“เอสเอ็มอีแบงก์” สุดวุ่น “สุวิทย์” เตรียมเรียกเอ็มดี ให้ข้อมูลออกตราสาร FRCD มูลค่า 2.5 หมื่นล้าน แหล่งข่าวระบุอาจเตรียมล้างบางบอร์ดชุดเก่า ด้าน “ประดิษฐ์” เผยเตรียมตั้งคณะกรรมการสอบทุจริต แฉมีกระบวนการดิสเครดิต คาดหวังชิงเก้าอี้ ดึงพวกสวมตำแหน่ง
แหล่งข่าวจากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) เปิดเผยว่า นายสุวิทย์ คุณกิตติ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม จะเรียกนายพงษ์ศักดิ์ ชิวชรัตน์ กรรมผู้จัดการเอสเอ็มอีแบงก์ เข้าให้ข้อมูลเกี่ยวกับกรณีความเสียหายที่มาจากการออกตราสาร FRCD จำนวน 300 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2.5 หมื่นล้านบาท โดยนำอัตราดอกเบี้ยไปทำสวอปพิเศษกับธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์เพื่อลดค่าใช้จ่ายโดยไม่ประเมินภาพที่แท้จริง และทำเกิดอำนาจ ซึ่งอาจทำให้กระทรวงการคลังต้องจ่ายค่าเสียหายกว่า 3,000 ล้านบาท
แหล่งข่าวระบุด้วยว่า จากกรณีดังกล่าว มีความเป็นไปที่อาจมีการปรับเปลี่ยนคณะกรรมการชุดปัจจุบันออก เพื่อเปิดทางให้นักการเงินธนาคาร เข้ามาทำหน้าที่คณะกรรมการแทน
ทั้งนี้ นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ได้รายงานความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับกระทรวงการคลัง ให้นายสุรพงษ์ สืบวงศ์สี รองนายก และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรับทราบแล้ว และกำลังหารือกับประธานกรรมการของเอสเอ็มอีแบงก์ เพื่อพิจารณาแนวทางตรวสอบ
ด้านนายสมชัย สัจจพงษ์ ประธานกรรมการบริหารเอสเอ็มอีแบงก์ เผยว่า ได้รับการแต่งตั้งจากคณะกรรมการให้เป็นประธานสอบข้อเท็จจริง การออกตราสาร FRCD ของเอสเอ็มอีแบงก์ รวมถึง สอบมีทุจริตจากเจ้าหน้าที่ด้วยหรือไม่ โดยจะสอบให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีหนังสือเวียน ในนามกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า พนักงาน ป.โท เอสเอ็มอีแบงก์ ส่งไปถึงนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และสำเนาถึงสื่อมวลชนหลายสำนัก โดยเนื้อหา เป็นการโจมตีการทำงานของนายพงษ์ศักดิ์ ชิวชรัตน์ ทั้งการปล่อยสินเชื่อไม่เป็นไปตามเป้า หนี้เสีย และวิสัยทัศน์ในการบริหาร เป็นต้น
ทั้งนี้ เป็นที่น่าจับตาว่า ในช่วงเดือนที่ผ่านมา มีการปล่อยข่าวความเสียหายของเอสเอ็มอีแบงก์ และข้อบกพร่องในการทำงานของนายพงษ์ศักดิ์มาอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับเป็นช่วงเวลาใกล้เคียงที่จะมีการประเมินผลงานเอ็มดีเอสเอ็มอีแบงก์ และมีความพยายามจะให้พิจารณาแต่งตั้งบอร์ดบริหารใหม่ ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า เป็นกระบวนการดิสเครดิต เพื่อชิงเก้าอี้ หรือล้างบางคนเก่า เพื่อเอาพวกพ้องตัวเองมาสวมตำแหน่งแทน