“แบงก์ชาติ” เลิกปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำอุ้มเอสเอ็มอี

“แบงก์ชาติ” ประกาศยกเลิกโครงการปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำแก่เอสเอ็มอี มูลค่า 20,000 ลบ. แจงสถานการณ์เงินบาทแข็งเปลี่ยนไป ไม่แข็งอย่างที่คาด

นางสุชาดา กิระกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการสายตลาดเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท. ได้ตัดสินยกเลิกโครงการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต วงเงิน 40,000 ล้านบาท โดยเป็นการสมทบเงินระหว่าง ธปท. 20,000 ล้านบาท และธนาคารพาณิชย์ 20,000 ล้านบาท โดยโครงการดังกล่าว ธปท. ออกมาพร้อมกับช่วงที่มีการยกเลิกมาตรการกันสำรองเงินทุนนำเข้าระยะสั้นร้อยละ 30 ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งในช่วงนั้น ธปท. เกรงว่าค่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้น แต่สถานการณ์ปัจจุบัน เงินบาทก็ไม่ได้แข็งค่าขึ้นมากจนส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการ อีกทั้ง ธปท. ยังไม่ได้อนุมัติจัดสรรวงเงิน และไม่มีข้อผูกพัน

ทั้งนี้ ธปท. ยังคงให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบกิจการที่ ธปท. ได้ให้ความเห็นชอบจัดสรรวงเงินไปแล้วต่อไปจนสิ้นสุดระยะเวลาที่ระบุไว้ในหนังสือแจ้งการเห็นชอบของ ธปท. จึงไม่มีผลกระทบใด ๆ ต่อผู้ประกอบการซึ่งมีจำนวน 31,215 ราย ที่ได้รับอนุมัติวงเงินแล้วรวม 56,398.25 ล้านบาท

สำหรับโครงการที่ ธปท. ยังให้ความช่วยเหลือต่อไปจนกว่าจะสิ้นสุดอายุสัญญา ได้แก่ 1.โครงการให้ความช่วยเหลือทางการเงินโดยมีตั๋วสัญญาใช้เงินของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเป็นประกัน 2.โครงการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากโรคไข้หวัดนก 3.โครงการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินบาท 4.โครงการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบการในจังหวัดสงขลาและสตูล และ 5.โครงการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบการใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

ทั้งนี้ วงเงินที่ ธปท.ได้อนุมัติให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบกการตามโครงการต่าง ๆ คิดเป็นสัดส่วนเพียงร้อยละ 1 ของสินเชื่อรวมของระบบธนาคารพาณิชย์ และคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 1.9 ของสินเชื่อที่ธนาคารพาณิชย์ให้แก่เอสเอ็มอี