ในโลกธุรกิจนาฬิกาข้อมือ ส่วนแบ่งเค้กแทบทั้งหมดถูกจับจองโดยผู้ผลิตแบรนด์เนมเจ้ายักษ์ กับสินค้าราคาถูกจากจีน ทว่า ท่ามกลางการแข่งขันดุเดือด ยังมีแบรนด์ไทยแท้ๆ ในชื่อ “Link” แทรกตัวอยู่ได้สำเร็จ โดยไอเดียฉีกหนีคู่แข่ง เน้นขายฝีมือออกแบบกราฟิกมากกว่าเป็นอุปกรณ์บอกเวลา ควบคู่กับกลยุทธ์ราคาถูกใจผู้ซื้อ
เจ้าของธุรกิจ และผู้บุกเบิกธุรกิจดังกล่าว คือ วสันต์ วงศ์อัศวนฤมล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลิ้งกราฟิก จำกัด ซึ่งไม่ได้ร่ำเรียนด้านออกแบบหรือศิลปะแต่อย่างใด อาศัยส่วนตัวรักงานกราฟิก เมื่อสร้างธุรกิจของตัวเอง ตั้งธงว่าต้องเกี่ยวกับงานกราฟิก ดีไซน์เท่านั้น แต่เป็นกราฟิกที่ไม่เหมือนใคร
“เมื่อพูดถึงกราฟิก แทบทุกคนจะนึกถึงงานออกแบบสิ่งพิมพ์ เว็บไซต์ หรือแอดิเมชั่นเท่านั้น ทำให้ผมอยากฉีกแนว นำการออกแบบกราฟิกไปประยุกต์ใช้กับสินค้าในชีวิตประจำวัน ซึ่งสินค้านั้นต้องมีโอกาสทางตลาดด้วย ผมก็ลองมองไปที่สินค้ารอบๆ ตัว แล้วคัดเลือก จนมาลงตัวที่นาฬิกาข้อมือสำหรับวัยรุ่น เพราะในตลาดมีคู่แข่งแค่แบรนด์ดังรายเดียว กับสินค้าจากจีน ทำให้ผมเห็นโอกาสว่า อยากเป็นทางเลือกตรงกลางระหว่างสองเจ้าตลาดดังกล่าว โดยเป็นนาฬิกาที่มีอิมเมจดี วัยรุ่นใส่แล้วรู้สึกเท่ห์เหมือนใส่แบรนด์เนมต่างประเทศ แต่ราคาไม่สูงเกินไป”
อย่างไรก็ตาม โจทย์ใหญ่ และยากที่สุดของ Link คือ ต้องมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ป้องกันเสียงวิจารณ์ หรือคำเปรียบเทียบว่า ลอกเลียนสินค้าเจ้าดัง ดังนั้น Link เลือกวางตำแหน่งเป็นตัวแทนงานกราฟิก ดีไซน์ โดยใช้นาฬิกาข้อมือเป็นเพียงสื่อในการแสดงผลงาน ขณะเดียวกัน วางตำแหน่งสินค้าเป็นเครื่องประดับสำหรับวัยรุ่น มากกว่าอุปกรณ์เพื่อบอกเวลา
“นาฬิกาเจ้าดัง วางตัวเองเป็นนาฬิกาชั้นดี ขณะที่ Link ไม่ไปแข่งตรงจุดนั้น แต่เราเลือกจุดยืนที่แตกต่าง หันมาเน้นกราฟิก ดีไซน์ที่สวยงาม แม้แต่คนในวงการออกแบบเองยังต้องยอมรับ คนที่ใส่ Link คือ คนชอบความทันสมัย รักความสนุกสนาน ซื้อใส่เล่นเป็นเครื่องประดับ หรือซื้อเก็บเป็นของสะสม ไม่ได้ซื้อเพราะอยากใส่ดูเวลา ซึ่งแนวทางนี้ สื่อผ่านชื่อแบรนด์ Link ที่ผมอยากเป็นตัวกลางเชื่อมระหว่างการนำงานกราฟิก ดีไซน์ มาสร้างสีสันในชีวิตประจำวันให้คนรุ่นใหม่”
จากตำแหน่งการตลาดดังกล่าว การออกแบบของ Link เน้นสีสันจัดจ้าน ทุกแบบมีเรื่องราวความเป็นมา เสริมด้วยบรรจุภัณฑ์สวยงามแปลกตา เพื่อเจาะตลาดกิฟท์ชอป และสร้างเอกลักษณ์ให้แตกต่างจากนาฬิกาแบรนด์ดังให้ชัดเจนขึ้น โดยสินค้าชุดแรก มีประมาณ 10 กว่าแบบ วางตลาดเมื่อปี พ.ศ. 2547
ด้านตั้งราคานั้น วสันต์ เผยว่า ใช้หลักตั้งตามที่ใจคิด เอาใจลูกค้ามาใส่ใจเรา แล้วประเมินว่า ราคาใดที่ลูกค้าจะพึงพอใจมากที่สุด สุดท้ายลงตัวที่ระดับราคา 395-425 บาทต่อเรือน
“แนวคิดนี้ อาจไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการตลาด ที่ต้องคำนวณจากต้นทุนการผลิต และการตลาด เพื่อตั้งเป็นราคาขาย แต่ผมเลือกจะตั้งราคาตามความรู้สึก อยากให้ลูกค้าซื้อนาฬิกา Link แล้วรู้สึกคุ้ม มีทัศนคติบวกตั้งแต่แรก และกลายเป็นแฟนคลับกลับมาซื้อซ้ำอีก ส่วนเรื่องผลกำไรต่อหน่วยสูงสุด ผมมองเป็นปัจจัยรองลงไป”
แม้จะไม่ได้วางจุดยืนให้ Link เป็นยอดแห่งนาฬิกา ทว่า ชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่ใช้ล้วนเป็นชนิดเดียวกับนาฬิกาเกรด เอ อีกทั้ง มีระบบป้องกันรอยขูดขีด กันน้ำ และรับประกัน 6 เดือน เพื่อให้ผู้ซื้อมั่นใจว่า ได้นาฬิกาคุณภาพดีในราคาเหมาะสม รวมถึง ยกระดับแบรนด์ Link ให้เหนือกว่าสินค้าคุณภาพต่ำจากจีนอีกด้วย
ในส่วนช่องทางตลาด ระยะแรกเน้นวางในแผนกกิฟท์ชอป และสินค้าแฟชั่นสำหรับวัยรุ่นตามห้างสรรพสินค้า ต่างๆ เช่น เซ็นทรัล เดอะมอลล์ เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้ตรงที่สุด ต่อมาได้ขยายช่องทางขายผ่านตัวแทน ออกงานแสดงสินค้า รวมถึง รับจ้างผลิตเป็นสินค้าพรีเมียมให้แก่องค์กรชื่อดังต่างๆ
สำหรับปีนี้ (2552) เตรียมขยายช่องทางตลาดใหม่ๆ เช่น วางในร้านค้าปลีกโดยตรง ทั้งร้านกิฟท์ชอป ร้านหนังสือ ร้านเครื่องประดับ และร้านนาฬิกา เป็นต้น ตั้งเป้าให้มีจุดขายนาฬิกา Link ในศูนย์รวมวัยรุ่นทุกจังหวัด จังหวัดละอย่างน้อย 1 แห่ง อีกทั้ง เปิดโชว์รูมของตัวเองในห้างอินทรา สแควร์ รวมถึง ขยายตลาดสู่ต่างประเทศด้วย
“ผมอยากจะส่งออกตั้งแต่ตอนเริ่มธุรกิจ ถึงแม้เราจะเป็นแค่ผู้ผลิตรายเล็กๆ แต่อยากมีโอกาสใหญ่ เปรียบเหมือนการจับปลา ถ้าเราจับอยู่ในคลอง ปลาก็จะมีแค่ประมาณหนึ่ง แต่ถ้าไปจับในแม่น้ำ ทะเล หรือออกมหาสมุทร โอกาสจะได้ปลาก็มากขึ้นเรื่อยๆ แต่ก่อนที่จะออกไป เรือของเราต้องพร้อมที่จะลุยได้ ดังนั้น ที่ผ่านมา ผมพยายามสร้างแบรนด์ให้เข้มแข็งในประเทศเสียก่อน เพื่อพร้อมที่สุดที่จะลุยตลาดต่างประเทศ ซึ่งผมเชื่อว่า ยังมีโอกาสอีกมาก เพราะงานกราฟิกมีความเป็นสากลสูง อีกทั้ง คู่แข่งที่วางแนวทางเดียวกับเราในโลกนี้ ก็ยังไม่มีเลย”
ปัจจุบัน นาฬิกา Link มีรวมกันประมาณ 70 แบบ สไตล์การออกแบบ หลากหลาย ไม่มีข้อจำกัด มีทั้งแบบน่ารัก แฟนตาซี กีฬา ดุดัน ฯลฯ ทุกแบบจดลิขสิทธิ์ และให้เครดิตแก่ผู้ออกแบบไว้ทั้งสิ้น นอกจากนั้น เตรียมจะฉีกแนวใหม่ๆ โดยนำความเป็นไทย มาใส่ไว้ในตัวเรือนนาฬิกา เช่น ประเพณีสงกรานต์ อักษรไทย ลายไทย ฯลฯ โดยเล่าประวัติและเรื่องราวประกอบบนบรรจุภัณฑ์ เพื่อขยายฐานสู่กลุ่มสินค้าของฝาก ของที่ระลึก เจาะลูกค้านักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองไทย
วสันต์ เผยว่า ใช้เงินลงทุนกับธุรกิจนี้รวมแล้วกว่า 10 ล้านบาท โดยเป้าหมายคาดจะคืนทุนภายใน 5 ปีข้างหน้า และเป้าหมายสูงสุด อยากให้แบรนด์ Link เป็นหัวหอกแสดงฝืมือการออกแบบกราฟิกของคนไทยให้โลกได้รู้จัก และยอมรับ ผ่านสินค้าชนิดอื่นๆ ด้วย ไม่จำกัดแค่นาฬิกาเท่านั้น
***********************
โทร.0-2863-5266,69 หรือ www.linkgraphix.co.th