สถาบันคีนันโลกมอบนโยบายด่วนกว่า 80 ประเทศ จัดงาน Global Entrepreneurship Week Thailand 2008 เพื่อเป็นเวทีระดมสมอง ช่วยเอสเอ็มอีฝ่าวิกฤตการเงินโลก พร้อมจับมือมหาวิทยาลัยมหิดล เชิญผู้เชี่ยวชาญให้ความรู้ ในหัวข้อ “ก้าวสู่อนาคตของผู้ประกอบการไทย ภายใต้กระแสวิกฤตเศรษฐกิจโลก”
ดร.สายสวรรค์ วัฒนพานิช ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด สถาบันคีนันแห่งเอเชีย เปิดเผยว่า จากปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจที่กระทบไปทั่วโลก ทางสถาบันคีนัน ซึ่งเป็นมูลนิธิ ที่ดำเนินกิจกรรมในการให้การช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ทั่วโลก จึงมีแผนเร่งด่วน มอบหมายให้สถาบันคีนันทั่วโลกกว่า 80 ประเทศ จัด Global Entrepreneurship Week Thailand 2008 ขึ้นพร้อมกัน เพื่อเป็นเวที ในการระดมสมอง และแลกเปลี่ยนโอกาสทางธุรกิจ เพื่อพาผู้ประกอบการเอสเอ็มอีฝ่าวิกฤตการเงินและภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจโลก
สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ สถาบันคีนันแห่งเอเชีย ได้ร่วมวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งเป็นการร่วมมือกันครั้งแรก ในระหว่างวันที่ 20-22 พฤศจิกายน 2551 ในประเทศไทย ภายใต้หัวข้อ “การก้าวสู่อนาคตของผู้ประกอบการไทย ภายใต้กระแสวิกฤตเศรษฐกิจโลก” ซึ่งกิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การสัมมนาวิชาการเกี่ยวกับวิกฤตเศรษฐกิจการเงินโลกที่กำลังเกิดขึ้น การจัดเสวนาโต๊ะกลม แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และนิทรรศการ เพื่อพบปะแลกเปลี่ยนประสบการณ์
ด้านอาจารย์บุริม โอทกานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายการบริหารการศึกษาและบริการวิชาการ วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้ เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงทิศทางและรูปแบบการลุกลามของปัญหาเศรษฐกิจในระดับโลกที่กำลังเกิดขึ้น ว่าส่งผลกระทบสู่ผู้ประกอบการระดับต่างๆ ในประเทศไทยอย่างไร แนวทาง ที่เข้ามาช่วยผู้ประกอบการให้ผ่านพ้นปัญหาเศรษฐกิจที่ถดถอยได้อย่างไร ซึ่งทั่วโลกที่จัดจะมีการเชื่อมโยงกันผ่านทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากเพราะจะรู้ว่าทั่วโลกมีวิธีการอย่างไร และนำมาปรับใช้กับประเทศไทยได้อย่างไร
โดยการจัดงานต้องมีการเชื่อมโยงกันทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการ ทางสถาบันคีนัน หรือ หน่วยงานของภาครัฐบาล ต้องเข้ามารับความรู้ตรงนี้ เพื่อเป็นแนวทางในการกำหนดนโยบาย ซึ่งที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า นโยบายของรัฐบาลมีผลต่อการพัฒนาผู้ประกอบการ ปัญหาของรัฐบาลที่ผ่านมา คือ ความไม่ต่อเนื่อง การให้การสนับสนุนขาดๆ หายๆ ทำให้ผู้ประกอบการปรับตัวไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่ารัฐบาลจะเอาอย่างไร
ในส่วนของผู้ประกอบการใหม่ ขาดความกลัว ไม่กล้าที่จะลงทุนทำอะไร ทั้งที่คนไทยเองมีความต้องการเป็นผู้ประกอบการใหม่สูงมาก ดังนั้น หน้าที่ของเราคือ ต้องให้ความรู้ เพื่อจะได้มีทุนด้านความรู้และขจัดความกลัวออกไป และการมีต้นทุนด้านความรู้เป็นโอกาสที่ทำให้ไม่ขาดในการก้าวมาเป็นเจ้าของกิจการ ซึ่งในภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างนี้ สิ่งที่พบมาก คือจะมีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเกิดใหม่มากขึ้น ทางสถาบันคีนันจะเข้ามาทำหน้าที่ในช่วงภาวะวิกฤตเช่นนี้ เพราะสถาบันแห่งนี้เกิดขึ้นในช่วงภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ
