ส.อ.ท. โวยปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% กระทบผู้ประกอบการรายย่อยที่กู้เงินมาลงทุนขาดสภาพคล่อง วอนรัฐ และแบงก์พาณิชย์หามาตรการอุ้ม หวั่นรายย่อยรับสภาพไม่ไหวต้องปิดกิจการลง
นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า การที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายหรืออัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตร(อาร์พี) ระยะ 1 วัน 0.25% จะส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการรายเล็กรายน้อย โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่กู้เงินมาทำธุรกิจ เนื่องจากต้นทุนจะสูงกว่าผู้ประกอบการรายใหญ่ เพราะผู้ประกอบการรายใหญ่จะกู้เงินในอัตราดอกเบี้ย MLR ขณะที่ผู้ประกอบการรายย่อยจะกู้เงินในอัตราดอกเบี้ย MLR บวก 2% จึงเป็นห่วงภาคธุรกิจขนาดเล็กจะขาดเงินสด
นายสันติ ระบุต่อว่า สถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน สะท้อนจากการซื้อขายในต่างจังหวัดได้ส่งสัญญาณให้เห็นชัดเจนว่า ธุรกิจขนาดเล็กเริ่มขาดสภาพคล่อง เช่น ซื้อวัสดุก่อสร้างต้องจ่ายเป็นเงินสดเท่านั้น เพราะผู้ขายไม่มั่นใจกระแสเงินสดของผู้ซื้อที่เป็นธุรกิจขนาดเล็ก รวมถึง สถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อแก่รายเล็กยากขึ้น ดังนั้น รัฐบาลและธนาคารพาณิชย์ควรดูแลกระแสเงินสดธุรกิจขนาดเล็กไม่ให้ขาดสภาพคล่อง ไม่เช่นนั้น อาจเกิดผลกระทบให้ธุรกิจรายย่อยต้องปิดกิจการลงไป