งานกระดาษถือเป็นงานที่มีความคลาสสิก หากได้รับการออกแบบ และประดิษฐ์ออกมาได้อย่างน่าประทับใจ โดยเฉพาะโมเดลกระดาษ ที่ผู้คนส่วนใหญ่จะชื่นชอบ แต่ไม่นิยมประกอบขึ้นเป็นชิ้นงาน ทำให้นักออกแบบหัวใส คิดทำโมเดลกระดาษสำเร็จรูปขึ้น พร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานที่สามารถใช้ได้กับทุกสถานที่ อย่าง นาฬิกาแขวน ที่มีฉากหลังเป็นโมเดลกระดาษ 3 มิติ
นายวีรกิต ฉันจรัสวิชัย ผู้จัดการฝ่ายออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัท ซัมไทมซ จำกัด เล่าว่า แต่เดิมตนเองเป็นพนักงานกินเงินเดือนธรรมดาคนหนึ่ง โดยทำงานที่เดียวมานานกว่า 10 ปี ด้านการออกแบบนาฬิกา (Clock) จนถึงจุดอิ่มตัว จึงคิดออกมาประกอบอาชีพของตนเอง จึงได้เริ่มต้นจากความชอบส่วนตัวที่ชื่นชอบงานกระดาษต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการพับของประเทศญี่ปุ่น งานตัดแปะ รวมถึงได้ศึกษาการทำโมเดลกระดาษ 3 มิติ จากต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ทำให้คิดที่จะนำงานที่ชื่นชอบ และประสบการณ์ด้านการออกแบบนาฬิกา มาต่อยอดเป็นธุรกิจภายใต้แบรนด์ “Sometime”
“ในตอนแรกผมมองว่าคนที่ชื่นชอบโมเดลกระดาษมีเยอะ แต่ถ้าจะให้ซื้อแล้วไปทำเองยังมีน้อย ซึ่งส่วนใหญ่ยังชอบงานที่สำเร็จแล้ว และซื้อมาเพื่อตกแต่งบ้าน หรือ เพื่อโชว์เท่านั้น ดังนั้นจากจุดนี้เองจึงเป็นการจุดประกายให้ธุรกิจการทำนาฬิกาจากโมเดลกระดาษ 3 มิติ จึงเริ่มขึ้น ซึ่งถ้าจะทำขึ้นเป็นภาพอย่างเดียว ผมดูว่าธรรมดาเกินไป จึงคิดใส่ฟังก์ชั่นและประโยชน์ใช้สอยลงไปด้วย อย่าง นาฬิกา”
ทั้งนี้ความยากของนาฬิกาจากโมเดลกระดาษ อยู่ที่การหารูปภาพ ที่ไม่ใช่ทุกภาพจะนำมาประยุกต์เป็นโมเดลกระดาษ และเมื่อใส่นาฬิกาเข้าไป จะต้องกลมกลืนกันด้วย รวมถึงรูปภาพที่นำมาใช้จะต้องเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป และเมื่อนำไปตกแต่งบ้านจะต้องดูดี
“ผมเริ่มต้นจากการนำรูปภาพที่คิดว่าเหมาะสมกับนำมาทำเป็นโมเดลกระดาษนาฬิกา 3 มิติ ซึ่งขั้นตอนการเฟ้นรูปถือเป็นขั้นตอนที่ค่อนข้างยาก บางครั้งก็ตันเหมือนกัน ไม่รู้จะเลือกรูปอะไรมาใช้ดี ซึ่งที่ผ่านมาก็มีรูป มุมของบ้าน, สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์, หอนาฬิกา และห้องหนังสือ โดยใช้ชื่อคอลเลคชั่นสินค้านี้ว่า Scenography Clock ทำให้ล่าสุด ผมจึงคิดออกแบบรูปแบบเองให้ออกมาเป็นนาฬิกาแขวนเอง ซึ่งยังคงความคลาสสิค และทันสมัยไม่แพ้กัน คือ Ornamental Time”
สำหรับขั้นตอนการผลิต ถือว่าขณะนี้เป็นงานแฮนด์เมดทั้งหมด โดยใช้คนตัดกระดาษด้วยมือ ประมาณ 4-5 คน ทั้งนี้การที่นายวีรกิตหลีกเลี่ยงการนำเครื่องจักรเข้ามาใช้นั้น เนื่องจากมีความเสี่ยงในการผิดพลาดสูง ซึ่งหากเครื่องจักรตัดกระดาษไม่ตรง ก็จะทำให้ชิ้นงานนั้นเสียไปเลย ดังนั้นการใช้ฝีมือคนยังเป็นเรื่องที่จำเป็นอยู่
ปัจจุบันสินค้าของแบรนด์ Sometime ได้วางจำหน่ายตามห้างสรรพสินค้า เช่นห้างเซ็นทรัล พลาซ่า, เดอะมอลล์ บางกะปิ และเปิดตัวแบรนด์ตามงานแสดงสินค้าต่างๆ โดยล่าสุดได้จัดแสดงสินค้าในงาน BIG&BIH 2008 เมื่อวันที่ 17-22 เมษายน ที่ผ่านมารวมถึงขณะนี้เริ่มเจาะตลาดส่งออก
โดยนายวีรกิตมองว่า สินค้าในรูปแบบของโมเดลกระดาษ 3 มิติ จะเปิดตลาดได้ต้องเน้นการทำตลาดในต่างประเทศเท่านั้น เนื่องจากเป็นงานแฮนด์เมด บวกงานดีไซน์ ทำให้ราคาขายค่อนข้างสูง คือ อยู่ที่ประมาณ 1,380-2,250 บาท
“ขณะนี้กำลังการผลิตของเราขึ้นอยู่กับออเดอร์ที่ลูกค้าสั่ง คนงาน 1 คนสามารผลิตได้ 2 ชิ้น/วัน ซึ่งยังเพียงพออยู่ โดยกลุ่มลูกค้าคนไทย จะเป็นวัยทำงานขึ้นไป ส่วนต่างประเทศ จะอยู่ในแถบตะวันออกกลาง และประเทศในแถบเอเชีย เช่น อินเดีย ฮ่องกง เป็นต้น ในขณะที่ประเทศเกาหลี และญี่ปุ่น ก็เป็นประเทศเป้าหมายเช่นกัน เพราะส่วนใหญ่จะชื่นชอบงานแฮนด์เมด” นายวีรกิต กล่าวทิ้งท้าย
***สนใจติดต่อ 0-2286-9934 หรือ 08-9206-0634***
