จากการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ทำให้คนไทยจำนวนมากหันมาให้ความสำคัญที่จะป้องกันการติดเชื้อโดยสวมผ้าปิดปากและจมูก อย่างไรก็ตาม อุปกรณ์ดังกล่าว มีจุดด้อยที่ใส่แล้วเกะกะ พูดออกเสียงลำบาก รวมถึง มีโอกาสที่ฝุ่นละอองหรือเชื้อโรคจะแทรกเข้าตามช่องว่างระหว่างขอบผ้า กับใบหน้า
ข้อจำกัดดังกล่าวนำมาสู่การคิดค้นอุปกรณ์เครื่องกรองอากาศแบบสอดจมูก แบรนด์ “ซารีวา” (SARIWA) สามารถใส่ป้องกันโดยตรงที่โพรงจมูก ถือเป็นธุรกิจที่เกิดจากการนำทรัพย์สินทางปัญญาบนหิ้งมาสู่เชิงพาณิชย์ได้จริง
นันท์มนัส ตฤณ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท พิศสมร เวิลด์กรุ๊ป อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หนึ่งในหุ้นส่วนธุรกิจเครื่องกรองอากาศแบบสอดจมูก “ซารีวา” เล่าว่า เริ่มธุรกิจเมื่อ 3 ปีที่แล้ว เนื่องจากเห็นว่า การใช้ผ้าปิดปากและจมูก มีข้อจำกัดหลายๆ ด้าน ดังนั้น พยายามคิดหาอุปกรณ์ใหม่ๆ มาแก้ไข จนไปค้นพบผลงานการออกแบบที่กรองอากาศแบบสอดจมูกของ อ.พงษ์วุฒิ สิทธิผล อดีตอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ศูนย์นนทบุรี จึงติดต่อขอซื้อสิทธิบัตร เพื่อนำมาพัฒนาเป็นสินค้าออกสู่ตลาด
“หลังจากที่ได้ตัวบอดี้ (Body) มาแล้ว ผมก็มาพัฒนาต่อในส่วนของฟิลเตอร์ (Filter) โดยพัฒนาเป็นระบบฟิลเตอร์นาโน (Nano Filter) ซึ่งมีความละเอียดสูง ช่วยกรองฝุ่นละออง ยับยั้งเชื้อโรคในอากาศ เช่น เชื้อรา ไวรัส ละอองเกสรดอกไม้ เป็นต้น ฟิลเตอร์ชนิดนี้ จึงเหมาะใช้ในสถานที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อโรค เช่น ย่านชุมชนคนอยู่รวมกันจำนวนมาก หรือโรงพยาบาล เป็นต้น” เจ้าของธุรกิจ เผย
นอกจากกรองนาโนแล้ว ยังพัฒนาฟิลเตอร์กรองคาร์บอน (Activated carbon Filter) ซึ่งใช้เทคโนโลยีคล้ายกับที่กรองอากาศในแอร์ ซึ่งกว่าจะสำเร็จใช้เวลาวิจัยและพัฒนากว่าหนึ่งปี กับงบประมาณกว่าล้านบาท โดยความยาก อยู่ที่ทำให้สารคาร์บอนหลอมละลายเป็นเนื้อเดียวกับเส้นใยฟองน้ำ ไม่ให้มีปัญหาผงคาร์บอนหลุดร่วงออกมาโดยเด็ดขาด ซึ่งจะก่ออันตรายแก่ผู้ใช้
ทั้งนี้ คุณสมบัติของฟิลเตอร์กรองคาร์บอน เมื่อใส่แล้วจะช่วยกรองอากาศ และดูดจับสารละลายเคมีต่างๆ ที่อยู่ในอากาศก่อนที่จะเข้าสู่ร่ายกายผ่านการหายใจ เช่น คาร์บอนมอนนอกไซด์ คาร์บอนไดออกไซด์ ไฮโดรเจนซัลไฟด์ นิโคติน ควันจากสารอินทรีย์ คลอรีน และยาฆ่าแมลงต่างๆ เป็นต้น การใช้งานเหมาะกับคนที่ต้องอยู่ใกล้แหล่งที่มีสารเคมีมากๆ เป็นเวลานานๆ เช่น คนทำงานโรงอุตสาหกรรม หรือย่านการจราจรแออัด เป็นต้น
นันท์มนัส อธิบายเสริมถึงข้อแตกต่างของฟิลเตอร์ทั้งสองชนิด โดยฟิลเตอร์คาร์บอนสามารถป้องกันสารเคมีได้ แต่ไม่สามารถป้องกันเชื้อโรคขนาดเล็กๆ ได้ ตรงกันข้ามกับฟิลเตอร์นาโม ป้องกันเชื้อโรคขนาดเล็กได้ แต่ไม่สามารถป้องกันสารเคมีได้ อย่างไรก็ตาม กำลังพัฒนาสินค้าใหม่ ที่รวมฟิลเตอร์ทั้งสองชนิดมาอยู่ด้วยกันในชิ้นเดียว คาดว่าจะออกตลาดได้ภายในเดือนกรกฎาคม พ.ศ.2552 นี้
