ลวดดัดปรับตามใจ กิ๊ฟท์ชอปสไตล์เทรนด์ดี้

เปิดประสบการณ์เถ้าแก่น้อยในตลาดอินดี้ อินทาวน์ หน้าลานเซ็นทรัล เวิลด์ โดยเจ้าแรกที่อยากพาไปรู้จัก คือ “มานะ อัศววิทูรวิทย์” เจ้าของไอเดียลวดดัดปรับตามใจ


มานะเลือกใช้เวลาที่เหลือจากการเรียนที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง หันมาทำลวดดัดในรูปแบบต่างๆ แล้วนำมาขายที่ตลาดอินดี้ฯ ตั้งแต่เมื่อประมาณ 3 ปีก่อน

เมื่อเวลาว่างเยอะบวกกับความเป็นคนที่ชอบประดิษฐ์อยู่แล้ว ทำให้มานะนำของที่ประดิษฐ์มาขายที่ตลาดอินดี้ฯ ดู พอเริ่มขายได้ ก็ขายอย่างเป็นจริงเป็นจังมากขึ้น

มานะ เล่าว่า แต่เดิมขายของที่ตลาดอินดี้ฯ ที่ลานเซ็นเตอร์พ้อยท์ สยามสแควร์มาประมาณ 2 ปี ก่อนที่จะย้ายตามมาขายที่หน้าลานเซ็นทรัลเวิลด์ โดยเลือกจะทำเป็นงานลวดดัด, ไม้หนีบรูป และไม้หนีบกระดาษขาย ก็เพราะมันเป็นงานอิสระ

“ลวดเส้นหนึ่งเราสามารถมาดัดให้เป็นอะไรก็ได้ดั่งใจเราคิด เหมือนเราวาดรูปด้วยดินสอ เราสามารถวาดอะไรก็ได้ ลวดก็เหมือนกันจะดัดให้มันเป็นอะไรก็ได้ เพราะฉะนั้นสินค้าส่วนใหญ่ก็จะเป็นลวดดัดและก็ไม้หนีบ แล้วก็มีกิมมิกซ์ต่างๆ มาเพิ่มเติม ตกแต่งให้สวยงาม

สินค้าส่วนใหญ่ผมจะทำเองหมดเลย โดยเฉพาะลวดดัด ส่วนพวกไม้หนีบ ก็จะซื้อเป็นชิ้นส่วนแล้วเอามาประกอบกัน ต้นทุนครั้งแรกก็ประมาณ 3,000 บาท หมายรวมตั้งแต่ลวด ชิ้นส่วนไม้หนีบ อุปกรณ์ และของตกแต่งด้วย หลังจากนั้นต้นทุนก็จะลดลงมา บางครั้งอาจเป็นพันหรือไม่ถึงพันก็ได้ ถ้าให้คิดต้นทุนต่อชิ้นก็เกือบครึ่งของราคาที่ตั้งไว้ เช่น ตัวนี้ขายอยู่ 20 บาท ต้นทุนก็จะตกประมาณ 10-12 บาท” มานะ เล่าถึงจุดเริ่มต้นของการเป็นพ่อค้า

ทั้งนี้ สินค้าที่มานะทำนั้น จะมีหลายราคา ตั้งแต่ 5-350 บาท แล้วแต่ความยากง่ายของตัวสินค้า

ปัจจุบันนอกจากมานะจะทำสินค้ามาขายเองที่ตลาดอินดี้ฯ ทุกๆ วันศุกร์แล้ว ยังมีพ่อค้ามารับสินค้าของเขาไปขายต่ออีกด้วย

“พ่อค้ามารับครั้งหนึ่งก็ไม่ต่ำกว่า 100-200 ชิ้น ถ้ามีออเดอร์ก็ต้องขอเวลาหน่อย เวลาทำบางครั้งก็มีเพื่อนมาช่วย แต่เราก็ต้องทำเองเหมือนกัน การออกแบบดีไซน์ก็จะคิดตามแบบต้นไม้จริง”

จากไอเดียและจินตนาการดังกล่าว ทำให้มานะยังคงประกอบธุรกิจลวดดัดปรับตามใจมาจนถึงทุกวันนี้ โดยสามารถสร้างรายได้ให้กับตัวเองได้เดือนละกว่า 8,000 บาท ไม่ต้องพึ่งเงินจากทางบ้าน แต่ยังสามารถแบ่งเงินที่ได้มาใช้จ่ายในครอบครัวได้อีกด้วย

“ถ้าใครว่างจากการเรียนหรือมีผลงาน ไอเดียแหวกแนว ไม่ซ้ำใคร ก็มาติดต่อทีมงานที่อินดี้ อินทาวน์ได้ พร้อมกับตัวอย่างสินค้าแฮนด์เมดที่เราทำเอง เป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ แสดงให้คนอื่นเขารู้ว่าวัยรุ่นมีเวลาว่างก็มาทำสิ่งที่ดีได้เหมือนกัน และขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีที่เปิดพื้นที่ให้เด็กไทยได้แสดงออก” มานะ กล่าวทิ้งท้าย

**************************************

ข้อมูลจาก นิตยสาร SMEs Today ฉบับที่ 71 ประจำเดือน กันยายน 2551