xs
xsm
sm
md
lg

Ninja Gaiden Dragon Sword สัมผัสดาบปราบมังกร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เป็นที่รู้กันว่าเกมที่สร้างลงเครื่องเกมของนินเทนโดโดยไม่ได้มาจากทีมงาน นินเท็นโด หรือที่เรียกว่า Third party นั้นยากที่จะหาความสนุกได้ โดยเฉพาะเครื่องรุ่นหลังๆที่เน้นลูกเล่นเป็นหลักอย่างเครื่อง Wii หรือ DS ที่มีเกมขยะอยู่เต็มไปหมด นานๆทีถึงจะมีเกมดีๆจากค่ายอื่น ซึ่งก็เป็นที่มาของการกลับมารีวิวเกมมือถืออีกครั้ง หลังจากห่างหายไปนานกับเกม “Ninja Gaiden Dragon Sword” ผลงานชิ้นเอกของ “ทีมนินจา” ที่นำเสนอบนเครื่องที่มากด้วยลูกเล่นอย่าง DS

“นินจาไกเดน”หรือชื่อเดิมที่ใช้ในญี่ปุ่นบ้านเกิดคือ “นินจาริวเคนเดน” มีประวัติอันยาวนานถึง 20 ปี เป็นหนึ่งในตำนานสมัยลงเครื่องแฟมิคอม และอีกหลายๆเครื่อง จนกลับมาเกิดใหม่ด้วยกลายเป็นเกม 3 มิติเต็มรูปแบบบน Xbox โดยตัวเอกของทุกภาคยังคงเป็นนินจาหล่อล่ำบึกอย่าง “Ryu Hayabusa” โดยในทุกภาคทั้ง 2 มิติ หรือ 3 มิติ ล้วนเป็นเกมแอ็กชันในรูปแบบธรรมดาตามยุคสมัยนิยม ดังนั้นการมาของภาค Dragon Sword บน DS จึงค่อนข้างน่าสนใจ เพราะนี่ถือว่าเป็นการแหวกแนวเรื่องการควบคุมของซีรีส์นี้ ยิ่งพอได้เห็นวีดีโอและได้ลองเล่นเดโม ที่เราต้องร้อง “ว้าว.......” ด้วยลูกเล่นที่แปลกใหม่ โดยเกือบทั้งหมดของตัวเกมใช้ทัชสกรีนควบคุม บวกด้วยภาพที่สวยงามตระการตา ยิ่งทำให้เราหวังไว้กับตัวเกมมากขึ้นเป็นทวีคูณ

เมื่อตัวเกมออกมาก็ไม่ทำให้เราผิดหวังด้วยกราฟิกแบบกึ่ง 3 มิติ โดยใช้ภาพ 2 มิติเป็นฉาก โดยตัวละครเป็น 3 มิติที่สวยสดงดงาม บวกด้วย 60 เฟรมเรตต่อวินาทีทำให้ภาพลื่นไหลไม่สะดุด และอาจจะเรียกว่า “แจ่มที่สุดของ DS ในขณะนี้” ส่วนคัตซีนที่เป็นการ์ตูนอนิเมะสุดสวยแม้จะเป็นเพียงแค่ภาพนิ่งก็เถอะ โดยเกมนี้มีรูปแบบการเล่นที่ไม่เหมือนเกมทั่วๆไปของ DS เพราะคุณต้องเล่นในแนวตั้งเหมือน ลักษณะเหมือนอ่านสมุดพกเล่มเล็กๆ รูปแบบเดียวกับเกมประเภทฝึกสมองอย่างที่ Brain Age ใช้ โดยแบ่งเป็นจอบนเป็นแผนที่ ส่วนจอล่างเป็นจอที่ไว้เล่น และควบคุมด้วยระบบสัมผัสที่หลายคนอาจมีข้อกังขาว่า เกมจะสนุกได้สักแค่ไหนเมื่อไม่ได้ใช้ปุ่มเล่น ตัวเกมอาจจะมั่วจนเล่นไม่ได้

