กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เดินหน้าจัดสัมมนากระตุ้นผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เข้าถึงและปรับตัวสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน มุ่งเป้ารายสาขา โดยเฉพาะสินค้าเกษตร ยานยนต์ ท่องเที่ยว บริการและสุขภาพ ตั้งเป้าปูพรมให้ความรู้ 12 ครั้งทั่วประเทศ
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ทางกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ จัดสัมมนา กระตุ้นผู้ประกอบการ SMEs รายสาขาสินค้า เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ และเร่งรัดให้ใช้ประโยชน์จากการเปิดเสรีสินค้าภายใต้อาเซียน เพื่อปรับตัวสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยเฉพาะสินค้าเกษตร เช่น ข้าว ข้าวโพด ถั่วเหลือง ปาล์มน้ำมัน และน้ำมันปาล์ม กาแฟ และมะพร้าว อาหาร ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ การท่องเที่ยว การบริการด้านสุขภาพ ใช้ประโยชน์เปิดเสรีสินค้า บริการ และลงทุนในอาเซียน โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2553 ลดภาษีสินค้าเป็นศูนย์ กว่า 8,000 รายการ
โดยสมาชิกอาเซียนเดิม 6 ประเทศได้แก่ บรูไน อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ รวมทั้งไทย ซึ่งจะต้องลดภาษีมีอัตรายกเลิกภาษีสินค้า 8,000 กว่ารายการ เป็นร้อยละศูนย์ในทุกรายการรวมแล้วประมาณ 8 พันกว่ารายการ ยกเว้นรายการที่ผูกพัน หรือเก็บไว้ในบัญชีอ่อนไหว ซึ่งได้แก่ กาแฟ มันฝรั่ง มะพร้าวแห้ง และไม้ตัดดอก และในอีก 6 ปี ข้างหน้า หรือภายในปี 2558 ส่วนสมาชิกอาเซียนใหม่ 4 ประเทศได้แก่ กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนามจะลดภาษีทุกรายการเป็น ร้อยละ 0 ในปี 2558 และสามารถยืดหยุ่นได้ในบางรายการ
ทั้งนี้ การจัดสัมมนาดังกล่าว ในปี 2553 ทางกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ มีแผนจัดสัมมนาทั้งสิ้น 12 ครั้ง ทั้งในกรุงเทพ และต่างจังหวัดโดยจะจัดสัมมนา เน้นกลุ่มสินค้า บริการ และการลงทุนที่ไทยมีศักยภาพ เช่น ข้าว ข้าวโพด ถั่วเหลือง ปาล์มน้ำมัน และน้ำมันปาล์ม กาแฟ และมะพร้าว ให้กับกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน
นอกจากนี้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศยังร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย จัดสัมมนาให้สมาชิกหอการค้าทั่วประเทศ ให้รู้จักใช้ประโยชน์จากการเปิดเสรีในอาเซียนได้มากที่สุด รู้จักปรับตัว และรับการเยียวยาหากได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรี เพื่อนำไปสู่การรวมกลุ่ม สร้างเครือข่ายของผู้ประกอบการ และทำให้นักธุรกิจไทย เป็นนักธุรกิจอาเซียนในลักษณะ เคลื่อนพล SMEs ไทยสู่ AEC ที่มีความเข้มแข็งอย่างยั่งยืนในอนาคต
สำหรับรายละเอียดของการจัดงาน เริ่มตั้งแต่วัน พุธที่ 13 มกราคม 2553 โรงแรมอิมพีเรียล ควีนส์ปาร์ค สุขุมวิท วันจันทร์ที่ 18 มกราคม 2553 โรงแรมเทพนคร จังหวัดบุรีรัมย์ วันจันทร์ที่ 25 มกราคม 2553 โรงแรมอิมพีเรียล ธารา จังหวัดแม่ฮ่องสอน วันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2553 โรงแรมเมโทรโปล จังหวัดภูเก็ต วันศุกร์ที่ 12 มีนาคม 2553 โรงแรมอรัญเมอร์เมด จังหวัดสระแก้ว ฯลฯ ส่วนข้อในการสัมมนา เช่น ผลิตภัณฑ์อาหาร ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ การท่องเที่ยว การบริการด้านสุขภาพและด้านเทคโนโลยี เป็นต้น
