xs
xsm
sm
md
lg

ทุเรียนทอด ‘แม่เอ็นดู’ ยกเครื่อง สแนคไทยของดีเมืองจันท์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ทุเรียนจันทบุรีขึ้นชื่อเรื่องความหวานหอมอร่อย เป็นผลไม้ขึ้นชื่อประจำจังหวัด นอกจากกินแบบสดๆ แล้ว เมื่อนำไปแปรรูปทอดกรอบ ได้ความอร่อยไปอีกแบบ ซึ่งผู้ผลิตทุเรียนทอดแต่ละเจ้าล้วนมีสูตรเด็ดต่างกันไป อย่างยี่ห้อ “แม่เอ็นดู” ของ “เอ็นดู มะโนกิจถาวร” วัย 56 ปี เกษตรกรเมืองจันท์ ยึดจุดเด่นวัตถุดิบคุณภาพเยี่ยม และรักษามาตรฐานสม่ำเสมอ จนสามารถครองใจลูกค้ามายาวนานกว่า 10 ปีแล้ว

เอ็นดู เล่าให้ฟังว่า ทำอาชีพชาวไร่อยู่ใน ต.ตรอกนอง อ.ขลุง จ.จันทบุรีมาตั้งแต่เกิด มีพื้นที่สวน 28 ไร่ ปลูกผลไม้หลายชนิด ทั้งทุเรียน เงาะ กล้วย ขนุน ฯลฯ และมีอยู่ช่วงหนึ่ง ทุเรียนล้นตลาดราคาตกต่ำ จึงลองนำผลผลิตมาแปรรูปทอดอบกรอบบรรจุถุงฝากขายตามร้านขายของที่ระลึกประจำจังหวัด ช่วงแรกขายไม่ดีนัก เพราะรสชาติยังไม่ถูกปากลูกค้า จึงนำคำติชมกลับมาพัฒนาปรับปรุงเรื่อยๆ ลองผิดลองถูกกว่าปี จนได้รสชาติที่ลูกค้าติดใจ

*** เปิดสูตรลับทุเรียนทอด “แม่เอ็นดู”

จุดเด่นนั้น เอ็นดู เผยว่า อยู่ที่ความสดใหม่ ต้องใช้ทุเรียน “หมอนทอง” คุณภาพดีเท่านั้น โดยเลือกทุเรียนแก่จัด แต่ไม่ถึงกับสุก เมื่อทอดและอบแล้วจะได้รสชาติหวานหอมกำลังดี ส่วนน้ำมันพืชที่ใช้ทอด ต้องเปลี่ยนบ่อยๆ ห้ามใช้ของเก่าเก็บค้าง เพราะจะเกิดกลิ่นหื่น ประกอบกับต้องอาศัยความชำนาญในการอบ เพื่อให้เก็บรักษาความกรอบและรสชาติอร่อยไว้ได้นานเป็นปี

ต้องยอมรับว่าใน จ.จันทบุรี มีผู้ผลิตทุเรียนทอดอบกรอบหลายราย และเกือบทั้งหมดรสชาติก็อร่อยไม่แพ้กัน แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้สินค้าของ “แม่เอ็นดู” มีลูกค้าขาประจำติดตามอย่างยาวนานนับสิบปีนั้น เจ้าของธุรกิจระบุว่า ใช้หลักความซื่อสัตย์ต่อลูกค้า ทุกครั้งที่ลงมือทำ จะใส่ความตั้งใจลงไป คิดอยู่เสมอว่า กำลังทำให้ลูกๆ ของเธอกินเอง

“ป้าจะยึดความเสมอต้นเสมอปลาย เคยทำขนาดชิ้นใหญ่อย่างไร ทุกวันนี้ก็ยังต้องให้ชิ้นขนาดเท่าเดิม รสชาติเหมือนเดิม และขายในราคายุติธรรม อย่าเอาเปรียบลูกค้า ทำให้ลูกค้าเชื่อใจเรา แล้วกลับมาซื้อเรื่อยๆ” ป้าวัย 56 ปี กล่าว

***เผยแปรรูปเหลือน้ำหนักแค่ 1 ใน 10

ทั้งนี้ ในการแปรรูปทุเรียนทอดอบกรอบนั้น ปัจจุบัน วัตถุดิบทุเรียนสดจะรับซื้อจากชาวบ้านในท้องที่ใกล้เคียง ราคากิโลกรัม (กก.) ละ 20 บาท เมื่อนำมาแปรรูปแล้ว น้ำหนักจาก 10 กก.จะเหลือเป็นทุเรียนทอดอบกรอบแค่ 1 กก. เท่านั้น ราคาขายส่งอยู่ที่ กก.ละ 300-350 บาท ซึ่งราคาดังกล่าวเมื่อหักต้นทุนทุกอย่างแล้ว จะเหลือกำไรเพียง กก. ละประมาณ 10-20% เท่านั้น

สำหรับช่องทางจำหน่ายนั้น โดยหลักแล้วจะเน้นขายส่งให้ร้านตัวแทนจำหน่ายใน จ.จันทบุรี จ.ตราด และตลาดไท ที่กรุงเทพฯ รวมถึงมีตัวแทนรับไปส่งขายประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย เฉลี่ยแล้วต่อเดือนมียอดส่งประมาณ 1,000 กก.

ส่วนการขายภายใต้ยี่ห้อ “แม่เอ็นดู” ของตัวเอง ยังถือว่าน้อยมาก เนื่องจากการขายในลักษณะนี้ จำเป็นใช้ทุนสูง โดยต้องยอมลงทุนผลิตสินค้าแล้วไปฝากขาย รอถึงปลายเดือนจึงเก็บเงินได้ ซึ่งไม่เหมาะกับสภาพธุรกิจปัจจุบันที่ยังจำเป็นต้องใช้เงินสดไปหมุนเวียนซื้อวัตถุดิบ

***ยกเครื่องทุเรียนทอดสู่สแนค

ปัญหาทุกวันนี้ เอ็นดู เผยว่า ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นราคาทุเรียนสด ราคาน้ำมันพืช และค่าพลังงานแก๊สหุงต้น เป็นต้น ดังนั้น จึงต้องขอสินเชื่อจากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) จำนวน 400,000 บาท ไว้ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน

อย่างไรก็ตาม เวลานี้ ทายาทของเธอ คือ “ธนาวุฒิ และกัญญณัช มะโนกิจถาวร” พยายามมาช่วยต่อยอดธุรกิจ เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า ด้วยการลงทุนกว่าแสนบาท พัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้มีความทันสมัยขึ้น หวังให้ทุเรียนทอดอบกรอบของไทย กลายให้เป็นสแนค คล้ายๆ กับมันฝรั่งทอดจากต่างประเทศ โดยออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้หน้าตาสวยแปลกตา และหลากหลายทั้งแบบซองใหญ่ ซองเล็ก และใส่กระป๋อง เป็นต้น รวมถึง ผ่านมาตรฐานของ อย. และได้รับคัดเลือกเป็นสินค้าโอทอประดับ 4 ดาว

ทว่า ช่องทางขายตอนนี้ยังไม่กว้างมากนัก อาศัยแค่ออกขายตามงานแสดงสินค้าโอทอป และการที่เป็นลูกค้าของเอสเอ็มอีแบงก์ ทางธนาคารช่วยพาไปออกงานแสดงสินค้าต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ ทั้งนี้ หวังว่า ในอนาคต อยากจะขยายตลาดทุเรียนทอดแบบสแนคให้กว้างขึ้น รวมถึง หาตลาดใหม่ๆ เพื่อขายสินค้าภายใต้ยี่ห้อ “แม่เอ็นดู” ของตัวเองให้มากยิ่งขึ้นด้วย

***********************

โทร.0-3938-6049 , 08-1864-7357 และ 08-7132-2955

กำลังโหลดความคิดเห็น