“กอร์ปศักดิ์” สั่งทบทวนโครงการช่วยเหลือเอสเอ็มอีระยะเร่งด่วนของ สสว. มูลค่า 287 ลบ. ระบุไม่เหมาะกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปแล้ว เร่งให้เสนอโครงการมาใหม่ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า สับ สสว. ต้องปรับปรุงการทำงาน ระบุที่ผ่านมา ผลงานยังไม่เข้าตา แนะทำหน้าที่ผลักดันเอสเอ็มอีไทยบุกตลาดอาเซียน
นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ที่ประชุมอนุมัติวงเงินดำเนินการของ สสว. มูลค่า 265 ล้านบาท แต่ไม่เห็นชอบแผนและโครงการช่วยเหลือเอสเอ็มอีระยะเร่งด่วน มูลค่า 287 ล้านบาท ที่สสว. เสนอมา เนื่องจากเห็นว่า โครงการดังกล่าวไม่เหมาะสมกับสถานการณ์เศรษฐกิจที่เปลี่ยนไป และไม่อยู่ในภาวะปกติ จึงขอให้กลับไปทบทวนโครงการมาเสนอใหม่ทั้งหมด และนำมาเสนอแก่ที่ประชุมอีกครั้ง ทั้งนี้ โครงการที่เสนอมาต้องไม่ซ้ำซ้อนกับงานที่หน่วยงานอื่นๆ ทำอยู่แล้ว
นอกจากนั้น ยังสั่งให้ สสว. รายงานความคืบหน้าการดำเนินโครงการต่างๆ ที่อนุมัติไปแล้ว เพราะผลงานของ สสว. ในอดีตยังไม่น่าประทับใจนัก และการใช้เงินลงทุนบางโครงการมีปัญหา อีกทั้ง ที่ประชุมแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมา 8 คน ทำหน้าที่กรั่นกรองโครงการก่อนเสนอใหม่ด้วย
นายกอร์ปศักดิ์ ระบุด้วยว่า อยากให้สสว. ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานกลางประสานกับสำนักงานเลขาธิการอาเซียน เพื่อผลักดันเอสเอ็มอีไทยเข้าไปมีบทบาทหรือใช้ประโยชน์จากข้อตกลงอาเซียน เช่น การเปิดตลาดใหม่ของอาเซียน หรือใช้ประโยชน์จากการจับคู่ธุรกิจระหว่างเอสเอ็มอีไทยกับเอสเอ็มอีประเทศต่างๆ ในอาเซียน เป็นต้น
ด้านดร.ดำริ สุโขธนัง ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานบอร์ดบริหาร สสว. ว่า ที่ประชุมโดยรองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งให้ทบทวนโครงการที่ได้รับอนุมัติไปแล้วในสมัยรัฐบาลก่อน แล้วนำกลับมาเสนอใหม่ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า เนื่องจากเห็นว่า โครงการดังกล่าวไม่เหมาะกับสถานการณ์ปัจจุบันแล้ว
สำหรับโครงการที่จะเสนอมาใหม่ จะเน้นโครงการที่ช่วยเหลือให้เอสเอ็มอีอยู่รอด และชะลอการเลิกจ้างในภาวะที่เศรษฐกิจไม่ปกติ