ดร.สายสวรรค์ วัฒนพานิช ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด สถาบันคีนันแห่งเอเชีย เปิดเผยว่า จากปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจที่กระทบไปทั่วโลก ทางสถาบันคีนัน ซึ่งเป็นมูลนิธิ ที่ดำเนินกิจกรรมในการให้การช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ทั่วโลก จึงมีแผนเร่งด่วน มอบหมายให้สถาบันคีนันทั่วโลกกว่า 80 ประเทศ จัด Global Entrepreneurship Week Thailand 2008 ขึ้นพร้อมกัน เพื่อเป็นเวที ในการระดมสมอง และแลกเปลี่ยนโอกาสทางธุรกิจ เพื่อพาผู้ประกอบการเอสเอ็มอีฝ่าวิกฤตการเงินและภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจโลก
สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ สถาบันคีนันแห่งเอเชีย ได้ร่วมวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งเป็นการร่วมมือกันครั้งแรก ในระหว่างวันที่ 20-22 พฤศจิกายน 2551 ในประเทศไทย ภายใต้หัวข้อ “การก้าวสู่อนาคตของผู้ประกอบการไทย ภายใต้กระแสวิกฤตเศรษฐกิจโลก” ซึ่งกิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การสัมมนาวิชาการเกี่ยวกับวิกฤตเศรษฐกิจการเงินโลกที่กำลังเกิดขึ้น การจัดเสวนาโต๊ะกลม แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และนิทรรศการ เพื่อพบปะแลกเปลี่ยนประสบการณ์
ด้านอาจารย์บุริม โอทกานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายการบริหารการศึกษาและบริการวิชาการ วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้ เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงทิศทางและรูปแบบการลุกลามของปัญหาเศรษฐกิจในระดับโลกที่กำลังเกิดขึ้น ว่าส่งผลกระทบสู่ผู้ประกอบการระดับต่างๆ ในประเทศไทยอย่างไร แนวทาง ที่เข้ามาช่วยผู้ประกอบการให้ผ่านพ้นปัญหาเศรษฐกิจที่ถดถอยได้อย่างไร ซึ่งทั่วโลกที่จัดจะมีการเชื่อมโยงกันผ่านทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากเพราะจะรู้ว่าทั่วโลกมีวิธีการอย่างไร และนำมาปรับใช้กับประเทศไทยได้อย่างไร
โดยการจัดงานต้องมีการเชื่อมโยงกันทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการ ทางสถาบันคีนัน หรือ หน่วยงานของภาครัฐบาล ต้องเข้ามารับความรู้ตรงนี้ เพื่อเป็นแนวทางในการกำหนดนโยบาย ซึ่งที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า นโยบายของรัฐบาลมีผลต่อการพัฒนาผู้ประกอบการ ปัญหาของรัฐบาลที่ผ่านมา คือ ความไม่ต่อเนื่อง การให้การสนับสนุนขาดๆ หายๆ ทำให้ผู้ประกอบการปรับตัวไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่ารัฐบาลจะเอาอย่างไร
ในส่วนของผู้ประกอบการใหม่ ขาดความกลัว ไม่กล้าที่จะลงทุนทำอะไร ทั้งที่คนไทยเองมีความต้องการเป็นผู้ประกอบการใหม่สูงมาก ดังนั้น หน้าที่ของเราคือ ต้องให้ความรู้ เพื่อจะได้มีทุนด้านความรู้และขจัดความกลัวออกไป และการมีต้นทุนด้านความรู้เป็นโอกาสที่ทำให้ไม่ขาดในการก้าวมาเป็นเจ้าของกิจการ ซึ่งในภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างนี้ สิ่งที่พบมาก คือจะมีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเกิดใหม่มากขึ้น ทางสถาบันคีนันจะเข้ามาทำหน้าที่ในช่วงภาวะวิกฤตเช่นนี้ เพราะสถาบันแห่งนี้เกิดขึ้นในช่วงภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ
