นักวิชาการ ม.หอการค้าไทย ชี้คณะรัฐมนตรีสุดยี้ ไม่กระทบความเชื่อมั่นนักลงทุน เหตุยังเป็นคนกลุ่มเดิมที่เข้ามาบริหารประเทศ แนะรัฐบาลชุดใหม่ต้องกำหนดนโยบายให้ชัดเจน เพื่อลดปัญหาชะลอการลงทุนจากต่างชาติ ด้านพิษแฮมเบอร์เกอร์ กระทบภาคอสังหาริมทรัพย์ไทย แต่ไม่มากนัก
ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า จากการปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรีใหม่นั้น ซึ่งนักลงทุนทั้งชาวไทยและต่างชาติให้ความสนใจ เพื่อใช้ในการตัดสินใจลงทุนในการดำเนินธุรกิจ ถือว่าไม่กระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนมากนัก เนื่องจากคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ยังเป็นโควตาเดิม และจากพรรคที่จัดตั้งยังเป็นพรรคเดิม ดังนั้นแนวทางในการกำหนดนโยบายการค้าลงทุน เชื่อว่าจะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก แต่สิ่งที่จะกระทบความเชื่อมั่นของนักลงทุนโดยตรงคือ ความไม่ชัดเจนในการกำหนดทิศทางนโยบาย เช่น นโยบายด้านพลังงาน เรื่อง การใช้ อี 85 และ Eco Car ซึ่งเป็นนโยบายที่ยังไม่ลงตัว ส่งผลให้นักลงต่างชาติชะลอการลงทุน โดยส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของไทยเล็กน้อย
“การที่มีการเปลี่ยนคณะรัฐมนตรี ถือว่าไม่กระทบความเชื่อมั่นของนักลงทุนมากนัก เพียงแต่จะมีการชะลอการลงทุนในช่วงนี้ไปบ้าง ซึ่งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ควรที่จะกำหนดทิศทางให้ชัดเจน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน และต้องเสนอแนวนโยบายให้เร็วที่สุด ในขณะที่ผู้ประกอบการยังไม่มีความกังวลเรื่องการปรับเปลี่ยน ครม. มากนัก โดยเฉพาะในภาคการผลิต และการค้า ในขณะที่การลงทุนต่างชาติเรื่องตราสารหนี้อาจส่งผลกระทบบ้าง ทำให้การซื้อขายยังไม่โดดเด่นเท่าที่ควร” ดร.ธนวรรธน์กล่าว
นอกจากนี้ในเรื่องผลกระทบความเชื่อมั่นผู้ประกอบการไทย เกี่ยวกับบริษัท เลย์แมน บราเธอร์ส ที่ต้องปิดตัวลง จะส่งผลกระทบต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ของไทย อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะราคาที่ดินจะซบเซา ไม่คึกคักเท่าที่ควร รวมถึงภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวชาวต่างชาติในแถบอเมริกา อาจลดจำนวนลง เพราะจากสภาพเศรษฐกิจที่ซบเซา จึงงดการท่องเที่ยวต่างชาติไปด้วย