ในส่วนวัสดุที่ใช้ทำบอดี้ เริ่มแรกทำด้วยพลาสติก ก่อนจะพัฒนาเป็นยางซิลิโคนอย่างในปัจจุบัน ช่วยให้สวมใส่สบายไม่เจ็บโพรงจมูก ด้านการผลิตใช้วิธีกระจายจ้างโรงงาน 3 แห่ง แบ่งเป็นส่วนบอดี้ ฟิลเตอร์ และบรรจุภัณฑ์ เพื่อป้องกันโดนลอกเลียนแบบสินค้า
สำหรับอายุการใช้งานต่อชิ้น ประมาณ 40-50 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม และหากหมั่นนำไปตากแสงแดดจะช่วยยึดอายุการใช้งานได้ยาวนานขึ้นด้วย ส่วนขนาดสินค้า ปัจจุบัน มีให้เลือก 2 ขนาด คือ กลางและใหญ่ แต่ในอนาคตจะเพิ่มเป็น 8 ขนาด ตั้งแต่เล็กจนถึงใหญ่พิเศษ เพื่อให้มีขนาดเหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย
นันท์มนัส เผยด้วยว่า ในตลาดเวลานี้ อาจมีสินค้าเครื่องกรองอากาศใส่ตรงที่โพรงจมูกรูปแบบใกล้เคียงกัน แต่หากเจาะในรายละเอียด ถึงตัวบอดี้ทำจากซิลิโคน มีฟิลเตอร์นาโน และคาร์บอน ถือว่าสินค้าของเขา เป็นผู้ผลิตรายเดียวในประเทศ และจดสิทธิบัตรไว้แล้ว
ทั้งนี้ สินค้าแบรนด์“ซารีวา” ออกตลาดมานานกว่า 1 ปีแล้ว ช่องทางตลาดผ่านการขายตรง ออกบูท และผ่านอินเตอร์เน็ต ในราคา 3 ชิ้น 99 บาท ทว่า ที่ผ่านมา ผลตอบรับยังไม่สูงนัก เนื่องจากเป็นสินค้าใหม่ ซึ่งคนทั่วไปไม่รู้จักมาก่อน จำเป็นต้องอาศัยการอธิบาย และที่สำคัญ ที่แล้วมาคนไทยยังไม่ตื่นตัวกับการป้องกันสุขภาพ
อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ทำให้สินค้าเริ่มได้รับความสนใจอย่างสูง ไม่ว่าจะไปออกบูทที่ใดก็ตาม จะมีผู้สนใจสินค้าจำนวนมากอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน นอกจากนั้น ยังมีผู้ติดต่อขอเป็นตัวแทนจำหน่ายจำนวนมาก และจากกระแสดังกล่าว เตรียมส่งสินค้าเข้าจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อชื่อดังเร็วๆ นี้
เมื่อถามถึงประสิทธิภาพต่อการป้องกันเชื้อโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ นันท์มนัส เผยว่า เวลานี้ ยังไม่มีอุปกรณ์ใดๆ ป้องกันเชื้อโรคนี้ได้ 100% อีกทั้ง ไม่มีมาตรฐานใดๆ จะมาวัดประสิทธิภาพของอุปกรณ์ต่อการป้องกัน ดังนั้น เบื้องต้นระบุได้ว่า อุปกรณ์ “ซารีวา” ไม่สามารถป้องกันได้ 100% แต่อย่างน้อย อุปกรณ์ตัวนี้จะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ และสร้างความรู้สึกปลอดภัยแก่ผู้ใช้
“ปัจจุบัน ยังไม่มีอุปกรณ์ หรือเครื่องหมายมาตรฐานใดๆ ที่จะมารับรองประสิทธิภาพในการใช้งาน ซึ่งจริงๆ แล้ว ผมอยากให้มี เพื่อจะเพิ่มความน่าเชื่อถือให้สินค้า อย่างไรก็ตาม ความสะดวกในการใช้อุปกรณ์ตัวนี้ ซึ่งใส่สบาย จนแทบไม่รู้สึกว่า กำลังใส่เครื่องป้องกันอยู่ อย่างน้อย ก็ช่วยให้คนเราป้องกันตัวเองง่ายขึ้น ลดความเสี่ยงต่อการติดโรคต่างๆได้ดีขึ้น” เจ้าของธุรกิจ กล่าว
********************************
โทร.08-9113-5543 www.thaiipmart.com
