คือ ความแข็งแกร่ง ทนทานต่อสภาพการกัดกร่อนของอากาศ บรรยากาศและแสงแดด ประหยัดโครงสร้างของตัวอาคาร เพราะหลังคาเหล็กเมททัลชีท มีน้ำหนักเบา ในขณะที่รูปทรงของหลังคามีความหลากหลายตามความต้องการของผู้ใช้งาน และสามารถติดตั้งได้อย่างรวดเร็วประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย ส่งผลให้เจ้าของกิจการหลายรายนิยมนำไปทำเป็นหลังคาโรงงาน โรงสี บ้าน ทำกัดสาด และรั้ว ซึ่งในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ลูกค้ารายเล็กเริ่มเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะบ้านพักอาศัยที่นิยมนำไปทำเป็นกันสาด โรงจอดรถ ซึ่งถือเป็นการเพิ่มรายได้อีกทางหนึ่ง

เมื่อกิจการเริ่มอยู่ตัว โดยเฉพาะระบบการบริหารจัดการของทั้ง 10 สาขา ที่ทางบริษัทฯ ลงทุนเอง ทำให้คิดขยายธุรกิจในรูปแบบของแฟรนไชส์หลังคาเหล็ก หวังขยายสาขาให้มากที่สุด ประกอบกับมีผู้สนใจทำธุรกิจนี้ค่อนข้างมาก และธุรกิจแฟรนไชส์กำลังเป็นที่นิยม จึงคิดว่าน่าจะใช้ช่องทางดังกล่าวเป็นโอกาสในการขยายธุรกิจ โดยเน้นทำเลในต่างจังหวัดก่อน เนื่องจากเป็นธุรกิจที่ต้องใช้พื้นที่อย่างต่ำประมาณ 1 ไร่ ในการเริ่มต้นธุรกิจ

“ในเรื่องของแฟรนไชส์ เราคิดมาประมาณ 5 ปีแล้ว แต่ด้วยระบบการบริหารจัดการยังไม่ลงตัว เช่น เรื่องบัญชี การควบคุมมาตรฐานสินค้า และอุปกรณ์ในการผลิต แต่เมื่อทุกอย่างพร้อมก็ลงมือทันที โดยตั้งเป้าขยาย 3 สาขา ภายในปี 2553 นี้ โดยอยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ที่สนใจลงทุน เน้นพื้นที่ในภาคเหนือ และภาคอีสาน ก่อน เพราะมองเห็นศักยภาพในหลายจังหวัดที่มีอัตราการเติบในชุมชนเมืองที่เพิ่มขึ้น ซึ่งคงหนีไม่พ้นในเรื่องการก่อสร้าง และหลังคาเหล็กของเราก็เป็นอีกทางหนึ่งที่ผู้บริโภคเลือกใช้บริการเป็นอันดับต้นๆ ส่วนการขยายธุรกิจที่เป็นสาขาของตัวเองจะชะลอไว้เพื่อมุ่งขยายธุรกิจแฟรนไชส์ให้ได้ครบตามเป้าหมายที่วางไว้ ในขณะที่กรุงเทพฯ จะดำเนินธุกริจในขนาดที่เล็กลงให้บริการกลุ่มลูกค้าที่เป็นบ้านอาศัย”

สำหรับโมเดลธุรกิจแฟรนไชส์หลังคาเหล็ก เค.ซี เมททอลชีท จะทำเป็นลักษณะโรงงานขนาดกว้างประมาณ 15 เมตร ยาว 40 เมตร สูง 6 เมตร ติดตั้งเครน 1 ตัว สำหรับยกเหล็กที่มีน้ำหนักมาก และด้านข้างเป็นออฟฟิศสำหรับลูกค้ามาติดต่อขนาดกว้างประมาณ 6 เมตร ยาว 10 เมตร ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนขั้นต่ำประมาณ 1,500,000 บาทขึ้นไป โดยแบ่งรูปแบบแฟรนไชส์ออกเป็น 2 แบบ ดังนี้ คือ

แบบที่ 1 กรณีที่มีโรงงานและเครื่องจักรแล้ว เงินลงทุนประมาณ 1,500,000 บาท

แบบที่ 2 กรณีที่มีโรงงาน แต่ยังไม่มีเครื่องจักร เงินลงทุนประมาณ 5 ล้านบาท จะได้รับ เครื่องจักรต่างๆ เช่น เครื่องรีดตรง เครื่องดัดโค้ง เครื่องพับครอบ และเครื่อง coiler เป็นต้น

---ค่าบริการรายเดือน---

1.ค่าโฆษณา 15,000 บาท/เดือน
2.ค่าตรวจสอบ 5,000 บาท/เดือน