ผู้แสดงงานแฟรนไชส์ ชี้ศักยภาพแฟรนไชส์ไทย ต้องร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว จึงจะแข่งขันในเวทีระดับประเทศได้ แนะภาครัฐคัดเลือก 20 รายติวเข้ม วางกรอบระบบที่ดี สามารถสร้างชื่อแฟรนไชส์ไทยในต่างแดนได้อย่างแน่นอน ส่วนงาน TFBO & TRAFS 2009 ตั้งเป้าผู้ชมงานกว่า 25,000 คน ยอดการซื้อกว่า 300 ล้านบาท
นายกวิน กิตติบุญญา กรรมการผู้จัดการ บริษัท กวิน อินเตอร์เทรด จำกัด ผู้จัดการงานแสดงสินค้าและแฟรนไชส์ เปิดเผยว่า จากการที่ได้มีโอกาสจัดงานแฟรนไชส์ทุกปี ทำให้ได้เห็นพัฒนาการของแฟรนไชส์ไทย ว่า มีหลายรายมีการพัฒนาได้มาตรฐาน และมีศักยภาพเพียงพอที่จะไปขยายสาขาในต่างประเทศ แต่อย่างไรก็ตาม การขยายสาขาแฟรนไชส์ในต่างประเทศไม่ใช่เรื่องง่าย ทั้งนี้ ผู้ประกอบการเจ้าของแฟรนไชส์ประเภทเดียวกัน ควรจะต้องมีการร่วมมือกัน สร้างแฟรนไชส์ของตัวเองให้แข็งแกร่ง และไปแบบหนึ่งเดียว จึงจะสามารถ แข่งกับแฟรนไชส์ระดับนานาชาติได้
ทั้งนี้ ในส่วนของภาครัฐ ที่ผ่านมายังไม่เห็นบทบาทการทำงานของภาครัฐ อย่างจริงจัง เพราะสังเกตจากความสำเร็จของแฟรนไชส์ไทย ในการขยายสาขาในต่างประเทศ ส่วนใหญ่ หรือเกือบทั้งหมด เป็นการไปด้วยตัวเอง ซึ่งภาคเอกชน ควรจะมีบทบาทในการเข้ามาช่วยส่งเสริม และสนับสนุน โดยการคัดเลือกผู้ประกอบการแฟรนไชส์ ที่มีศักยภาพสัก 20 ราย มาอบรมแบบติวเข้ม เพื่อวางกรอบและเซ็ทระบบที่ได้มาตรฐาน และผลักดันแฟรนไชส์ทั้ง 20 ราย ให้เป็นที่น่าเชื่อถือระดับนานาชาติ เพื่อจะได้เป็นตัวแทนประเทศที่ขยายสาขาไปทั่วโลกได้ สำหรับแฟรนไชส์ไทย ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดโลก เช่น กลุ่มอาหารไทย สปา และนวดไทย ซึ่งเรามีความโดดเด่น และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนกับประเทศใดในโลก
นอกจากนี้ ในส่วนของบริษัทก็ขอเป็นอีกเวทีหนึ่งในช่วยส่งเสริมธุรกิจแฟรนไชส์ไทยให้มีการเติบโต อย่างต่อเนื่อง ด้วยการจัดงาน Thailand Franchise & Business Opportunities (TFBO 2009) งานแสดงธุรกิจแฟรนไชส์และโอกาสทางธุรกิจ และงาน Thailand Retail,Food & Hospitality Services (TRAFS 2009) ซึ่งการจัดงานครั้งนี้ จะมีผู้ประกอบการทั้ง ในประเทศ และต่างประเทศมาร่วมออกบูท ในระหว่างวันที่ 16-19 กรกฎาคม 2552 ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทคบางนา
โดยในปีนี้ มีแฟรนไชส์ร่วมออกบูท จาก 120 บริษัท จาก 7 ประเทศ ประกอบด้วย ไทย สหรัฐอเมริกา เกาหลี เนเธอแลนด์ มาเลเซีย สิงคโปร์ และอินเดีย โดยมีธุรกิจ 20 ประเภท ได้แก่ อาหาร กาแฟ เครื่องดื่ม เบเกอรี่ ความงามและสปา ค้าปลีก การศึกษา ไอที และดิจิตอล บันเทิง เครื่องหยอดเหรียญ และงานพิมพ์ ฯลฯ โดยแฟรนไชส์ ที่มาร่วมงาน มีราคาตั้งแต่ หลักหมื่นบาท ไปจนถึง 8 ล้านบาท
นายกวิน กล่าวต่อว่า ในปีนี้ มีการจัดสัมมนา และได้เชิญวิทยาการที่มีประสบการณ์ ในการทำแฟรนไชส์ ในระดับนานาชาติที่ประสบความสำเร็จ มาร่วมให้ความรู้ เช่น นายสวาสดิ์ มิตรอารี Smart Brain ,นายอรรถ ประคุณหังสิต The Minor Food Group , นายพีรพัฒน์ กองทอง Chester Grill เป็นต้น ทุกหัวข้อจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการประกอบธุรกิจแฟรนไชส์
สำหรับการจัดงานครั้งนี้ คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงาน ไม่น้อยกว่า 25,000 คน จากทั้งในประเทศ จำนวน 90% และจากต่างประเทศ 10% ตั้งเป้ายอดขาย2 งาน ไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท ในส่วนของผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจไม่น่าจะทำให้ยอดผู้เข้าชมงานน้อยลง แต่น่าจะส่งผลให้มีผู้ชมงานมากขึ้น เพราะทุกคนต้องการจะมาอาชีพใหม่แต่ที่น่าเป็นห่วง น่าจะเป็นผลกระทบจากโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ มากกว่า