เผยโครงการพัฒนาแฟรนไชส์สู่สากล (B2B) จำนวน 9 รุ่นที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการธุรกิจแฟรนไชส์เข้าร่วมแล้วกว่า 400 ราย ตั้งธุรกิจได้จริงกว่า 50% เตรียมเปิดรุ่น 10 ระบุคัดแค่ 25 ราย จากจำนวนแห่สมัครกว่า 200 ราย ตั้งเป้าให้เป็นธุรกิจแฟรนไชส์ที่ยั่งยืนมีมาตรฐานระดับสากล
นายพีระพงษ์ กิติเวชโภคาวัฒน์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยพัฒนาธุรกิจค้าปลีก และแฟรนไชส์สากล (IRF) คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ในฐานะผู้รับผิดชอบโครงการส่งเสริมพัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์สู่ระบบมาตรฐานสากล โดยการเรียนรู้ด้วยตนเอง ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-learning) หรือ B2B โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การจัดโครงการ B2B ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2544 ถึงปัจจุบัน รวมแล้ว 9 รุ่น มีผู้ประกอบการแฟรนไชส์เข้าร่วม 420 ราย โดย 50% เปิดธุรกิจแฟรนไชส์อยู่ในขณะนี้
สำหรับการจัดรุ่นที่ 10 เวลานี้ มีผู้ยื่นความต้องการเข้าร่วมแล้วกว่า 200 ราย ซึ่งถึงสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ จะคัดเลือกเหลือเพียง 25 ราย เพื่อเข้าร่วมโครงการ โดยพิจารณาจากหลักเกณฑ์คัดเลือกต่างๆ เช่น ต้องเป็นธุรกิจที่มี 3 สาขาขึ้นไป ประกอบการมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ปี เจ้าของธุรกิจต้องเป็นผู้เข้ารับการอบรมเอง ต้องไปออกโรดโชว์เพื่อทดลองตลาดจริง และต้องเข้าเรียนไม่ต่ำกว่า 80% เป็นต้น
นายพีระพงษ์ กล่าวต่อว่า เหตุที่รองรับได้เพียง 25 รายเท่านั้น เนื่องจากภาครัฐต้องใช้งบประมาณการอบรมต่อรายสูง ประมาณ 80,000 บาท/ราย ดังนั้น จำเป็นต้องคัดเลือกผู้ประกอบการที่มีความพร้อมจริงๆ เพื่อรับประกันว่า ผู้ประกอบการที่ผ่านหลักสูตรจะเป็นแฟรนไชส์มาตรฐานระดับสากล
ทั้งนี้ การอบรมรุ่นที่ 10 จะมีความเข้มข้นมากกว่าเดิม โดยปรับปรุงจุดด้อยจาก 9 รุ่นที่ผ่านมา รวมถึง จะต้องสอบประเมินผล เพื่อพิจารณาว่า สมควรผ่านหลักสูตรหรือไม่
นอกจากนั้น ทางกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ยังมีโครงการส่งเสริมพัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์สู่ระบบมาตรฐานสากล โดยการให้คำปรึกษาแนะนำในรูปแบบของพี่เลี้ยงให้คำปรึกษา (Coaching) ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาผู้ประกอบการรายเดิมที่มีศักยภาพอยู่แล้ว เพื่อสร้างความเข้มแข็งภายในประเทศ และเตรียมความพร้อมในการขยายธุรกิจสู่ตลาดต่างประเทศ โดยทำการศึกษา วิเคราะห์ประเมินสถานะทางธุรกิจ และให้คำปรึกษาแนะนำ (Coaching) และร่วมค้นคว้าหาทางแก้ไข เพื่อพัฒนารูปแบบที่ดีที่สุดในการดำเนินธุรกิจแฟรนไชส์ (Franchise Business Model) เป็นรายธุรกิจแบบทั่วไป และแบบเจาะลึกให้เข้มแข็ง และเติบโตได้อย่างมั่นคงมากยิ่งขึ้นต่อไปในอนาคต
