ศิลปวัฒนธรรมไทยที่อ่อนช้อย และงดงาม ได้มีการถูกนำมาสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยฝีมือยอดเยี่ยมของช่างไทย การนำศิลปวัฒนธรรมไทยมาต่อยอดในเชิงพาณิชย์ เกิดเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศจำนวนมากให้กับผู้ประกอบการ เช่นเดียวกับผลงานครอบแก้ว และงานเครื่องปั้นดินเผา ของ “นายอภิชัย สินธุ์พูล”
นายอภิชัย เล่าว่า ได้เรียนด้านงานปั้น จากวิทยาลัยแห่งหนึ่ง โดยปัจจุบันเป็นอาจารย์สอนด้านงานปั้น อยู่ที่วิทยาลัยในวังชาย ในพระบรมมหาราชวัง และเนื่องจากต้องการช่วยเหลือลูกศิษย์ให้มีรายได้บ้าง จึงได้หันมาทำงานปั้นออกจำหน่าย โดยเปิดร้านอยู่ที่ตลาดสนามหลวง 2 สินค้าเป็นงานปั้น งานหล่อ ที่เป็นงานชิ้นเล็ก โดยชิ้นงานล่าสุดประกอบด้วย ครอบแก้ว เชิงเทียน งานปั้นรูปช้าง งานปั้นพระพุทธรูปลงสี และงานปั้นรูปเหมือนพ่อแก่ ฯ
นอกจากนี้ ภายในร้านยังมีผลิตภัณฑ์ชุดตุ๊กตาและเครื่องประดับ ของบาร์บี้ที่เป็นชุดไทยวางจำหน่ายอยู่ด้วย ซึ่งงานชุดตุ๊กตาบาร์บี้ นั้น เป็นงานชิ้นแรกที่คุณอภิชัย ทำขายอย่างจริงจัง โดยได้ออร์เดอร์จากลูกค้าประเทศไต้หวัน และเนื่องจากเป็นชุดไทย ทำให้ได้เผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมเครื่องแต่งกายไทยออกไปทั่วโลก และเป็นความภูมิใจของเราได้เห็นผลงานการตัดเย็บชุดตุ๊กตาในชุดไทยได้ขึ้นปกนิตยสารในประเทศสหรัฐอเมริกาด้วย
“ในระยะหลังๆ ผมไม่ได้ทำงานตัดชุดตุ๊กตา เพราะลูกค้าไต้หวันมีการกดราคา ก็เลยไม่ได้ทำส่งให้อีก ซึ่งชุดที่เราตัดเป็นงานฝีมือทุกชิ้น และต้องอาศัยช่างที่มีฝีมือจริงๆในการทำเครื่องทรง หรือ เครื่องประดับชุดไทย ถ้าต้องขายในราคาที่ถูกเหมือนกับการตัดเย็บผ้าโหลก็คงจะทำไม่ได้ เพราะทำไปก็ไม่คุ้มกับค่าแรงและค่าเสียเวลา จึงเลิกทำมีทำออกมาวางโชว์หน้าร้านบ้าง แต่ไม่ได้ตั้งใจขาย โดยเราตั้งราคาไว้ค่อนข้างสูงมาก เพราะคนไม่รักหรือชอบจริงก็คงจะไม่ซื้อ”
สำหรับสินค้าหลักของทางร้านในตอนนี้ ก็คงจะเป็นครอบแก้ว และเชิงเทียน ลวดลายไทยโบราณ ที่ทำงานชิ้นนี้ออกมาขาย เพราะเห็นว่าเมืองไทยเป็นเมืองพระพุทธศาสนา สินค้าประเภทนี้น่าจะทำออกมาขายได้ โดยในตอนแรกทำเชิงเทียนออกมาขายก่อน เป็นงานหล่อเรซิน แต่ต่อมาในระยะหลังการบูชาพระธาตุได้รับความสนใจมากขึ้น จึงได้ทำครอบแก้วที่ใช้สำหรับครอบพระธาตุออกมาขาย ซึ่งผลตอบรับออกมาค่อนข้างดี เพราะยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน และตั้งราคาไม่สูงมาก ซึ่งที่ครอบพระธาตุนั้น เป็นงานหล่อ ทำให้ผลิตจำนวนมากได้