แต่หลังจากลิ้มลองรูปแบบการเล่นที่แปลกใหม่ด้วยการ “ฟัน” คุณก็แค่ตวัดปากกาไปที่ศัตรู หรือกระโดดก็ให้ลากปากกาจากล่างขึ้นบน ท่าพิเศษที่ใช้การตวัดปากกาเป็นจังหวะ การยิงอาวุธบินที่ทำได้ง่ายดาย เพียงแค่จิ้มไปที่เป้าหมาย แต่ถ้าเราจิ้มไปที่ตัวเราก็จะกลายเป็นการป้องกัน(ใช้ปุ่มแทนได้) รวมถึงท่าไม้ตายที่ต้องวาดตัวอักษรตามที่กำหนด ล้วนส่งผลให้เกมนี้กลายเป็นเกมแอ็กชันที่รวดเร็วกว่าการกดปุ่มหลายเท่า แรกๆอาจจะมั่วๆบ้าง แต่ถ้าชินกับระบบแล้ว นี่คือเกมที่มีระบบควบคุมยอดเยี่ยม แต่ถ้าจะให้เทียบกับเกมที่ใช้ระบบสัมผัสควบคุมทั้งหมดอย่าง Zelda Phantom Hourglass แล้ว Zelda อาจจะดูนุ่มนวลกว่า แต่เกมนี้เน้นรวดเร็วและดุดัน เรียกว่าเป็นคนละแนวกัน คงไปเทียบกันไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตาม แสดงให้เห็นว่าทัชสกรีนนั้นสามารถเข้ากับเกมแอ็กชันได้อย่างดี

ค่อนข้างน่าเสียดายที่ตัวเกมค่อนข้างสั้นไปสักหน่อย ในแต่ละด่านสามารถเล่นจบได้ในเวลาไม่นาน บอสที่หาวิธีจัดการได้ไม่ยาก ดีที่ยังสามารถสะสมค่าพลังไว้อัพเกรดความสามารถและซื้อท่าไม้ตายได้ แต่ที่ทำให้คอเกมหงุดหงิดใจเล็กน้อยก็คือปริศนาภายในเกมที่หาทางแก้ได้ง่ายๆมุกตื้นๆ ซ้ำซาก (อย่างการเป่าลมไปที่รูไมค์ของ DS ที่ใช้ซ้ำจนเบื่อ)ไม่รู้เป็นเพราะการที่ลูกสาวของนายแว่น “อิตางากิ”ขอให้ทำเกมลง DS เครื่องเกมสำหรับทุกเพศทุกวัยหรือเปล่า ปริศนาในเกมจึงค่อนข้างง่าย

อย่างไรก็ตาม คอเกมฮารด์คอร์สามารถเล่นอีกรอบในระดับที่ยากขึ้นเพื่อปลดล็อกสิ่งต่างๆในเกมได้ และเอาคะแนน Karma มาโชว์ให้เพื่อนๆทั่วโลกดูได้ผ่าน Wi-Fi ส่วนระบบเสียงทำตามหน้าที่ของเกมแอ็กชันได้อย่างดี แต่ไม่มีอะไรโดดเด่นเป็นพิเศษ

สรุปสุดท้ายสั้นๆง่ายๆ เกมนี้ “เกือบจะดีเยี่ยม” เพราะแม้จะมีจุดเสียอยู่บ้าง แต่สำหรับการควบคุมถือว่าสอบผ่าน แถมด้วยภาพที่สวยงามกว่าเกมของเครื่อง DS ทั่วไป ตัวเกมที่ดุเดือด ลื่นไหลรวดเร็ว ถือว่าเป็นประสบการณ์ใหม่สำหรับคอเกมเลยทีเดียว ส่วนตัวแล้วถ้าเกมนี้ใส่ปริศนาที่ซับซ้อนลงไปมากว่านี้ หรือเนื้อเรื่องที่เข้มข้นกว่านี้ และตัวเกมยาวกว่านี้อาจเป็นหนึ่งในเกมแห่งปีของ DS ไปได้ไม่ยาก เผลอๆอาจจะสนุกกว่าเกมแนวนี้บนเครื่องคอนโซลด้วยซ้ำ เพราะเรายังไม่ทันฟันจนสะใจ เกมก็จบเสียแล้ว หวังว่าถ้ามีภาคต่อ ตัวเกมจะยาวกว่านี้หน่อย แต่อย่างน้อยเกมนี้ก็แสดงให้เห็นว่า เกมดีๆที่ออกมาจาก Third party ก็มีเหมือนกัน เพียงแต่ว่าจะตั้งใจทำหรือเปล่าเท่านั้นเอง

เกมการเล่น9
กราฟิก9
เสียง8
ความคิดสร้างสรรค์9
ความคุ้มค่าสนุกแต่สั้นไปหน่อย
ภาพรวม8.8


วงศกร ปฐมชัยวัฒน์ (Darth.vader)








กำลังโหลดความคิดเห็น