หากจะแปรรูปกล้วยในรูปแบบเดิมๆ หนีไม่พ้นต้องไปแข่งขันกับสินค้าที่เหมือนผู้ผลิตรายอื่นๆ อีกจำนวนมากในท้องตลาด ดังนั้น กลุ่มผู้ผลิตสินค้าชุมชนจากบ้านลำสินธุ์ จ.พัทลุง จึงพลิกโฉมการแปรรูปกล้วยเสียใหม่ในลักษณะเป็นขนมกินเล่นแบบสแน็ค พร้อมเสิร์ฟอร่อยด้วยรสชาติหลากหลาย จนกลายเป็นขนมยอดนิยมของผู้บริโภคทั่วประเทศ
ประทิ่น นาคมิตร ประธานกลุ่มแม่บ้านลำสินธุ์ ต.ลำสินธุ์ อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง เล่าว่า ชาวสวนในท้องถิ่นนิยมปลูกกล้วยไข่ควบคู่กับการทำสวนยางพารามายาวนานแล้ว จน ปีพ.ศ. 2530 เกิดปัญหากล้วยล้นตลาด ราคาตกต่ำขายไม่ออก กลุ่มแม่บ้านจึงช่วยกันนำมาแปรรูปเป็นกล้วยไข่กรอบแก้ว
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากยังขาดความรู้ด้านบริหารจัดการและการตลาด สินค้ามีช่องทางตลาดแคบ ขายได้แค่ในท้องถิ่น ไม่สามารถขยายฐานลูกค้าออกไปสู่ภายนอกได้ ในฐานะที่เข้ามารับหน้าที่ประธานกลุ่มเมื่อปี พ.ศ. 2539 จึงพลิกรูปโฉมธุรกิจเสียใหม่ โดยเข้าไปขอคำแนะนำจากหน่วยงานราชการต่างๆ ช่วยให้สินค้ามีพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน
จุดสำคัญ ปรับคุณภาพจากขนมกินเล่นแบบพื้นบ้านให้มีความเป็นสากลมากยิ่งขึ้น ทั้งด้านความสะอาดปลอดภัย ไม่ใส่สารกันบูดใดๆ ทั้งสิ้น ผ่านรับรองจากคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) และได้โอทอป 4 ดาว
นอกจากนั้น ยังชูเป็นขนมเพื่อสุขภาพ มาพร้อมกับรสชาติใหม่ๆ ตอบโจทย์ผู้บริโภคหลากหลาย มีให้เลือกทั้งรสดั้งเดิม รสหวาน รสเค็ม รสบาร์บีคิว รสปาปริก้า และรสสาหร่าย เป็นต้น แต่รสชาติจะมีเอกลักษณ์เด่นเฉพาะตัวที่แตกต่างกันไป อีกทั้ง มีบรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบให้ดูดี สวยงามทันสมัย ด้านหลังซองบอกสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดพัทลุง ช่วยดึงดูดความสนใจลูกค้านักท่องเที่ยวได้ด้วย
“การพัฒนาสินค้า ระยะแรกจะเขียนโครงการขอการสนับสนุนจากหน่วยงานต่างๆ ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ทั้งอุตสาหกรรม พัฒนาชุมชน เกษตรอำเภอ อบต. เข้ามาสนับสนุนทั้งความรู้วิชาการ และเงินทุนจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ ทำให้สมาชิกมีกำลังใจในการทำงาน ขณะเดียวกัน เราก็ขยันหาความรู้ เข้าอบรม สัมมนา ศึกษาดูงาน โรดโชว์กับหน่วยงานราชการ นำประสบการณ์ที่ได้มาพัฒนาปรับปรุงสินค้าจนได้มาตรฐาน” ประทินกล่าวและเล่าต่อว่า