ในส่วนของงานปั้นไม่ได้รับการตอบรับเท่ากับงานครอบแก้ว หรือ เชิงเทียน เพราะไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์อะไรได้ แต่เป็นงานที่เราถนัด และลูกศิษย์เรียนงานปั้น จึงได้มีการทำออกมาจำหน่ายควบคู่ไปด้วย โดยดูความต้องการของตลาดเป็นหลัก เช่น งานปั้นรูปเหมือนพ่อแก่ ที่ทำงานตัวนี้ออกมาเพราะเห็นว่า รูปแบบของเราไม่เหมือนใคร และมีความสวยงาม น่าจะขายได้ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
โดยใช้ช่องทางการขายหลักมี 2 ทาง คือ การวางขายหน้าร้านและการออกงานแสดงสินค้า เพราะได้ขึ้นทะเบียนเป็นสินค้าโอทอปของจังหวัดนครปฐม และได้รับการคัดสรรเป็นผลิตภัณฑ์โอทอป 3 ดาว ซึ่งสินค้าที่ได้รับการคัดสรร คือ ชุดเครื่องทรงตุ๊กตาบาร์บี้ ทำให้มีโอกาสนำสินค้าไปวางขายในงานแสดงสินค้าโอทอประดับประเทศได้
“สาเหตุที่ผมไม่ทำส่งขายให้กับพ่อค้าคนกลาง เพราะเกรงว่า พ่อค้าคนกลางจะไปตั้งราคาสูงเกินไป เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค โดยต้องการให้ผู้บริโภคได้ใช้สินค้าในราคาที่เหมาะสมกับตัวสินค้า และปัจจุบันรายได้จากการเปิดร้านขายที่ตลาดสนามหลวง ไม่ได้สูงมากนัก เพราะมีเวลาเปิดร้านขายแค่ 2 วัน เสาร์ – อาทิตย์ แต่เนื่องจากค่าเช่าร้านไม่แพง เพียงเดือนละไม่เกิน 2,000 บาท รวมค่าน้ำค่าไฟ รายได้ส่วนหนึ่ง เป็นแบ่งให้ลูกศิษย์ ซึ่งมาช่วยขายและทำงานตรงนี้ ที่เหลือเป็นรายได้ ”
สำหรับรายได้ตรงจุดนี้ไม่สูงมากนัก ซึ่งตนเองก็ไม่ได้คาดหวังรายได้ตรงนี้ เพราะมีงานประจำ และมีรายได้จากงานอื่นๆ ที่เข้ามาอีก แต่ที่เลือกทำงานตรงนี้ เพราะเห็นว่า เป็นอีกทางหนึ่งในการสืบทอดอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย และพระพุทธศาสนา พอทำไปแล้วก็มีความสุขและสบายใจ และยังได้ช่วยลูกศิษย์มีรายได้ระหว่างเรียนด้วย และที่สำคัญการได้ทำงานศิลปะขาย ทำให้เราได้ประสบการณ์ จริง และนำมาสอนให้ลูกศิษย์ได้
ในปัจจุบันการเรียนในสาขาของงานศิลปะอย่างเดียว โดยที่ไม่รู้จักคิดดัดแปลงเพื่อให้สามารถทำเชิงการค้าได้ โอกาสที่ประสบความสำเร็จในวิชาชีพได้ยาก และสิ่งสำคัญการที่จะทำงานศิลปะออกมาขายสักชิ้น ต้องคำนึงถึงความต้องการความชอบและประโยชน์ใช้สอย บวกกับความสวยงาม เพราะถ้าทำชิ้นงานออกขาย โดยไม่มีความต้องการของตลาดหรือประโยชน์ใช้สอย แม้จะฝีมือดีแค่ไหนโอกาสที่ลูกค้าจะตัดสินใจซื้อค่อนข้างยาก และต้องรู้จักดัดแปลงเพื่อให้ได้ต้นทุนทั้งวัตถุดิบและค่าแรงที่ต่ำที่สุด เพื่อจะได้ตั้งราคาในระดับลูกค้าทุกกลุ่มสามารถซื้อได้
โทร.08-9210-9331