จากเพื่อนสนิทที่โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน จับมือกับร่วมหุ้นทำธุรกิจส่งออก อาศัยประสบการณ์ด้านการส่งออก จากหนึ่งในหุ้นส่วน ที่ดำเนินธุรกิจด้านนี้มาหลายสิบปี มาต่อยอด พร้อมผลิตสินค้าอาหารแปรรูปจำพวกขนมขบเคี้ยว เน้นคุณค่าทางโภชนาการให้ผู้บริโภค อย่าง บล็อคโคลี่ อบกรอบ เจ้าแรกในโลก รวมถึงผลไม้อื่นๆ ที่คนไทยและต่างชาติคุ้นเคยลงตลาด หวังเปลี่ยนแนวคิดคนไทยหันรับประทานสแนค ที่มีคุณค่า
Greenday ถือเป็นธุรกิจของคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง ที่หุ้นส่วนทั้ง 3 คน คือนายสุทธิศักดิ์ พิพัฒนติกานันท์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด, นายชัยรัตน์ คงศุภมานนท์ ผู้จัดการทั่วไป และนายณัฐวุฒิ เผ่าปรีชา ผู้จัดการฝ่ายการเงิน บริษัท เอเชีย เวิลด์ เทรดดิ้ง 88 จำกัด ที่ได้นำความรู้และประสบการณ์ด้านธุรกิจส่งออกมาจากนายชัยรัตน์ หนึ่งในหุ้นส่วน ที่ครอบครัวได้ทำการส่งสินค้าของดอง เช่น หน่อไม้ พริก มะม่วง และมะกอก รวมถึงอาหารแช่แข็งมาหลายสิบปี และหนึ่งในนั้นคือการนำผลไม้ไทยมาแปรรูปด้วยระบบ Vacuum Frying (วิธีการอบผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ให้แห้ง โดยใช้คลื่นแมคนิตรอน และมีการดูดความชื้น ที่เกิดขึ้น ด้วยระบบสุญญากาศเครื่องอบแห้งไมโครเวฟสุญญากาศ จึงเหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ต้องการการอบที่รวดเร็ว ได้คุณภาพ ที่สูง และสีสันใกล้เคียงของดั้งเดิมมากที่สุด โดยใช้อุณหภูมิภายใต้สุญญากาศไม่เกิน 80 อาศาเซลเซียส ซึ่งจะทำให้ผลิตภัณฑ์ที่อบ) ที่ถือเป็นความตั้งใจของครอบครัวนายชัยรัตน์ที่ผลักดันสินค้าที่เกิดจาก Vacuum Flying ให้เป็นสินค้านำตลาด เนื่องจากเป็นระบบที่สามารถคงคุณค่าทางอาหารได้มากที่สุด จึงเหมาะกับกระแสผู้บริโภคที่รักสุขภาพในขณะนี้
ดังนั้นทั้ง 3 คนจึงคิดต่อยอดสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์จากระบบ Vacuum Frying บ้าง โดยในช่วงแรกเป็นการนำผลไม้ไทยที่แปรรูป เช่น กล้วย มัน ขนุน เผือก สัปปะรด แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้สร้างความแตกต่างให้กับตลาด จึงเริ่มมองหาวัตถุดิบอื่นเพิ่มเติม เน้นสร้างความแปลกใหม่ให้กับผู้บริโภค ส่งผลให้ล่าสุดมาลงตัวที่ กระเจี๊ยบ และบล็อคโคลี่
“พวกเราพยายามสร้างความแตกต่างกับตลาดและวงการขนมขบเคี้ยว โดยต้องการให้ผู้บริโภคที่ชื่นชอบในขนมขบเคี้ยวหันมาใส่ใจในสุขภาพมากขึ้น ซึ่งเราถือเป็นทางเลือกใหม่สำหรับคนที่ใส่ใจในสุขภาพ เพราะสินค้าของเราเป็นขบเคี้ยวไขมันต่ำ มีไฟเบอร์สูง รวมถึงกรรมวิธี Vacuum Frying ที่ใช้อุณหภูมิในการอบกรอบ 80 องศาเซลเซียส ซึ่งไม่สูงจนเกินไป ทำให้ความร้อนไม่ไปทำลายคุณค่าทางอาหาร ได้รสชาติของวัตถุดิบนั้นๆ อย่างเต็มที่ ซึ่งเราไม่ได้ใส่สารปรุงแต่งหรือปรุงรสเพิ่มเติมเลย”
สำหรับวัตถุดิบหลักที่นำมาผลิตนั้นทางบริษัทฯ เน้นผักผลไม้ที่ปลูกแบบเกษตรอินทรีย์ ปลอดสารพิษ จากแห่งปลูกที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน เช่น กล้วย สับปะรด เผือก กระเจี๊ยบ ทุเรียน มันเทศ มะม่วง และบล็อคโคลี่ โดยขายในราคาซองละ 28 บาท ส่วนบล็อคโคลลี่นั้น ถือเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดของทางบริษัท ที่นำระบบ Vacuum Frying มาใช้ในการผลิตเป็นครั้งแรกของโลก ขายในราคา 65 บาท/กล่อง
“การที่เรานำเอาผักที่ยังมาไม่มีใครนำมาผลิตอย่างบล็อคโคลี่นั้น ถือเป็นการสร้างความแตกต่างให้กับสินค้า และเพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งถือว่าบล็อคโคลี่เป็นผักที่คนทั่วโลกรู้จัก โดยเป็นผักที่มีเส้นใยสูง มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ซึ่งผักที่จะนำมาผลิตในระบบ Vacuum Frying ต่อไปคือมะระ ซึ่งเรากำลังทดลองตลาดอยู่ สำหรับผู้ที่ชอบความขมโดยเฉพาะ รวมถึงผู้ที่เตรียมอิ่มบุญกับเทสกาลกินเจ ก็สามารถรับประทานได้”
ส่วนแผนการทำการตลาดในไทย ทางบริษัทฯ เน้นไปที่การออกบูธตามงานต่างๆ โดยเป็นการให้ลูกค้าได้ลองชิม ซึ่งเมื่อลูกค้าได้ลิ้มลองแล้วประมาณ 90% จะตัดสินใจซื้อทันที และวางจำหน่ายที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป เช่น ห้างในเครือเซ็นทรัล เดอะมอลล์ เลมอนฟาร์ม วิลล่ามาร์เก็ต รวมถึงตามโรงแรม และโรงพยาบาล เนื่องจากเป็นผักผลไม้ที่รับประทานไม่ยาก และมีคุณค่าทางอาหาร เหมาะกับการซื้อไปให้ผู้ใหญ่ และคนที่รักได้รับประทาน ส่วนตลาดในต่างประเทศ ได้ส่งออกไปยังประเทศจีน และญี่ปุ่น โดยสินค้ายอดนิยมคือ มะม่วง และกระเจี๊ยบ
ถือเป็นอีกก้าวหนึ่งของการต่อยอดนวัตกรรม กับคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาทำธุรกิจ ด้วยการหาจุดแข็ง และค้นหาความได้เปรียบในการนำนวัตกรรมที่มีอยู่ มาสร้างเป็นรายได้ พร้อมสร้างความแตกต่างให้กับคู่แข่งได้อย่างงดงาม
***สนใจติดต่อ 0-2382-5090-5, 08-1659-2899***