xs
xsm
sm
md
lg

เขียนศิลปะลงเมล็ดข้าว เครื่องประดับจิ๋วฝีมือบิ๊ก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สามารถเขียนได้เป็นประโยคภายในหนึ่งเมล็ดข้าว
ลำพังแค่เมล็ดข้าวสารกับปากกา ได้พลิกชีวิตของอดีตหนุ่มแบงก์ให้กลายมาเป็นผู้สร้างสรรค์ศิลปะบนเมล็ดข้าวสารเจ้าแรกในเมืองไทย ด้วยเทคนิคชั้นเซียนเขียนตัวอักษร และลวดลายขนาดจิ๋วลงไป กลายเป็นสินค้าเครื่องประดับโดนใจผู้พบเห็น ซึ่งผลงานดังกล่าว เกิดจากงานอดิเรกที่รักพัฒนาสู่อาชีพหลักที่ไม่เพียงสร้างความมั่นคงให้ตัวเองเท่านั้น แต่ยังแบ่งปันสร้างอาชีพให้ผู้อื่นได้อีกด้วย

บัญญัติ บุญเลิศ เจ้าของผลงาน
***พลิกชีวิตหนุ่มแบงก์หัวใจศิลปะ

ย้อนกลับไปเมื่อกว่า 10 ปีที่แล้ว “บัญญัติ บุญเลิศ” ผู้บุกเบิกงานศิลปะบนเมล็ดข้าวสาร ยังเป็นพนักงานประจำธนาคารแห่งหนึ่ง แต่ลึกๆ แล้วรักในงานศิลปะมาตั้งแต่เล็ก มักขีดเขียนอักษรและภาพต่างๆ ลงบนวัตถุชิ้นจิ๋วๆ เป็นงานอดิเรกอยู่เสมอ จนเกิดจุดเปลี่ยนในชีวิต เมื่อญาติสนิทซื้อของฝากมาจากประเทศมาเลเซีย เป็นเมล็ดข้าวในหลอดแก้วแคปซูล ซึ่งบนเมล็ดข้าวมีตัวอักษรเขียนอยู่ด้วย

บัญญัติเพ่งดูของฝากชิ้นจิ๋วที่ได้มา พร้อมพูดกับตัวเองว่า เป็นงานง่ายๆ ตัวเขาเองก็ทำได้เช่นกัน น่าจะลองมาทำขายในเมืองไทยบ้าง

จัดเป็นชุดในกรอบไม้
“เมื่อก่อนผมก็เคยเขียนตัวอักษรลงเมล็ดข้าวสารเป็นงานอดิเรกอยู่แล้ว พอเห็นของฝากที่ได้มา ก็อยากทำขายบ้าง แต่พยายามให้สินค้าแปลกออกไป ด้วยการเพิ่มความยากโดยเขียนลายที่ซับซ้อนขึ้น จากแค่ตัวอักษร พัฒนาเป็นลวดลาย และวาดรูปภาพต่างๆ อีกทั้ง เอางานเป่าแก้วมาผสมผสาน ซึ่งผมไปเรียนวิธีเป่าแก้วที่ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร”
ผสมผสานงานเป่าแก้วเพื่อเป็นเครื่องประดับ
***ต่อยอดสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัว

นอกจากนำงานเป่าแก้วมาผสมแล้ว บัญญัติสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยย้อมเมล็ดข้าวให้มีสีสันสวยงามทั้งแดง เขียว เหลือง ม่วง ชมพู ฯลฯ ซึ่งการย้อมสีเป็นเทคนิคเฉพาะตัวคิดค้นขึ้นเอง มีคุณสมบัติคงทนหลายปี อีกทั้ง นำเสนอเป็นเครื่องประดับ เหมาะใช้เป็นของฝากของขวัญได้อย่างดี เช่น สร้อยคอ สร้อยข้อมือ ต่างหู ที่ห้อยโทรศัพท์มือถือ พวงกุญแจ และเครื่องประดับตกแต่งอื่นๆ เป็นต้น
บัญญัติโชว์ขั้นตอนการเขียนบนเมล็ดข้าว
ในส่วนการขายนั้น คนมีฝีมือเล่าว่า เริ่มจากลองไปวางขายแบกะดินที่ถนนสีลม เมื่อเกือบ 10 ปีที่แล้ว ทว่า ระยะแรกแทบไม่มีใครสนใจ เพราะคิดว่าเป็นเครื่องประดับทั่วไป จนได้ไอเดียจากลูกค้าท่านหนึ่งแนะนำให้โชว์สดๆ ทำไปขายไป และให้ลูกค้าระบุข้อความและสีของเมล็ดข้าวได้ตามต้องการ

ปรากฏว่า ข้อแนะนำดังกล่าวเป็นประโยชน์มาก ช่วยเรียกความสนใจอย่างสูง ทำให้ธุรกิจเล็กๆ ที่เริ่มจากความรัก สามารถแจ้งเกิดเต็มตัว จนกลายเป็นอาชีพหลักได้ในที่สุด

“ตอนที่วางเฉยๆ ขายได้แค่ไม่กี่ชิ้น แต่พอผมทำโชว์สดๆ วันแรกขายได้กว่า 7,000-8,000 บาท คนเข้าคิวรอยาว ผมต้องนั่งทำถึงตี2 หลังจากนั้น เกิดการต่อยอด ได้โอกาสไปแสดงโชว์ในงานอีเว้นท์ต่างๆ มีลูกค้าสั่งออเดอร์ และได้เข้าเป็นสินค้าโอทอป จ.นนทบุรี ทำให้ตลาดกว้างขึ้นโดยลำดับ”

