คลัสเตอร์สิ่งทอฯ ฮึดสร้างนวัตกรรม จับกระแสสุขภาพ แก้โลกร้อน

แนะทางรอดเอสเอ็มอีไทยร่วมกลุ่มคลัสเตอร์เพิ่มศักยภาพแข่งขันในเวทีโลกยุคไร้พรมแดน ยกต้นแบบ “กลุ่มคลัสเตอร์สิ่งทอเพชรเกษม” ชู 5 นวัตกรรมใหม่ เพิ่มมูลค่าสินค้า โดยจับกระแสสุขภาพ และช่วยแก้ปัญหาโลกร้อน

นายปราโมทย์ วิทยาสุข อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) เปิดเผยว่า การดำเนินงานส่งเสริมการรวมกลุ่มอุตสาหกรรมใกล้เคียงกัน หรือคลัสเตอร์ (Cluster)เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของผู้ประกอบการตั้งแต่ปี 2546 ถึงปัจจุบันมีการร่วมกลุ่มแล้ว 32 กลุ่ม มีวิสาหกิจสมาชิกกว่า 800ราย ทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค เช่น อุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร เครื่องหนัง สิ่งทอ เป็นต้น โดยภาครัฐได้ให้งบประมาณสนับสนุนรวมกว่า 40 ล้านบาท

สำหรับปี 2550 ที่ผ่านมา การรวมกลุ่มคลัสเตอร์ โดยเฉลี่ยช่วยให้สมาชิกมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็นมูลค่าสุทธิ 60,733,000 บาท และช่วยให้ลดต้นทุนผลิต สร้างกำไรต่อต้นทุนเพิ่ม 1.4 เท่า โดย กสอ. ตั้งเป้าจะขยายกลุ่มคลัสเตอร์ขึ้นอีก 8 กลุ่มในปีนี้ (2551)

อธิบดี กสอ. ระบุว่า การรวมกลุ่มคลัสเตอร์มีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะในโลกยุคไร้พรมแดนการแข่งขันเป็นไปอย่างรุนแรง โดยเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มอียิ่งจำเป็น เพราะปัจจุบันไม่สามารถจะต่อสู้ได้ด้วยตัวเองต่อไปแล้ว ซึ่งประโยชน์ของการร่วมคลัสเตอร์ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้ และแก้ไขปัญหาระหว่างกัน ตลอดจนพัฒนาเพิ่มมูลค่าสินค้า อย่างในรายของ “กลุ่มคลัสเตอร์สิ่งทอเพชรเกษม” ของผู้ประกอบการสิ่งทอในพื้นที่กรุงเทพฯ นครปฐม ราชบุรี และสมุทรสาคร ซึ่งมีสมาชิกประมาณ 50 ราย ตั้งแต่ผู้ผลิตวัตถุดิบเส้นใยถึงผู้จัดจำหน่ายเสื้อผ้าสำเร็จรูป ร่วมกลุ่มกันพัฒนานวัตกรรมสิ่งทอขึ้นใหม่ 5 นวัตกรรม เพื่อสร้างความแตกต่าง และเพิ่มมูลค่าสินค้า เน้นเป็นสินค้าสนองตลาดคนรักสุขภาพ และแก้ปัญหาโลกร้อน คือ นวัตกรรมเสื้อสมุนไพรกันเชื้อรา นวัตกรรมเสื้อสมุนไพร supercool นวัตกรรมสิ่งทอจากสีพิมพ์ธรรมชาติ นวัตกรรมTextile anibac and UV nano Zno และนวัตกรรมผ้าไหมที่บางที่สุด ซึ่งสมาชิกภายในกลุ่มสามารถนำนวัตกรรมดังกล่าวไปต่อยอด เพื่อผลิตสินค้าให้เกิดจุดเด่นของตัวเองต่อไปได้