กรมการพัฒนาชุมชน เร่งสางปัญหางานโอทอป 2009 ที่สนามศุภชลาศัย และห้างอีก 7 แห่ง เผยเพิ่มอุปกรณ์คลายความร้อน เพิ่มหลังคาเต็มทุกพื้นที่ ระดมเจ้าหน้าที่ดูแลเบรกเกอร์ไฟฟ้า หวั่นไฟดับช่วงฝนตกหนัก พร้อมกระตุ้นยอดขายด้วยโปรโมชั่นนาทีทอง
นายไพรัตน์ สกลพันธุ์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เปิดเผยว่า การจัดงาน OTOP Festival in the City 2009 ที่สนามศุภชลาศัยและห้างสรรพสินค้าในบริเวณใกล้เคียงอีก 7 แห่ง ผู้จัดงานได้ดำเนินมาตรการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกทั้งผู้ขายและผู้ซื้อในทุกด้าน โดยการแก้ไขปัญหาเรื่องอากาศร้อน ได้เพิ่มอุปกรณ์คลายความร้อนบนหลังคาเต็มทุกพื้นที่การจัดงาน เพิ่มพัดลมไอน้ำจาก 100 ตัว เป็น 150 ตัว และเตรียมพัดลมธรรมดาขนาดใหญ่กระจายเต็มพื้นที่การจัดงาน พร้อมทั้งเตรียมพัดลมตั้งโต๊ะจำนวน 2,500 ตัว ไว้บริการให้ร้านค้าอย่างทั่วถึง
นอกจากนี้ ยังจัดเจ้าหน้าที่ดูแลเบรกเกอร์ 50 คน ประจำหน่วยเพื่อสามารถตัดกระแสไฟฟ้าได้ทันที เมื่อเกิดฝนตกจะดับไฟชั่วขณะหนึ่งเพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัย มีการยกตำแหน่งของปลั๊กไฟขึ้นสูง พร้อมคลุมพลาสติก อีกทั้งระบบระบายน้ำที่รวดเร็วเมื่อเกิดฝนตก รวมทั้งจัดกิจกรรมกระตุ้นยอดการจัดจำหน่ายหรือช่วงนาทีทองเวลา 17.00-18.00 และ 20.00-21.00 น. โดยเฉพาะในช่วงเวลา 20.00-21.00 น. จะมีการมอบโชคลุ้นรับทองคำหนักมูลค่า 1 และ 2 สลึง เพิ่มเติมจากเดิมที่มีการมอบโชคทองคำ 1 บาททุกวัน ส่วนศูนย์การค้าต่าง ๆ ได้ปรับผังพื้นที่การจำหน่ายให้ย้ายมาในโซนที่มีนักท่องเที่ยวสัญจรเป็นจำนวนมากด้วย
ยังปากแข็ง "กอร์ปศักดิ์" โทษ ศก. -การเมือง กระทบยอดโอทอปตก
นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงยอดขายสินค้าในงานโอทอปที่ลดลงว่า เป็นเพียงบางร้านเท่านั้น ขณะนี้กระทรวงมหาดไทย ซึ่งรับผิดชอบโครงการนี้ พยายามบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้น โดยอาจลดราคาสินค้าครั้งใหญ่ ในช่วง 2-3 วันสุดท้ายของการจัดงาน และไม่อยากให้ไปเปรียบเทียบกับครั้งที่จัดที่เมืองทองธานี เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจปีนี้ไม่ดีนัก รวมทั้งปัญหาสถานการณ์การเมืองที่ยังไม่นิ่ง
นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวว่า การจัดงานนี้ ที่เมืองทองธานีในเวลา 10 วัน ต้องใช้งบประมาณรวม 200 ล้านบาท แยกเป็นค่าเช่าสถานที่ถึง 60 ล้านบาท ค่าบริหารจัดการอีก 140 ล้านบาทส่วนสาเหตุที่มาจัดที่สนามศุภชลาศัย และบรรดาตามห้างสรรพสินค้าใจกลางเมืองอีก 8 แห่ง ก็เพราะว่าต้องการนำสินค้าเข้ามาหาลูกค้า แทนที่จะให้ลูกค้าวิ่งไปหา