สนใจเข้าร่วมสัมมนา ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น สามารถติดต่อได้ที่ Call Center 02-507-7555 และทางเว็บไซต์ www.dtn.go.th และ www.thaifta.com”
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ทางกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ จัดสัมมนา กระตุ้นผู้ประกอบการ SMEs รายสาขาสินค้า เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ และเร่งรัดให้ใช้ประโยชน์จากการเปิดเสรีสินค้าภายใต้อาเซียน เพื่อปรับตัวสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยเฉพาะสินค้าเกษตร เช่น ข้าว ข้าวโพด ถั่วเหลือง ปาล์มน้ำมัน และน้ำมันปาล์ม กาแฟ และมะพร้าว อาหาร ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ การท่องเที่ยว การบริการด้านสุขภาพ ใช้ประโยชน์เปิดเสรีสินค้า บริการ และลงทุนในอาเซียน โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2553 ลดภาษีสินค้าเป็นศูนย์ กว่า 8,000 รายการ
โดยสมาชิกอาเซียนเดิม 6 ประเทศได้แก่ บรูไน อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ รวมทั้งไทย ซึ่งจะต้องลดภาษีมีอัตรายกเลิกภาษีสินค้า 8,000 กว่ารายการ เป็นร้อยละศูนย์ในทุกรายการรวมแล้วประมาณ 8 พันกว่ารายการ ยกเว้นรายการที่ผูกพัน หรือเก็บไว้ในบัญชีอ่อนไหว ซึ่งได้แก่ กาแฟ มันฝรั่ง มะพร้าวแห้ง และไม้ตัดดอก และในอีก 6 ปี ข้างหน้า หรือภายในปี 2558 ส่วนสมาชิกอาเซียนใหม่ 4 ประเทศได้แก่ กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนามจะลดภาษีทุกรายการเป็น ร้อยละ 0 ในปี 2558 และสามารถยืดหยุ่นได้ในบางรายการ
ทั้งนี้ การจัดสัมมนาดังกล่าว ในปี 2553 ทางกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ มีแผนจัดสัมมนาทั้งสิ้น 12 ครั้ง ทั้งในกรุงเทพ และต่างจังหวัดโดยจะจัดสัมมนา เน้นกลุ่มสินค้า บริการ และการลงทุนที่ไทยมีศักยภาพ เช่น ข้าว ข้าวโพด ถั่วเหลือง ปาล์มน้ำมัน และน้ำมันปาล์ม กาแฟ และมะพร้าว ให้กับกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน
นอกจากนี้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศยังร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย จัดสัมมนาให้สมาชิกหอการค้าทั่วประเทศ ให้รู้จักใช้ประโยชน์จากการเปิดเสรีในอาเซียนได้มากที่สุด รู้จักปรับตัว และรับการเยียวยาหากได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรี เพื่อนำไปสู่การรวมกลุ่ม สร้างเครือข่ายของผู้ประกอบการ และทำให้นักธุรกิจไทย เป็นนักธุรกิจอาเซียนในลักษณะ เคลื่อนพล SMEs ไทยสู่ AEC ที่มีความเข้มแข็งอย่างยั่งยืนในอนาคต
สำหรับรายละเอียดของการจัดงาน เริ่มตั้งแต่วัน พุธที่ 13 มกราคม 2553 โรงแรมอิมพีเรียล ควีนส์ปาร์ค สุขุมวิท วันจันทร์ที่ 18 มกราคม 2553 โรงแรมเทพนคร จังหวัดบุรีรัมย์ วันจันทร์ที่ 25 มกราคม 2553 โรงแรมอิมพีเรียล ธารา จังหวัดแม่ฮ่องสอน วันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2553 โรงแรมเมโทรโปล จังหวัดภูเก็ต วันศุกร์ที่ 12 มีนาคม 2553 โรงแรมอรัญเมอร์เมด จังหวัดสระแก้ว ฯลฯ ส่วนข้อในการสัมมนา เช่น ผลิตภัณฑ์อาหาร ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ การท่องเที่ยว การบริการด้านสุขภาพและด้านเทคโนโลยี เป็นต้น
สนใจเข้าร่วมสัมมนา ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น สามารถติดต่อได้ที่ Call Center 02-507-7555 และทางเว็บไซต์ www.dtn.go.th และ www.thaifta.com”