แค่ปรับเปลี่ยนความคิดให้อยู่นอกกรอบ บางครั้งก็ก่อเกิดเป็นธุกริจได้ อย่างรูปลักษณ์ของน้ำสลัดสีเหลืองนวลน่ารับประทาน นำมาจับใส่สีที่มาจากธรรมชาติ เน้นเพื่อสุขภาพ ที่นอกจากจะได้วิตามินซีจากผลไม้แล้ว ยังไร้คอลเลสเตอรอลจากไข่แดง อีกด้วย เพียงเท่านี้สินค้าก็สามารถขายได้ ดูตัวอย่างของผู้ประกอบการ “สลัดสายรุ้ง” ที่ใช้การพลิกแพลงความจำเจ มาเป็นความแปลกใหม่ โดนใจลูกค้า
นางสาริณี บุญชู เจ้าของน้ำสลัดสายรุ้ง ย่านรามคำแหง เล่าว่า ธุรกิจนี้เริ่มต้นจากความที่ไม่รู้เลยว่าน้ำสลัดมีกรรมวิธีขั้นตอนการผลิตอย่างไร แต่ด้วยความที่เห็นช่องทางทางการตลาด ในช่วงปี 2546 ย่านรามคำแหง ยังไม่มีผู้ที่ทำสลัดจำหน่ายเลย ดังนั้นความได้เปรียบที่ตนเองยึดอาชีพการขายผลไม้มานานกว่า 10 ปี เริ่มมีคู่แข่งมากขึ้น จึงคิดหาช่องธุรกิจใหม่ โดยมองกระแสสังคมเป็นหลัก ที่นับวันคนไทยหันมาใส่ใจในเรื่องสุขภาพกันมากขึ้น รวมถึงนักศึกษาก็เริ่มสนใจในรูปร่างกันมากขึ้น ดังนั้นธุรกิจอาหารที่ไม่ทำลายสุขภาพจึงน่าจะเป็นแนวความคิดที่ดีที่สุด สุดท้ายจึงมาลงตัวที่น้ำสลัด เพื่อนำมาผสมผสานกับผักสด และผลไม้สดที่ตนเองขายอยู่
“เมื่อเราคิดว่าจะเริ่มทำสลัดขาย จึงไปเรียนขั้นตอนการทำน้ำสลัดพื้นฐาน แล้วฝึกฝนฝีมือที่บ้านอย่างต่อเนื่อง โดยคิดว่าหากน้ำสลัดที่มีสีเหลืองที่เกิดจากไข่ไก่ จะธรรมดาเกินไป แต่หากเพิ่มสีสันจากธรรมชาติด้วยผลไม้สด น่าจะสร้างความแปลกใหม่ให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี ดังนั้นจึงได้พัฒนาสูตรน้ำสลัดผลไม้ขึ้นมาอย่างต่อเนื่องโดยเริ่มจากสตรอเบอรี่ มะเขือเทศ แครอท พร้อมต่อยอดด้วย ชาเขียว งาดำ พริกไทยดำ แอปเปิ้ลเขียว บลูเบอรี่ ทูน่า ส้ม มะนาว องุ่น ผลไม้รวม และลิ้นจี่”
หลังจากที่ สาริณี พัฒนาน้ำสลัด จนสามารถสร้างความแตกต่างให้กับตลาดได้แล้ว จึงเปิดเป็นร้าน “สลัดบาร์ปักษ์ใต้” โดยตั้งชื่อตามภูมิลำเนาเดิมที่ตนเองเป็นคนใต้แล้วเข้ามาทำมาหากินในกรุงเทพฯ แต่เมื่อได้มีโอกาสไปออกรายการโทรทัศน์ มีผู้ดำเนินรายการเรียกน้ำสลัดหลากสีสันว่า “สลัดสายรุ้ง” ซึ่งตนเองก็นึกชื่นชอบชื่อนี้ สุดท้ายจึงกลายเป็นชื่อที่เรียกขานของลูกค้ามาจนถึงปัจจุบัน
แม้น้ำสลัดของสาริณี ได้รับการตอบรับดีจากลูกค้า ที่ขนาดเด็กๆ ที่ไม่เคยรับประทานผักเลย แต่ก็อยากจะลิ้มลองน้ำสลัดสายรุ้ง ที่สีสันน่ารับประทาน สุดท้ายกลายมาเป็นลูกค้าประจำ แต่ก็มีลูกค้าบางส่วนที่ไม่เชื่อมั่นในเรื่องความปลอดภัยจากสีของน้ำสลัดที่แม้จะมาจากผลไม้ก็ตาม ทำให้สาริณีตัดสินใจขอ อย. (คณะกรรมการอาหารและยา) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้า ส่งผลให้ปัจจุบันยอดขายน้ำสลัดสายรุ้งมียอดขายเพิ่มมากขึ้น
สำหรับจุดขายของสลัดอยู่ที่ ความเอาใจใส่ในเรื่องสุขภาพของผู้บริโภคเป็นสำคัญ คือ ในน้ำสลัดสายรุ้งทุกสูตร จะไม่มีการนำไข่แดงมาเป็นส่วนผสมเลย ทำให้ไม่มีคอลเลสเตอรอล ในขณะที่มีการนำเนื้อผลไม้ประเภทต่างๆ คลุกเคล้าในเนื้อสลัดครีมด้วย ทำให้ได้รสชาติของผลไม้และสมุนไพรอย่างแท้จริง รวมถึงยังปลอดสารกันเสียทุกรสชาติอีกด้วย
ปัจจุบันน้ำสลัดสายรุ้งมีกว่า 20 รสชาติ ให้เลือกรับประทาน ซึ่งทุกสูตรยอดขายพอๆ กัน เนื่องจากลูกค้าจะทดลองรสชาติใหม่ไปเรื่อยๆ เพื่อลดความจำเจ ทำให้สลัดสายรุ้งขายได้อย่างต่อเนื่อง โดยสลัดสายรุ้งขายในราคาชุดละ 25 บาท (ผักสลัด+น้ำสลัด 1 กระปุก) ในขณะที่น้ำขายปลีกในราคากระปุกละ 15 บาท (ทุกรสชาติ) แต่หากใครที่สนใจซื้อไปจำนวนมากอยู่ที่กิโลกรัมละ 100 บาท โดยสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้ 2 -3 สัปดาห์
เมื่อสินค้าดีมีคุณภาพ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ผู้คนจะหันมาสนใจ อยากทำธุรกิจด้านนี้บ้าง โดยเปิดสอนสูตรน้ำสลัดสายรุ้งทุกสูตรในราคา 15,000 บาท เรียน 1 วัน ซึ่งที่ผ่านมาก็มีคนสนใจมาเรียนเพื่อนำไปต่อยอดเป็นอาชีพ ทำให้ปัจจุบันมีผู้ทำน้ำสลัดสายรุ้งตามท้องตลาดเพิ่มมากขึ้น ซึ่งถึงแม้ผู้ประกอบการบางรายจะมองว่าเป็นคู่แข่ง แต่สาริณีกลับคิดเป็นการช่วยเหลือให้คนมีอาชีพ มีรายได้เลี้ยงครอบครัวมากกว่า
ถือเป็นธุรกิจในครัวเรือน ที่เกิดจากไอเดียสร้างสรรค์หาสิ่งที่ยังไม่เคยมีคนทำ มาสร้างความแตกต่างให้กับตลาด จนกลายเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ให้กับครอบครัวได้อย่างน่าภาคภูมิใจ
***ร้านสลัดสายรุ้งตั้งอยู่ที่ซอยรามคำแหง 57 โทร.08-9767-8556***
