สถาบันฝึกอบรมการค้าระหว่างประเทศ แนะผู้ส่งออกกระจายความเสี่ยง พลิกวิกฤตเป็นโอกาส เร่งขยายตลาดใหม่ดันยอด แนะเพิ่มสัดส่วนตลาดหลักต่อตลาดใหม่เป็น 50 ต่อ 50 ภายในปี 2552 พร้อมเร่งสร้างผู้ประกอบการคุณภาพออกสู่ตลาดโลก
รอ.สุวิพันธุ์ ดิษยมณฑล ผู้อำนวยการสถาบันฝึกอบรมการค้าระหว่างประเทศ กรมส่งเสริมการส่งออก เปิดเผยว่า สถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ทั่วโลกต่างจับตามองอย่างใกล้ชิด ณ เวลานี้คือผลพวงจาก Lehman Brother บริษัท วาณิชธนกิจขนาดยักษ์ อันดับ 4 ของสหรัฐอเมริกาได้ยื่นเรื่องล้มละลายต่อศาล เมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา แม้จะได้พยายามหาทางแก้วิกฤติกู้สถานการณ์อย่างไรก็ไม่เป็นผลสำเร็จ เนื่องจากขาดสภาพคล่องในการดำเนินงาน และมีหนี้เสียสูง ซึ่งสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอาจจะส่งผลให้กำลังซื้อในช่วงไตรมาสที่ 4 ปรับตัวลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กระทรวงพาณิชย์ได้มีมาตรการออกมาเพื่อผลักดันการส่งออกของไทย โดยมุ่งเน้นในการขยายฐานการส่งออกไปยังตลาดใหม่ ซึ่งมีเป้าหมายที่สัดส่วนของตลาดหลักและตลาดใหม่ จากปัจจุบันอยู่ที่ 51.7%กับ 48.3% ให้เป็นสัดส่วน 50/50 ในปี 2552 ซึ่งจะเป็นการกระจายความเสี่ยงท่ามกลางภาวะวิกฤติที่เกิดขึ้น
สำหรับการสร้างผู้ประกอบการรายใหม่ ๆ นั้น สถาบันฝึกอบรมการค้าระหว่างประเทศ จึงได้จัดฝึกอบรม “ความรู้เบื้องต้นในการประกอบธุรกิจส่งออก” รุ่นที่ 105 ระหว่างวันที่ 17-21 พ.ย. นี้ ขึ้นเพื่อให้ผู้ที่สนใจที่จะก้าวเข้าสู่ธุรกิจส่งออกได้รับความรู้พื้นฐานที่จำเป็นในการดำเนินธุรกิจ และสามารถนำความรู้ที่ได้รับ ไปประยุกต์ใช้ให้เกิดผลสำเร็จในธุรกิจต่อไป
ผู้อำนวยการสถาบันฝึกอบรมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวอีกว่า การส่งออกถือว่าเป็นกลไกในการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ ดังนั้น การพัฒนาผู้ประกอบการและส่งเสริมการส่งออก จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีผู้ส่งออกที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะในส่วนของการสร้างคนรุ่นใหม่เข้าสู่วงการธุรกิจส่งออกถือเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งการมีทรัพยากรบุคคลอันทรงประสิทธิภาพนี้จะเป็นส่วนสำคัญในการเพิ่มแรงผลักดันในการขับเคลื่อนการส่งออก ที่มีความสำคัญต่อสถานะทางเศรษฐกิจของประเทศ ในภาวะเช่นนี้
รอ.สุวิพันธุ์ ดิษยมณฑล ผู้อำนวยการสถาบันฝึกอบรมการค้าระหว่างประเทศ กรมส่งเสริมการส่งออก เปิดเผยว่า สถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ทั่วโลกต่างจับตามองอย่างใกล้ชิด ณ เวลานี้คือผลพวงจาก Lehman Brother บริษัท วาณิชธนกิจขนาดยักษ์ อันดับ 4 ของสหรัฐอเมริกาได้ยื่นเรื่องล้มละลายต่อศาล เมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา แม้จะได้พยายามหาทางแก้วิกฤติกู้สถานการณ์อย่างไรก็ไม่เป็นผลสำเร็จ เนื่องจากขาดสภาพคล่องในการดำเนินงาน และมีหนี้เสียสูง ซึ่งสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอาจจะส่งผลให้กำลังซื้อในช่วงไตรมาสที่ 4 ปรับตัวลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กระทรวงพาณิชย์ได้มีมาตรการออกมาเพื่อผลักดันการส่งออกของไทย โดยมุ่งเน้นในการขยายฐานการส่งออกไปยังตลาดใหม่ ซึ่งมีเป้าหมายที่สัดส่วนของตลาดหลักและตลาดใหม่ จากปัจจุบันอยู่ที่ 51.7%กับ 48.3% ให้เป็นสัดส่วน 50/50 ในปี 2552 ซึ่งจะเป็นการกระจายความเสี่ยงท่ามกลางภาวะวิกฤติที่เกิดขึ้น
สำหรับการสร้างผู้ประกอบการรายใหม่ ๆ นั้น สถาบันฝึกอบรมการค้าระหว่างประเทศ จึงได้จัดฝึกอบรม “ความรู้เบื้องต้นในการประกอบธุรกิจส่งออก” รุ่นที่ 105 ระหว่างวันที่ 17-21 พ.ย. นี้ ขึ้นเพื่อให้ผู้ที่สนใจที่จะก้าวเข้าสู่ธุรกิจส่งออกได้รับความรู้พื้นฐานที่จำเป็นในการดำเนินธุรกิจ และสามารถนำความรู้ที่ได้รับ ไปประยุกต์ใช้ให้เกิดผลสำเร็จในธุรกิจต่อไป
ผู้อำนวยการสถาบันฝึกอบรมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวอีกว่า การส่งออกถือว่าเป็นกลไกในการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ ดังนั้น การพัฒนาผู้ประกอบการและส่งเสริมการส่งออก จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีผู้ส่งออกที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะในส่วนของการสร้างคนรุ่นใหม่เข้าสู่วงการธุรกิจส่งออกถือเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งการมีทรัพยากรบุคคลอันทรงประสิทธิภาพนี้จะเป็นส่วนสำคัญในการเพิ่มแรงผลักดันในการขับเคลื่อนการส่งออก ที่มีความสำคัญต่อสถานะทางเศรษฐกิจของประเทศ ในภาวะเช่นนี้