***เปิดโอกาสช่วยสร้างอาชีพ

เมื่อศิลปะบนเมล็ดข้าวเริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้าง สามารถสร้างรายได้อย่างดี โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนสูง จึงมีผู้สนใจอยากเข้ามาเรียนรู้เพื่อยึดอาชีพนี้จำนวนมาก ด้วยเหตุนี้ บัญญัติจึงเปิดโอกาสสร้างอาชีพ มีให้เลือกทั้งแบบจัดอบรม 1 สัปดาห์ และให้อุปกรณ์ครบชุดพร้อมประกอบอาชีพ คิดอัตรา 15,000 บาท หรือกรณีไม่อยากลงทุนเอง สามารถมาฝึกอบรมเพื่อจะเป็นทีมงาน ซึ่งจะมีรายได้จากส่วนแบ่งยอดขายที่ประมาณ 40%


“ผมกล้าบอกว่า ทุกคนสามารถทำงานนี้ได้ ไม่จำเป็นต้องมีพรสวรรค์ ขอแค่อดทน เพียรพยายามฝึกแค่ 3-4 วัน ก็จะเขียนอักษรบนเมล็ดข้าวได้ แต่จะพัฒนาวาดรูปภาพ หรือลวดลายต่างๆ ก็ต้องอาศัยความชำนาญในการฝึกฝนไปเรื่อยๆ”
ชุด 12 ราศี
สำหรับขั้นตอนการทำงานนั้น แบ่งเป็นส่วนเตรียมอุปกรณ์ ได้แก่ คัดเมล็ดข้าวที่ได้รูปทรงสวยงามนำไปย้อมสี โดยจะเน้นใช้เมล็ดข้าวเหนียว เพราะมีลักษณะทึกแสง เขียนออกมาแล้วลายเส้นสวยงามชัดเจนกว่าเขียนบนข้าวสารขาว ซึ่งลักษณะจะโปร่งแสง ส่วนแก้วจะเป่าเป็นรูปทรงต่างๆ ตามต้องการ ขณะที่อุปกรณ์เครื่องประดับตกแต่ง เช่น ลูกปัด สร้อยคอ สร้อยข้อมือ เชือด กรอบไม้ ฯลฯ ส่วนใหญ่จะหาซื้อจากย่านสำเพ็ง และบางชิ้นต้องนำเข้าจากต่างประเทศ

ด้านขั้นตอนประกอบชิ้นส่วน จะมีใบรับออเดอร์ ให้ลูกค้ากรอกความต้องการต่างๆ ลงไป เช่น ข้อความหรือรูปที่อยากให้เขียน สามารถระบุความยาวได้ถึง 15-20 ตัวอักษรทีเดียว นอกจากนั้น เลือกหลอดแก้ว สีของเมล็ดข้าว และอุปกรณ์เครื่องประดับต่างๆ ตามที่ต้องการ
สร้อยคอ มีเมล็ดข้าวอยู่ในหลอดแก้วรูปทรงแฟนซี
จากนั้น จะทำตามใบออเดอร์ โดยการเขียนลายบนเมล็ดข้าวสารจะใช้ปากกาหมึกซึมเบอร์ 0.1 แล้วใส่ลงในหลอดแก้ว ฉีดน้ำยาเคลือบเข้าไป สุดท้าย ประกอบเป็นเครื่องประดับ โดยเฉลี่ยแล้ว 1 ชิ้นจะใช้เวลาเพียง 5 นาทีเท่านั้น ราคามีตั้งแต่ชิ้นเล็กๆ 50 บาทไปจนถึงชิ้นใหญ่ขายหลักหมื่นบาท กลุ่มลูกค้าหลักจะเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่ซื้อหากลับไปเป็นสินค้าที่ระลึก โดยช่องทางตลาดในปัจจุบัน มีร้านที่ตาวันนา พลาซ่า ข้างเดอะมอลล์ บางกะปิ และที่หาดป่าตอง จ.ภูเก็ต รวมถึง ออกบูทตามสถานที่ต่างๆ โดยช่วงขายดีที่สุด คือ หน้าเทศกาลต่างๆ อย่างปีใหม่ สงกรานต์ เป็นต้น ซึ่งรายได้จะสูงกว่าหลักแสนต่อเดือนทีเดียว
ทำเป็นเครื่องประดับสร้างข้อมือ
ด้วยความชำนาญที่มีอยู่ในตัว บัญญัติสามารถเขียนลวดลายบนวัตถุจิ๋วๆ ได้ทุกชนิด อย่างไรก็ตาม เจ้าของไอเดียยืนยัน จะยึดมั่นเขียนบนข้าวสารอย่างเดิม เพราะข้าวมีคุณค่าในตัวเอง อีกทั้ง มีความสากลและบ่งบอกถึง ความเป็นไทยได้ดีที่สุด ดังนั้น ไม่มีความจำเป็นที่จะเปลี่ยนไปเขียนบนวัตถุอื่นๆ
เมล็ดข้าวย้อมหลากสี
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

โทร.0-2903-2598 ,08-4663-1962
กำลังโหลดความคิดเห็น