ธุรกิจกับดาราในสมัยนี้ถือเป็นของคู่กัน ที่ส่วนใหญ่มักจะทำควบคู่ไปกับวงการบันเทิง เพื่อรองรับความไม่แน่นอนในอาชีพวงการบันเทิง ทำให้ที่ผ่านมาจะเห็นดารา นักแสดง นักร้อง หาเวลาว่างมาดูแลธุรกิจของตนเอง ทั้งการออกบูธขายสินค้า และเข้าไปดูแลร้าน โดยล่าสุด หนึ่งในนักดนตรีวง Paradox ได้สร้างความมั่นคงให้กับชีวิต ด้วยการเปิดตัวธุรกิจ Tata Studio (ตา ต้า สตูดิโอ) ที่แรกเริ่มเพียงต้องการให้เป็นห้องซ้อมดนตรีสำหรับสมาชิกในวง แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นแหล่งผลิตเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มีใจรักในเพลงใต้ดิน ได้มีโอกาสโชว์ศักยภาพด้านดนตรีสู่สาธารณชน
นายอิทธิพงศ์ กฤดากร ณ อยุธยา หรือที่รู้จักกันดีในนามว่า “ต้า พาราด็อกซ์” นักดนตรี ที่ไม่หยุดการเรียนรู้ เพื่อนำองค์ความรู้ที่ได้ไปพัฒนาธุรกิจของตนเองอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มทำตามความฝันของตัวเองในวัยเยาว์ จากเด็กบ้านนอกที่รักในเสียงเพลง ที่ต้องการห้องซ้อมดนตรีเป็นของตัวเอง เนื่องจากในสมัยก่อนต้องรวมกลุ่มเพื่อนไปอาศัยโรงเก็บอุปกรณ์ท้ายสวนของเพื่อนเป็นห้องซ้อมดนตรีแทน ดังนั้นเมื่อมีโอกาสเข้ามาสู่เส้นทางสายดนตรี ก็ยังไม่ทิ้งความฝันนั้น จึงตัดสินใจทำธุรกิจห้องซ้อมดนตรีขึ้นเมื่อปี 2545 ที่สามย่านใน U-center (หอพักนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) โดยจุดประสงค์หลักเพื่อใช้เป็นห้องซ้อมดนตรีของวงพาราด็อกซ์ และเปิดโอกาสให้นักเรียน นักศึกษา ได้ใช้บริการด้วยในราคาย่อมเยา (ห้องใหญ่ 280 บ./ชม., ห้องเล็ก 250 บ./ชม.)
ต่อมาเมื่อกระแสการบอกปากต่อปากของบรรดานักเรียน นักศึกษา ในเรื่องของราคา และอุปกรณ์ในการซ้อมที่ครบครัน ทำให้ในทุกๆ วัน มีเยาวชนที่รักดนตรีมาให้บริการไม่ขาดสาย โดยเฉพาะช่วงหลังเลิกเรียน
“หลังจากที่ผมได้เปิด Tata studio มาประมาณ 5 ปีให้มีเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่รักในเสียงดนตรี มาฝึกซ้อมเป็นจำนวนมาก พร้อมกับการทำแผ่นซีดีเป็น Demo ของตนเองเก็บไว้ ซึ่งบางคนผมเห็นแววที่จะสามารถเป็นนักร้องมืออาชีพ จึงผลักดันเข้าสู่ค่ายเพลง แต่ด้วยความเป็นหน้าใหม่ ทำให้นายทุนไม่มั่นใจในการทำการตลาด จึงต้องปฏิเสธเด็กเหล่านั้นไป ซึ่งผมก็เสียดายในพรสวรรค์ของเยาวชน จึงคิดทำค่ายเพลงเองเพื่อผลักดันเอง โดยจะเน้นไปที่เนื้อหาของแปลก และดนตรีที่แปลกแหวกแนว ซึ่งเป็นเพลงใต้ดินเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งจะมีกลุ่มคนเฉพาะที่ชื่นชอบเพลงแนวนี้ ล่าสุดได้ปั้นเด็กจนสามารถเป็นนักร้องได้คือ วง Supersub และวง Clear (ร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ รัก สาม เศร้า) ที่ผมได้ช่วยอัดเสียงให้คำแนะนำ พร้อมทำปกซีดีให้ด้วย ซึ่งงานตรงนี้แม้จะเป็นงานที่ไม่ได้เป็นรายได้หลัก แต่ก็ถือว่าได้ช่วยคนที่มีฝันเหมือนผมได้ ทำตามฝันให้เป็นจริง”
แม้ค่ายเพลงเล็กๆ ค่ายนี้จะถือกำเนิดขึ้น แต่ก็ถือว่าเป็นที่รู้จักของคนเพียงบางกลุ่มเท่านั้น เนื่องจากทาง Tata studio ไม่มีงบฯ เพื่อโปรโมท ดังนั้นการชูคอนเซ็ปต์ “การหาฟังยาก” จึงเป็นทางเลือกหนึ่งให้แบรนด์ Tata studio เป็นที่ยอมรับ เนื่องจากต้องการผลิตผลงานให้เป็นงานหายาก กลุ่มคนที่ฟังต้องชอบจริงๆ โดยที่ผ่านมากลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบจะซื้อเก็บสะสมไว้เลยก็มี แม้จะเป็นเพียงแค่การเปลี่ยนรูปแบบปกก็ตาม
“ผมต้องการเป็นแบรนด์ที่ยิ่งใหญ่ในวงการเพลงใต้ดิน โดยขณะนี้จะเป็นการรุกเรื่องการสร้างแบรนด์เป็นหลัก และพร้อมเป็นแบรนด์ให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ที่รักในเสียงเพลงใช้เป็นบันไดสู่เส้นทางศิลปิน ซึ่งวงดนตรีที่เกิดมาจากเส้นทางเหล่านี้ จะเก่ง และเรียนรู้งานเพลงในทุกขั้นตอนการผลิต ไม่ว่าจะเป็นการอัดเสียง แต่งเพลง ออกแบบปก พร้อมคิดแผนการตลาดเพื่อจำหน่ายอีกด้วย ส่วนลิขสิทธิ์เพลงจะเป็นของศิลปินเองทั้งหมด”
ล่าสุด “ต้า พาราด็อกซ์” เตรียมเปิด Live House (ไลฟ์เฮ้าส์) ที่เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการจัดดนตรี นิยมมากในประเทศญี่ปุ่น เน้นการจัดคอนเสิร์ตขนาดเล็ก ย่านทองหล่อ จุคนได้ประมาณ 300 คน ซึ่งจะแตกต่างจากผับ คือไม่มีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอร์ ไม่มีบริกร แต่เป็นสถานที่เฉพาะชมคอนเสิร์ตเท่านั้น หวังให้เป็นแหล่งของผู้ที่รักเพลงใต้ดิน และเป็นช่องทางให้นักดนตรีหน้าใหม่ใช้เป็นช่องทางเปิดตัว และก้าวเข้าสู่นักดนตรีมืออาชีพ ซึ่งจะต่อยอด แพร่ภาพการแสดงสดทางสื่อโทรทัศน์ด้วย
***สนใจติดต่อ 0-2216-5709***