หลังจากปรับปรุงกล้วยแปรรูปเสียใหม่ ส่งผลบวกอย่างชัดเจน ตลาดกว้างขึ้น สามารถส่งขายร้านสินค้าที่ระลึกต่างๆ ช่วยเพิ่มรายได้ จนปี พ.ศ. 2542 กลุ่มสามารถยืนได้ด้วยตัวเอง และพัฒนาเรื่อยมาจนเป็น “กล้วยเมืองลุง”หรือ Phatthalung Banana Chips อย่างในปัจจุบัน นอกจากนั้น ยังได้วางจำหน่ายในห้างเทสโก้ โลตัส สาขาพัทลุงโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทำให้สามารถนำกำไรกลับมาเป็นทุนในการพัฒนาสินค้าให้ดียิ่งๆ ขึ้นอีก
ทั้งนี้ เคล็ดลับความอร่อย ต้องเลือกเอาเฉพาะกล้วยไข่ก่อนแก่เท่านั้น เพราะจะให้รสชาติหวาน กรอบ ขั้นตอนการทำ เริ่มจากนำกล้วยสดมาล้างด้วยน้ำสะอาด 2 ครั้ง จากนั้นนำไปปอกเปลือกแช่ในน้ำมะนาวอ่อนๆเพื่อไม่ให้ผิวกล้วยดำ
จากนั้นล้างด้วยน้ำสะอาดอีกทีก่อนนำไปสไลด์เป็นแผ่นบางๆลงกระทะน้ำมันที่ความร้อน 160 องศา ตั้งไว้ประมาณ 5 นาที สังเกตให้กล้วยสีเหลืองทองจึงตักใส่ตะแกรงวางให้สะเด็ดน้ำมัน พักไว้จนเย็นก่อนนำมาปรุงรสชาติตามต้องการ จากนั้นนำเข้าตู้อบอีก 3-10 นาที ซับน้ำมันและไล่ความชื้นเพื่อป้องการเชื้อราก่อนลงบรรจุภัณฑ์ สามารถเก็บไว้กินได้นานถึงสามเดือน
ผลิตภัณฑ์ “กล้วยเมืองลุง” มีทั้งแบบม้วน แบบแผ่นสไลด์ และแบบแท่ง บรรจุในถุงใส น้ำหนัก 150 กรัมและซองสีเขียว น้ำหนัก 140 กรัม ราคาส่ง 16 บาท ส่วนราคาขายขึ้นอยู่กับพื้นที่แต่ละจังหวัด เริ่มต้นที่ 20 บาท 25 บาท และ 35 บาท วางจำหน่ายตามห้างร้านและโรงแรมต่างๆ ใน จังหวัดภูเก็ต ตรัง กระบี่ พิษณุโลก ลำปาง หาดใหญ่ และโลตัส สาขาพัทลุง ส่วนคนกรุงเทพฯ หรือจังหวัดอื่นๆ โทรศัพท์มาสั่งซื้อได้ โดยทางกลุ่มมีบริการจัดส่งให้ทางไปรษณีย์
ปัจจุบันวิสาหกิจชุมชนบ้านลำสินธุ์ เติบโตอย่างต่อเนื่อง มีสมาชิกมากว่า 160 ชีวิต แบ่งหน้าที่กันตามความถนัด ผลิตสินค้าหลากหลายชนิดส่งขายกระจายไปทั่วประเทศ เฉพาะ “กล้วยเมืองลุง” ยอดผลิตต่อเดือนสูงถึง 5,000 กิโลกรัม นำรายได้เข้ากลุ่มไม่ต่ำกว่า 200,000 บาทต่อเดือน ช่วยสร้างรายได้เสริมให้แก่สมาชิกเดือนละ 4,000-5,000 บาทต่อคน รวมถึง ชาวสวนกล้วยไข่ มีผลพลอยได้จากการขายกล้วยดิบโดยไม่ต้องโค่นทิ้งอีกด้วย
******************************************************
โทร.074-605-659 ,08-6292-1923