น้ำสลัดถั่วเหลือง ฟักทอง สูตรเพิ่มทางเลือกคนรักสุขภาพ

จากปัญหาการระบาดของไข้หวัดนกในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ผู้บริโภคไข่สดหรืออาหารที่มีส่วนผสมของไข่ลดน้อยลง ด้วยไม่แน่ใจด้านความปลอดภัยในการบริโภค เหตุนี้ นางสาวนภเกตน์ สายสมบัติ นักศึกษาจากสาขาวิชาอาหารและโภชนาการ คณะเทคโนโลยี คหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ธัญบุรี จึงคิดค้น “น้ำสลัดสูตรใหม่” หนึ่งในเมนูอาหารที่ไม่มีไข่เป็นส่วนผสม โดยการนำน้ำนมถั่วเหลืองมาเป็นส่วนผสมในน้ำสลัดทดแทนการใช้ไข่แดงดิบ ทำให้ได้น้ำสลัดน้ำนมถั่วเหลืองที่มีลักษณะที่ดี มีกลิ่นหอมของถั่วเหลืองและรสชาติดี

แต่จากการศึกษาในเวลาต่อมาพบว่าในการทำน้ำสลัดนมถั่วเหลืองสูตรดังกล่าว มีข้อจำกัดในเรื่องของการใช้พลังงานและต้องใช้เวลานานเกินไปกว่าจะได้น้ำสลัดในลักษณะที่ต้องการ ส่งผลให้น้ำสลัดสูตรใหม่มีต้นทุนสูงตามไปด้วย ดังนั้น ในปี 2551 นางสาวพัชราพร แดงลิ่ม และคณะ ประกอบด้วย นางสาวรัตติกาล โพธิ์ศรี นางสาวจริยา สุวรรณประเสริฐ และนางสาวโศภิต เณรน้อยนักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาวิชาและคณะเดียวกัน จึงมีความสนใจในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยทดลองนำฟักทองผสมลงไปในส่วนผสมของน้ำสลัดน้ำนมถั่วเหลือง พบว่า น้ำสลัดมีลักษณะเนื้อสัมผัสเนียนและข้นเร็วขึ้น มีรสชาติที่กลมกล่อมมากขึ้น อีกทั้งยังประหยัดเวลาและแรงงาน มีคุณค่าทางโภชนาการเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ฟักทองยังหาง่ายราคาถูก ทำให้ต้นทุนน้ำสลัดสูตรใหม่นี้ลดลงตามไปด้วย

ผศ.อุจิตชญา จิตรวิมล อาจารย์ที่ปรึกษาของนักศึกษากลุ่มดังกล่าว กล่าวว่า ฟักทองมีเนื้อแน่นเมื่อผสมลงไปในน้ำสลัดน้ำนมถั่วเหลืองจะทำให้น้ำสลัดข้นเร็วขึ้นช่วยลดระยะเวลาในการทำน้ำสลัดให้เร็วขึ้น และสีเหลืองของฟักทอง ทำให้น้ำสลัดมีสีสวย ที่สำคัญ ฟักทองมีไขมันน้อยแต่มีสารอาหารบำรุงร่างกายมากมาย ได้แก่ วิตามินบี วิตามินเอ วิตามินซี และธาตุฟอสฟอรัส โดยปัจจุบันวงการแพทย์ ให้ความสนใจสารเบต้าแคโรทีน ที่มีอยู่ในเนื้อสีเหลืองของฟักทอง ซึ่งมีส่วนช่วยลดโอกาสการเกิดมะเร็งได้

