ไปรษณีย์ไทยจับมือ สสว. เข้าร่วม “ยุทธการห่านบิน” หนุน SMEs ไทยเข้าถึงตลาดในประเทศ และอาเซียน ผ่านช่องทางขนส่งและจัดจำหน่ายในเครือข่ายไปรษณีย์ไทย และไปรษณีย์พันธมิตรในภูมิภาค มอบส่วนลดพิศษให้สมาชิกฝูงห่านพันรายยาวถึงต้นปีหน้า
นางสาวอานุสรา จิตต์มิตรภาพ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานตลาดและพัฒนาธุรกิจ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) เปิดเผยในการแถลงข่าวลงนามความร่วมมือโครงการ “SMEs Flying Geese” ระหว่าง ปณท และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว) ในวันนี้ (7 ส.ค.) ว่า เป็นการนำเอาจุดแข็งที่มีอยู่ทั้งในด้านการขนส่ง และเครือข่ายของไปรษณีย์ไทยมาให้การสนับสนุนผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าว เพื่อให้สามารถสร้างศักยภาพในการแข่งขันได้มากขึ้น
“ไปรษณียไทยจะมอบสิทธิพิเศษส่วนลด 5 % ให้แก่ผู้ถือบัตร SMEs Flying Geese Key Card ที่ผ่านกระบวนการส่งเสริมโดย สสว. ในวงเงินบัตรละไม่เกิน 2,000 บาท สำหรับใช้บริการส่งสินค้าแบบ EMS ในประเทศ EMS World ไปยังประเทศอื่น ๆทั่วโลก และพัสดุไปรษณีย์ทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ โดยเริ่ม ใช้ตั้งแต่ 12 ส.ค.นี้ จนถึง 30 เม.ย.2553 วงเงินดังกล่าวยังสามารถซื้อแสตมป์ e-Commerce เพื่อใช้ ส่งแบบไปรษณีย์ลงทะเบียนหนักไม่เกิน 1 และ 2 กก.ในราคาลด 20 % ได้ด้วย”
นอกจากนี้ ไปรษณีย์ไทยยังพร้อมสนับสนุนช่องทางจำหน่าย ผ่านการสั่งซื้อสินค้าทางไปรษณีย์ หรือ Mail Order สำหรับแคตตาล็อกในโครงการนี้ที่มีการคัดเลือกสินค้าที่เหมาะสมกับตลาดในประเทศ ในลักษณะเดียวกับบริการ “อร่อยทั่วไทย สั่งได้ที่ไปรษณีย์” พร้อมจัดส่งสินค้าผ่านเครือข่ายของ ปณท 1,200 แห่งทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางอีคอมเมิร์ซสำหรับสินค้า SMEs ที่ สสว.คัดเลือกแล้วขึ้นจำหน่ายบนเว็บไซต์ไปรษณีย์ไทย และเว็บไซต์ของการไปรษณีย์พันธมิตรในกลุ่มอาเซียนด้วยกัน เพื่อส่งเสริมให้สินค้าดีมีมาตรฐานของไทยเข้าถึงตลาดอาเซียน
ด้านนายภักดิ์ ทองส้ม รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการ สสว กล่าวว่า การลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ครั้งนี้ก่อให้เกิดความร่วมมือด้านต่าง ๆ คือ ร่วมกันพัฒนาผู้ประกอบ การ SMEs ใน 5 สาขาเป้าหมาย ได้แก่ สิ่งพิมพ์และพิมพ์สกรีน สินค้าแฟชั่น เฟอร์นิเจอร์และหัตถกรรม อาหารแปรรูป และการท่องเที่ยว รวมถึงบริการที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนผลักดันให้มีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ เกิดเป็น Best Practice ส่งผลให้สามารถขยายเข้าสู่ตลาดอาเซียน และนำเข้าสู่ช่องทางการค้าใหม่ๆ ผ่านโลกไซเบอร์ เช่น E–Market Place และ Mail Order เป็นต้น นำมาซึ่งประโยชน์ต่อ SMEs ไม่น้อยกว่า 10,000 ราย ในการขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดอาเซียนในอนาคตต่อไป
นางสาวอานุสรา จิตต์มิตรภาพ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานตลาดและพัฒนาธุรกิจ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) เปิดเผยในการแถลงข่าวลงนามความร่วมมือโครงการ “SMEs Flying Geese” ระหว่าง ปณท และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว) ในวันนี้ (7 ส.ค.) ว่า เป็นการนำเอาจุดแข็งที่มีอยู่ทั้งในด้านการขนส่ง และเครือข่ายของไปรษณีย์ไทยมาให้การสนับสนุนผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าว เพื่อให้สามารถสร้างศักยภาพในการแข่งขันได้มากขึ้น
“ไปรษณียไทยจะมอบสิทธิพิเศษส่วนลด 5 % ให้แก่ผู้ถือบัตร SMEs Flying Geese Key Card ที่ผ่านกระบวนการส่งเสริมโดย สสว. ในวงเงินบัตรละไม่เกิน 2,000 บาท สำหรับใช้บริการส่งสินค้าแบบ EMS ในประเทศ EMS World ไปยังประเทศอื่น ๆทั่วโลก และพัสดุไปรษณีย์ทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ โดยเริ่ม ใช้ตั้งแต่ 12 ส.ค.นี้ จนถึง 30 เม.ย.2553 วงเงินดังกล่าวยังสามารถซื้อแสตมป์ e-Commerce เพื่อใช้ ส่งแบบไปรษณีย์ลงทะเบียนหนักไม่เกิน 1 และ 2 กก.ในราคาลด 20 % ได้ด้วย”
นอกจากนี้ ไปรษณีย์ไทยยังพร้อมสนับสนุนช่องทางจำหน่าย ผ่านการสั่งซื้อสินค้าทางไปรษณีย์ หรือ Mail Order สำหรับแคตตาล็อกในโครงการนี้ที่มีการคัดเลือกสินค้าที่เหมาะสมกับตลาดในประเทศ ในลักษณะเดียวกับบริการ “อร่อยทั่วไทย สั่งได้ที่ไปรษณีย์” พร้อมจัดส่งสินค้าผ่านเครือข่ายของ ปณท 1,200 แห่งทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางอีคอมเมิร์ซสำหรับสินค้า SMEs ที่ สสว.คัดเลือกแล้วขึ้นจำหน่ายบนเว็บไซต์ไปรษณีย์ไทย และเว็บไซต์ของการไปรษณีย์พันธมิตรในกลุ่มอาเซียนด้วยกัน เพื่อส่งเสริมให้สินค้าดีมีมาตรฐานของไทยเข้าถึงตลาดอาเซียน
ด้านนายภักดิ์ ทองส้ม รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการ สสว กล่าวว่า การลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ครั้งนี้ก่อให้เกิดความร่วมมือด้านต่าง ๆ คือ ร่วมกันพัฒนาผู้ประกอบ การ SMEs ใน 5 สาขาเป้าหมาย ได้แก่ สิ่งพิมพ์และพิมพ์สกรีน สินค้าแฟชั่น เฟอร์นิเจอร์และหัตถกรรม อาหารแปรรูป และการท่องเที่ยว รวมถึงบริการที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนผลักดันให้มีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ เกิดเป็น Best Practice ส่งผลให้สามารถขยายเข้าสู่ตลาดอาเซียน และนำเข้าสู่ช่องทางการค้าใหม่ๆ ผ่านโลกไซเบอร์ เช่น E–Market Place และ Mail Order เป็นต้น นำมาซึ่งประโยชน์ต่อ SMEs ไม่น้อยกว่า 10,000 ราย ในการขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดอาเซียนในอนาคตต่อไป