ทรู คอร์ปอเรชั่น ชี้ เอสเอ็มอีหน้าใหม่ให้ความสำคัญและศึกษาช่องทางการขายผ่านเว็บไซต์ที่มีอัตราเติบโตมากกว่าเท่าตัวทุกปี สัดส่วนผู้หญิงไทยนิยมชอปผ่านเว็บมากกว่า 64% สินค้าแฟชั่นมาเป็นอันดับ 1 สัดส่วน 14% เชื่ออนาคตเด็กที่เล่นเกมผ่านอินเตอร์เน็ต เมื่อโตขึ้นจะเป็นลูกค้ากลุ่มสำคัญซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์
นายรุจิภาส สมานุหัตถ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดสื่อสาร SMEs บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยภายในงานสัมมนา NEC FORUM ครั้งที่ 1 ในหัวข้อ “อีคอมเมิร์ซ การค้ายุคใหม่ที่ประกอบการต้องใส่ใจ” ว่า ปัจจุบันโลกการค้ามีการพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ เข้ามามีบทบาทอย่างที่เราปฏิเสธไม่ได้ ดังนั้น นักธุรกิจรุ่นใหม่จำเป็นจะต้องศึกษาเพื่อจะได้ไม่พลาดโอกาสธุรกิจบนโลกออนไลน์ ซึ่งเป็นช่องทางการขายที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องทั่วโลก และเป็นช่องทางการขายที่ต้นทุนต่ำสุดและให้ผลตอบแทนกำไร 100%
สำหรับสถิติการใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อการซื้อขายของผู้บริโภคในโลก โดยในปี 2007 มีสัดส่วนการใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อการซื้อขายสินค้าประมาณ 202 ล้านคน และในปี 2008 มีสัดส่วนการใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อการซื้อขายสินค้าเพิ่มขึ้นประมาณ 334 ล้านคน ส่วนในประเทศไทย มีการใช้อินเตอร์ประมาณ 13 ล้านคน มีการเข้าชมเว็บไชต์เพื่อซื้อขายสินค้าผ่านอินเตอร์เน็ตประมาณ 15%-20% หรือ วันละประมาณ 900,000 คน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1.7 ล้านบาท เป็นผู้หญิง 64% และผู้ชาย 34%
โดยการซื้อขายผ่านเว็บไซต์ของคนไทยส่วนใหญ่จะอยู่ในเมืองหลวง ส่วนในต่างจังหวัด ส่วนใหญ่จะมีการทำเว็บไซต์ขึ้นมา เหมือนแทนเวิร์ดชัวร์แผ่นพับ และให้เบอร์ติดต่อกลับ ไม่ได้จบการขายผ่านทางเว็บไซต์แบบ 100%เหมือนคนเมืองหลวง
ในส่วนของสินค้าที่ขายดีที่สุดผ่านทางอินเตอร์อันดับ 1 เสื้อผ้าแฟชั่น 14 % ท่องเที่ยวโรงแรม 9% คอมพิวเตอร์ 7% เครื่องใช้ไฟฟ้า 7% น้ำหอม 5% อื่นๆ 42% สินค้าที่ขายดีในอินเตอร์เน็ตส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าที่ราคาไม่สูง เพราะผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังกลัวเรื่องของการจ่ายเงินและการรับสินค้า ว่าจะไม่ตรงกับข้อมูล ที่ได้รับผ่านทางเว็บไซต์ ดังนั้น เจ้าของเว็บไซต์จะต้องสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้บริโภคด้วย
"ดังนั้น ช่องทางการขายผ่านทางเว็บไซต์ถือว่า เป็นเรื่องการขายเชิงจิตวิทยา จับต้องไม่ได้ ซึ่งต้องหาวิธีว่าจะทำอย่างไรให้ลูกค้าเห็นเกิดความเชื่อมั่นและต้องการจะซื้อ สิ่งที่จะช่วยได้อย่างหนึ่งคือ รูปภาพต้องชัดเจน สวยงาม และเห็นสินค้าในทุกมุม ซึ่งจากสถิติการใช้อินเตอร์เพื่อการซื้อขายสินค้าผ่านเว็บไซต์ มีอัตราการเติบโตอย่างเท่าตัวทุกปี ประเทศไทยยังมีอัตราการเติบโตในตลาดนี้ได้อีกมาก ใครเข้ามาก่อนก็จะมีโอกาสก่อน เพราะปัจจุบันจากสถิติคนใช้อินเตอร์เน็ตส่วนใหญ่ยังเป็นกลุ่มเด็ก ที่เข้าไปเล่นเกม และเมื่อเด็กกลุ่มนี้เติบโตขึ้น เข้าก็จะมาเป็นกลุ่มลูกค้าสำคัญที่จะมีการซื้อขายผ่านทางอินเตอร์เน็ต"
นายรุจิภาส สมานุหัตถ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดสื่อสาร SMEs บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยภายในงานสัมมนา NEC FORUM ครั้งที่ 1 ในหัวข้อ “อีคอมเมิร์ซ การค้ายุคใหม่ที่ประกอบการต้องใส่ใจ” ว่า ปัจจุบันโลกการค้ามีการพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ เข้ามามีบทบาทอย่างที่เราปฏิเสธไม่ได้ ดังนั้น นักธุรกิจรุ่นใหม่จำเป็นจะต้องศึกษาเพื่อจะได้ไม่พลาดโอกาสธุรกิจบนโลกออนไลน์ ซึ่งเป็นช่องทางการขายที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องทั่วโลก และเป็นช่องทางการขายที่ต้นทุนต่ำสุดและให้ผลตอบแทนกำไร 100%
สำหรับสถิติการใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อการซื้อขายของผู้บริโภคในโลก โดยในปี 2007 มีสัดส่วนการใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อการซื้อขายสินค้าประมาณ 202 ล้านคน และในปี 2008 มีสัดส่วนการใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อการซื้อขายสินค้าเพิ่มขึ้นประมาณ 334 ล้านคน ส่วนในประเทศไทย มีการใช้อินเตอร์ประมาณ 13 ล้านคน มีการเข้าชมเว็บไชต์เพื่อซื้อขายสินค้าผ่านอินเตอร์เน็ตประมาณ 15%-20% หรือ วันละประมาณ 900,000 คน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1.7 ล้านบาท เป็นผู้หญิง 64% และผู้ชาย 34%
โดยการซื้อขายผ่านเว็บไซต์ของคนไทยส่วนใหญ่จะอยู่ในเมืองหลวง ส่วนในต่างจังหวัด ส่วนใหญ่จะมีการทำเว็บไซต์ขึ้นมา เหมือนแทนเวิร์ดชัวร์แผ่นพับ และให้เบอร์ติดต่อกลับ ไม่ได้จบการขายผ่านทางเว็บไซต์แบบ 100%เหมือนคนเมืองหลวง
ในส่วนของสินค้าที่ขายดีที่สุดผ่านทางอินเตอร์อันดับ 1 เสื้อผ้าแฟชั่น 14 % ท่องเที่ยวโรงแรม 9% คอมพิวเตอร์ 7% เครื่องใช้ไฟฟ้า 7% น้ำหอม 5% อื่นๆ 42% สินค้าที่ขายดีในอินเตอร์เน็ตส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าที่ราคาไม่สูง เพราะผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังกลัวเรื่องของการจ่ายเงินและการรับสินค้า ว่าจะไม่ตรงกับข้อมูล ที่ได้รับผ่านทางเว็บไซต์ ดังนั้น เจ้าของเว็บไซต์จะต้องสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้บริโภคด้วย
"ดังนั้น ช่องทางการขายผ่านทางเว็บไซต์ถือว่า เป็นเรื่องการขายเชิงจิตวิทยา จับต้องไม่ได้ ซึ่งต้องหาวิธีว่าจะทำอย่างไรให้ลูกค้าเห็นเกิดความเชื่อมั่นและต้องการจะซื้อ สิ่งที่จะช่วยได้อย่างหนึ่งคือ รูปภาพต้องชัดเจน สวยงาม และเห็นสินค้าในทุกมุม ซึ่งจากสถิติการใช้อินเตอร์เพื่อการซื้อขายสินค้าผ่านเว็บไซต์ มีอัตราการเติบโตอย่างเท่าตัวทุกปี ประเทศไทยยังมีอัตราการเติบโตในตลาดนี้ได้อีกมาก ใครเข้ามาก่อนก็จะมีโอกาสก่อน เพราะปัจจุบันจากสถิติคนใช้อินเตอร์เน็ตส่วนใหญ่ยังเป็นกลุ่มเด็ก ที่เข้าไปเล่นเกม และเมื่อเด็กกลุ่มนี้เติบโตขึ้น เข้าก็จะมาเป็นกลุ่มลูกค้าสำคัญที่จะมีการซื้อขายผ่านทางอินเตอร์เน็ต"