ด้านนางสาวพัชราพร แดงลิ่ม เผยถึงส่วนผสมสำคัญของน้ำสลัดน้ำนมถั่วเหลืองผสมฟักทองให้ฟังว่า ประกอบด้วย น้ำนมถั่วเหลือง 2 ถ้วยตวง น้ำมันถั่วเหลือง 2/3 ถ้วยตวง น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง น้ำส้มสายชู 0.5 ถ้วยตวง เกลือป่น 2.5 ช้อนชา ฟักทองนึ่งบด 1 ถ้วยตวง ส่วนขั้นตอนวิธีการทำ ขั้นแรกให้เทน้ำนมถั่วเหลืองใส่ในโถปั่น ปั่นด้วยความเร็วปานกลาง จากนั้นค่อยๆ รินน้ำมันถั่วเหลืองลงไปในโถปั่นจนหมด เติมเกลือป่น น้ำส้มสายชู และค่อยๆใส่ฟักทองนึ่งสุกที่บดละเอียดแล้วลงไปปั่นรวมกันทีละน้อยจนหมด ปั่นจนส่วนผสมเป็นเนื้อเดียวกัน สังเกตได้จากสีของน้ำสลัดจะเป็นสีครีมเนียน

หลังจากที่ปั่นจนส่วนผสมเข้ากันดีแล้ว ให้เทส่วนผสมของครีมสลัดลงในหม้อตุ๋น เติมน้ำตาล ตั้งบนไฟ ใช้ไฟแรง หมั่นคนน้ำสลัดตลอด ตุ๋นจนน้ำสลัดมีลักษณะข้น โดยมีเคล็ดลับว่าหากต้องการให้น้ำสลัดข้นได้ที่เร็วมากขึ้นให้ตุ๋นน้ำสลัดในหม้อขนาดใหญ่ ไอน้ำจากหม้อขนาดใหญ่จะช่วยให้น้ำสลัดที่อยู่ในหม้อตุ๋นข้นเร็วขึ้นนั่นเอง

เคล็ดลับอีกประการ คือ การเลือกฟักทอง โดยต้องเป็นฟักทองที่ไม่สุกและไม่อ่อนจนเกินไป และไม่ควรใช้ไฟแรงและเวลาในการนึ่งนานจนเกินไป โดยเวลาที่พอเหมาะประมาณ 5 นาที เพราะหากนานกว่านั้นจะทำให้เนื้อฟักทองเละไม่แน่น

“เวลาใส่น้ำมันลงไปในส่วนผสม ให้เทลงเป็นสาย ระหว่างการปั่นจะทำให้น้ำมันถั่วเหลืองผสมเข้าเป็นเนื้อเดียวกันกับส่วนผสมอย่างอื่น แต่ถ้าเราเทลงพรวดเดียว พอปั่นเข้าเป็นเนื้อเดียวกันแล้วทิ้งไว้สักพักน้ำมันจะแยกชั้นออกจากส่วนผสมอย่างอื่น” น้องพัชราพรบอกเคล็ดลับเพิ่มเติม

น้องพัชราพร กล่าวอีกว่า จากการทดสอบด้านรสชาติพบว่าผู้บริโภคตอบรับดี เนื่องจากรสชาติกลมกล่อม น้ำสลัดมีลักษณะข้น กลิ่นหอม มัน และเป็นน้ำสลัดสูตรที่แปลกใหม่ สำหรับต้นทุนของการทำน้ำสลัดสูตรนี้ อยู่ที่ประมาณ 11.50 บาท ส่วนราคาขายกระปุกละ 20 บาท (น้ำหนัก 140 กรัม/กระปุก)

ส่วนกากของถั่วเหลืองที่นำมาทำน้ำนมถั่วเหลืองยังสามารถนำไปทดแทนเนื้อสัตว์ในการทำทอดมันได้อีกด้วย โดยใช้ทดแทนเนื้อหมู : กากถั่วเหลือง ในสัดส่วน 1 : 3 ส่วนหลังจากนั้นก็ปรุงรสตามสูตรของการทำทอดมัน แต่หากจะรับประทานทอดมันจากกากถั่วเหลืองให้อร่อยได้รสนั้น น้องพัชราพรกระซิบว่า ต้องทานขณะที่ยังร้อนๆ จะได้รสชาติความอร่อยมากกว่า

สำหรับผู้สนใจสั่งซื้อน้ำสลัดน้ำนมถั่วเหลืองผสมฟักทอง หรือ สนใจสูตรทอดมันจากกากถั่วเหลือง สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สาขาวิชาอาหารและโภชนาการคณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชมงคล ธัญบุรี

**************************

โทร.02-5493161 หรือ 085-1403173 , 087-1083180